ศศิธาราฟุ้ง อาเซียนรับขอเสนอ ขยายเวลาข้อตกลงเคลื่อนย้ายแรงงานเสรีไปถึงปี 2558 พร้อมชูความร่วมมือ อาเซียน วัน ซิงเกิ้ล เดสติเนชั่น ขณะเดียวกันขอโต้กลับ”ชุมพล” ทุกข้อกล่าวหา ยันที่ผ่านมาผลงานเป็นที่ประจักษ์ แต่อุปสรรคมาจากรโยบายไม่นิ่ง ย้ำคุณสมบัติปลัดคนใหม่ต้องมีกึ๋น
น.ส.ศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยผลการร่วมประชุมรัฐมนตรีอาเซียนตามที่ได้รับมอบหมายจากนายชุมพล สิลปอาชา รมว.กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาให้ไปร่วมประชุมแทน ที่ประเทศบรูไน ว่า ที่ประชุม เห็นด้วยกับประเทศไทย ในเรื่องการขยายเวลาการเคลื่อนย้ายแรงงานในภูมิภาคอาเซียนแบบเสร ไปอีก 5 ปีข้างหน้า หรือในปี 2558 จากเดิมกำหนดไว้ในปีนี้ เพื่อต้องการให้ทุกประเทศได้เตรียมความพร้อมในเรื่องการจัดทำหลักสูตรอบรมบุคคลากร และ การกำหนดเกณฑ์ต่างๆให้เป็นมาตรฐาน นอกจากนั้นที่ประชุมยังเห็นชอบ”การจัดทำแผนกลยุทธ์ด้านการท่องเที่ยวร่วมกัน” ภายใต้แนวคิดนำเสนออาเซียนเป็นเดสติเนชั่นหนึ่งเดียว หรือ “อาเซียน วัน ซิงเกิ้ล เดสติเนชั่น : ฟีล เดอะ วอร์ม ออฟ เซาท์ อีสต์ เอเชีย” เน้นทำการตลาดผ่านเทคโนโลยีสารสนเทศ ในรูปแบบออนไลน์ โดยประเทศไทยได้เสนอให้ รัฐบาลของทุกประเทศในอาเซียน ช่วยสนับสนุนงบประมาณผ่านหน่วยงานรัฐในภาคการท่องเที่ยวของแต่ละประเทศ เพื่อร่วมกันจัดำแผนยุทธศาสตร์ท่องเที่ยวอาเซียนในครั้งนี้
***โต้”ชุมพล”ขาดธรรมาภิบาล****
สำหรับประเด็นคำสั่งโยกย้ายตนให้ไปรับตำแหน่งที่ปรึกษาสำนักนายกรัฐมนตรี ตามการเสนอของนายชุมพล ศิลปอาชา รมว.กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ด้วยเหตผลปัญหาด้านการบริหารและการทำงานที่ขาดการประสานงานและติดตามผล น.ส.ศศิธารา กล่าวว่า ยังไม่ได้เข้าพบ นายชุมพล เพื่อสอบถามสาเหตุ มีเพียงได้ข้อมูลจากสื่อมวลชนซึ่งโดยส่วนตัวเห็นว่า เป็นเหตุผลที่ไม่ชัดเจน และไม่สอดคล้องกับระบบคุณธรรมและธรรมาภิบาล โดยส่วนตัวยืนยันว่าไม่ได้ทำอะไรผิด การบริหารงานก็ไม่ผิดพลาด และไม่เคยทุจริต
“ถ้าการโยกย้ายครั้งนี้มีเหตุผลชัดเจน ก็ไม่มีปัญหา เพราะตามธรรมเนียมไทยต้องเคารพผู้ใหญ่อยู่แล้ว ท่านอาจไม่ชอบการทำงานในแบบของเรา ส่วนการจะไปฟ้องร้องต่อศาลปกครอง หรือไม่ ต้องขอเวลาศึกษาข้อมูลก่อน “
***แจงมีผลการดีตลอด 3 ปี ****
น.ส.ศศิธารายังชี้แจงถึงการทำงานตลอดเวลา 3 ปีที่ผ่านมาว่า ในส่วนของการขอรับจัดสรรงบประมาณประจำปี ตั้งแต่ปี 2551-2553 ได้รับจัดสรรที่ปีละ 1.126 หมื่นล้านบาท 1.225 หมื่นล้านบาทและ 9.89 พันล้านบาท ตามลำดับนั้น เป็นเพราะ สถานะทางการเงินของรัฐบาลทมี่ต้องใช้งบประมาณอย่างจำกัด โดยในปี 2552 ซึ่งได้รับจัดสรรงบที่ 1.126 หมื่นล้านบาท แต่ก็ได้รับงบกลางเพิ่มเติมอีกประมาณ 3 พันล้านบาท รวมทั้งสิ้น 1.5 หมื่นล้านบาท กรณีทำงานล่าช้านั้น ช่วงงบประมาณปี 2552 กระทรวงได้เสนอของบประมาณไป 27 เรื่อง ผ่านความเห็นชอบ 16 เรื่อง คิดเป็น 59.26 % รับทราบ 11 เรื่อง ซึ่งถือว่าเข้าเป็นจำนวนมากในช่วงระยะเวลา 1 ปี
***ชี้นโยบายไม่นิ่งกระทบการทำงาน*****
งานด้านให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการท่องเที่ยว ที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจปัญหาภายในประเทศ ที่วงเงินเหลือ 5 พันล้านบาท จากที่ขอ1.5 หมื่นล้านบาทนั้นเป็นเพราะ นายชุมพล ได้ขอให้ทบทวนวงเงินใหม่เพราะ เกรงว่าจะสร้างความลำบากใจให้กับรัฐบาลในการอนุมัติ ส่วนการเปลี่ยนชื่อสำนักงานพัฒนาการกีฬาและนันทนาการ เป็นกรมพลศึกษา ได้เดินหน้าจนกระทั่งทำเรื่องเตรียมเข้าครม. แล้ว แต่ฝ่ายนโยบายก็สั่งให้ยุติเรื่องนี้, การจัดทำวาระท่องเที่ยวแห่งชาติ เตรียมมเข้า ครม. แล้ว ก็ได้รับนโยบายให้ถอนเรื่องออกก่อน เป็นต้น สะท้อนให้เห็นว่าที่ระดับปฎิบัติงานทำงานไม่คืยบหน้ามาจากฝ่ายนโยบายไม่นิ่ง อย่างไรก็ตามผู้ที่จะมารับตำแหน่งปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวฯ ต้อง เป็นผู้มีความรู้ความเชี่ยวชาญ เป็นที่ยอมรับของนานาประเทศในโลก เพราะต้องประสานงานกับนานาชาติ จะดูแค่อาวุโสอย่างเดียวไม่ได้
*** ส่วนประเด็นที่เคยสั่งย้ายนางธนิฏฐา มณีโชติ อดีตผู้อำนวยการสำนักพัฒนาการท่องเที่ยว (สพท.) ซึ่งเป็นบุตรสาวของพลอากาศเอกสิทธิ เศวตศิลา องคมนตรี ไปเป็นที่ปรึกษาที่สำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งหลายฝ่ายเชื่อว่าอาจเป็นปมที่ทำให้เกิดการแก้แค้นและนำมาสู่การย้ายสลับตำแหน่งในครั้งนี้ น.ส.ศศิธารา ระบุว่า คำสั่งโยกย้ายดังกล่าว อาจทำให้ นางธนิฏฐาไม่พอใจ แต่จริงๆแล้วเรื่องการสั่งย้ายดังกล่าวเป็นนโยบายที่สั่งมา ซึ่งตนได้ทัดทานแล้วแต่ไม่สามารถทำได้ จึงตอบไม่ได้ว่าเรื่องนี้จะเป็นชนวนของการโยกย้ายครั้งนี้หรือไม่
น.ส.ศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยผลการร่วมประชุมรัฐมนตรีอาเซียนตามที่ได้รับมอบหมายจากนายชุมพล สิลปอาชา รมว.กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาให้ไปร่วมประชุมแทน ที่ประเทศบรูไน ว่า ที่ประชุม เห็นด้วยกับประเทศไทย ในเรื่องการขยายเวลาการเคลื่อนย้ายแรงงานในภูมิภาคอาเซียนแบบเสร ไปอีก 5 ปีข้างหน้า หรือในปี 2558 จากเดิมกำหนดไว้ในปีนี้ เพื่อต้องการให้ทุกประเทศได้เตรียมความพร้อมในเรื่องการจัดทำหลักสูตรอบรมบุคคลากร และ การกำหนดเกณฑ์ต่างๆให้เป็นมาตรฐาน นอกจากนั้นที่ประชุมยังเห็นชอบ”การจัดทำแผนกลยุทธ์ด้านการท่องเที่ยวร่วมกัน” ภายใต้แนวคิดนำเสนออาเซียนเป็นเดสติเนชั่นหนึ่งเดียว หรือ “อาเซียน วัน ซิงเกิ้ล เดสติเนชั่น : ฟีล เดอะ วอร์ม ออฟ เซาท์ อีสต์ เอเชีย” เน้นทำการตลาดผ่านเทคโนโลยีสารสนเทศ ในรูปแบบออนไลน์ โดยประเทศไทยได้เสนอให้ รัฐบาลของทุกประเทศในอาเซียน ช่วยสนับสนุนงบประมาณผ่านหน่วยงานรัฐในภาคการท่องเที่ยวของแต่ละประเทศ เพื่อร่วมกันจัดำแผนยุทธศาสตร์ท่องเที่ยวอาเซียนในครั้งนี้
***โต้”ชุมพล”ขาดธรรมาภิบาล****
สำหรับประเด็นคำสั่งโยกย้ายตนให้ไปรับตำแหน่งที่ปรึกษาสำนักนายกรัฐมนตรี ตามการเสนอของนายชุมพล ศิลปอาชา รมว.กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ด้วยเหตผลปัญหาด้านการบริหารและการทำงานที่ขาดการประสานงานและติดตามผล น.ส.ศศิธารา กล่าวว่า ยังไม่ได้เข้าพบ นายชุมพล เพื่อสอบถามสาเหตุ มีเพียงได้ข้อมูลจากสื่อมวลชนซึ่งโดยส่วนตัวเห็นว่า เป็นเหตุผลที่ไม่ชัดเจน และไม่สอดคล้องกับระบบคุณธรรมและธรรมาภิบาล โดยส่วนตัวยืนยันว่าไม่ได้ทำอะไรผิด การบริหารงานก็ไม่ผิดพลาด และไม่เคยทุจริต
“ถ้าการโยกย้ายครั้งนี้มีเหตุผลชัดเจน ก็ไม่มีปัญหา เพราะตามธรรมเนียมไทยต้องเคารพผู้ใหญ่อยู่แล้ว ท่านอาจไม่ชอบการทำงานในแบบของเรา ส่วนการจะไปฟ้องร้องต่อศาลปกครอง หรือไม่ ต้องขอเวลาศึกษาข้อมูลก่อน “
***แจงมีผลการดีตลอด 3 ปี ****
น.ส.ศศิธารายังชี้แจงถึงการทำงานตลอดเวลา 3 ปีที่ผ่านมาว่า ในส่วนของการขอรับจัดสรรงบประมาณประจำปี ตั้งแต่ปี 2551-2553 ได้รับจัดสรรที่ปีละ 1.126 หมื่นล้านบาท 1.225 หมื่นล้านบาทและ 9.89 พันล้านบาท ตามลำดับนั้น เป็นเพราะ สถานะทางการเงินของรัฐบาลทมี่ต้องใช้งบประมาณอย่างจำกัด โดยในปี 2552 ซึ่งได้รับจัดสรรงบที่ 1.126 หมื่นล้านบาท แต่ก็ได้รับงบกลางเพิ่มเติมอีกประมาณ 3 พันล้านบาท รวมทั้งสิ้น 1.5 หมื่นล้านบาท กรณีทำงานล่าช้านั้น ช่วงงบประมาณปี 2552 กระทรวงได้เสนอของบประมาณไป 27 เรื่อง ผ่านความเห็นชอบ 16 เรื่อง คิดเป็น 59.26 % รับทราบ 11 เรื่อง ซึ่งถือว่าเข้าเป็นจำนวนมากในช่วงระยะเวลา 1 ปี
***ชี้นโยบายไม่นิ่งกระทบการทำงาน*****
งานด้านให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการท่องเที่ยว ที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจปัญหาภายในประเทศ ที่วงเงินเหลือ 5 พันล้านบาท จากที่ขอ1.5 หมื่นล้านบาทนั้นเป็นเพราะ นายชุมพล ได้ขอให้ทบทวนวงเงินใหม่เพราะ เกรงว่าจะสร้างความลำบากใจให้กับรัฐบาลในการอนุมัติ ส่วนการเปลี่ยนชื่อสำนักงานพัฒนาการกีฬาและนันทนาการ เป็นกรมพลศึกษา ได้เดินหน้าจนกระทั่งทำเรื่องเตรียมเข้าครม. แล้ว แต่ฝ่ายนโยบายก็สั่งให้ยุติเรื่องนี้, การจัดทำวาระท่องเที่ยวแห่งชาติ เตรียมมเข้า ครม. แล้ว ก็ได้รับนโยบายให้ถอนเรื่องออกก่อน เป็นต้น สะท้อนให้เห็นว่าที่ระดับปฎิบัติงานทำงานไม่คืยบหน้ามาจากฝ่ายนโยบายไม่นิ่ง อย่างไรก็ตามผู้ที่จะมารับตำแหน่งปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวฯ ต้อง เป็นผู้มีความรู้ความเชี่ยวชาญ เป็นที่ยอมรับของนานาประเทศในโลก เพราะต้องประสานงานกับนานาชาติ จะดูแค่อาวุโสอย่างเดียวไม่ได้
*** ส่วนประเด็นที่เคยสั่งย้ายนางธนิฏฐา มณีโชติ อดีตผู้อำนวยการสำนักพัฒนาการท่องเที่ยว (สพท.) ซึ่งเป็นบุตรสาวของพลอากาศเอกสิทธิ เศวตศิลา องคมนตรี ไปเป็นที่ปรึกษาที่สำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งหลายฝ่ายเชื่อว่าอาจเป็นปมที่ทำให้เกิดการแก้แค้นและนำมาสู่การย้ายสลับตำแหน่งในครั้งนี้ น.ส.ศศิธารา ระบุว่า คำสั่งโยกย้ายดังกล่าว อาจทำให้ นางธนิฏฐาไม่พอใจ แต่จริงๆแล้วเรื่องการสั่งย้ายดังกล่าวเป็นนโยบายที่สั่งมา ซึ่งตนได้ทัดทานแล้วแต่ไม่สามารถทำได้ จึงตอบไม่ได้ว่าเรื่องนี้จะเป็นชนวนของการโยกย้ายครั้งนี้หรือไม่