วาเลนไทน์ ฮ็อต ส่งความรักผ่าน SMS และ MMS สื่อรักรูปแบบใหม่ ที่กำลังมาแรงในปัจจุบันและคาดว่าจะเป็นสื่อรักยอดนิยมในปีนี้ โดย การแชท (Chat) หรือการส่งข้อความ ซึ่งสามารถพูดคุยตอบโต้กันได้ในลักษณะเรียลไทม์ ในเครือข่ายสังคมของตนเองที่ใช้โทรศัพท์แบรนด์เดียวกัน โดยผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ต่างรุกตลาดนี้อย่างหนัก โดยมีการแข่งขันกันทั้งในเรื่องราคาของตัวเครื่อง รวมถึงแพคเกจราคาค่าบริการกันอย่างรุนแรง
ศูนย์วิจัย กสิกรไทย รายงานว่า วันวาเลนไทน์ หรือวันแห่งความรัก ได้กลายมาเป็นอีกวันหนึ่งที่คนไทยกลุ่มหนึ่งจะให้ความสำคัญเป็นพิเศษในการที่จะบอกหรือแสดงความรักให้กับคนรัก บุคคลในครอบครัว และเพื่อนฝูง ซึ่งกิจกรรมที่ทำกันในวันนี้โดยทั่วไปแล้วจะมีการมอบดอกไม้ ช็อกโกแลต และการส่งข้อความผ่านสื่อดิจิตอลอย่างโทรศัพท์เคลื่อนที่ ที่มีบริการให้เลือกใช้หลากหลาย เช่น การส่งข้อความสั้น หรือ SMS และการส่งข้อความมัลติมีเดีย หรือ MMS เช่น รูปภาพ และข้อความเสียง เป็นต้น และการส่งข้อความทางโทรศัพท์เคลื่อนที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเป็นลำดับ จนกลายเป็นสื่อยอดนิยมในทุกเทศกาล
สำหรับในช่วงเทศกาลแห่งความรักตลาดให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่จะมีความคึกคักเป็นพิเศษ โดยผู้ให้บริการด้านคอนเทนท์ และผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่จะออกผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น รูปภาพ ข้อความ รวมถึงเพลงที่สื่อถึงความรัก เพื่อให้ผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่สามารถดาวน์โหลดและส่งหาคนที่ต้องการบอกรัก ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ได้ทำการสำรวจพฤติกรรมผู้บริโภคในช่วงวันวาเลนไทน์ปี 2553 ในช่วงวันที่ 18-31 มกราคม 2553 โดยมีผู้ตอบแบบสอบถามจำนวน 485 คน มีอายุระหว่าง 11-25 ปี ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายที่มักจะให้ความสนใจเป็นพิเศษกับเทศกาลวันแห่งความรัก และเป็นกลุ่มที่มีความคุ้นเคยกับเทคโนโลยีบนโทรศัพท์เคลื่อนที่
**หนุ่ม-สาว ชาวกรุงฯ … นิยมส่งความรักผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่
การสำรวจพฤติกรรมการส่งข้อความแสดงความรักในวันวาเลนไทน์ ปี 2553 ศูนย์วิจัยกสิกรไทย พบว่า การสอบถามถึงกิจกรรมที่ท่านเลือกทำในวันวาเลนไทน์ (ซึ่งสามารถเลือกตอบได้มากกว่า 1 ข้อ) พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่คิดที่จะส่งข้อความแสดงความรักผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่คิดเป็นร้อยละ 34.3 ของกลุ่มตัวอย่าง ในขณะที่รองลงมา คือ การไปชมภาพยนตร์ และรับประทานอาหารนอกบ้าน คิดเป็นร้อยละ 17.7 และ 17.1 ตามลำดับ
จากผลสำรวจ พบว่า กลุ่มอายุระหว่าง 23-25 ปี จะส่งข้อความแสดงความรักโดยใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่คิดเป็นร้อยละ 30.0 ในขณะที่รองลง คือ อายุระหว่าง 20 -22 ปี คิดเป็นร้อยละ 21.6 และอายุระหว่าง 14-16 ปี คิดเป็นร้อยละ 21.5 ของกลุ่มตัวอย่าง
**SMS สื่อรักยอดฮิตประจำวันแห่งความรัก
เมื่อสอบถามถึงทางเลือกในการส่งข้อความผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามยังคงเลือกการส่ง SMS คิดเป็นร้อยละ 85.1 ของกลุ่มตัวอย่าง สำหรับสาเหตุที่ SMS ยังคงเป็นที่นิยม น่าจะมาจากราคาค่าบริการที่ถูกกว่าการส่ง MMS ซึ่งจะเห็นได้จากโปรโมชั่นค่าบริการส่ง SMS ของผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่บางรายเริ่มต้นเพียง 25 สตางค์ การส่งฟรีในเครือข่ายเดียวกัน รวมถึงแพคเกจแบบเหมาจ่าย เช่น การส่ง SMS 110 ข้อความ ในราคา 79 บาท เป็นต้น อีกทั้งการส่ง SMS ยังง่ายต่อการใช้ ซึ่งในบางกรณีจะมีการส่งข้อความที่ได้รับต่อไปยังกลุ่มเพื่อนๆ โดยไม่ต้องพิมพ์ซ้ำ นอกจากนี้ในปัจจุบันผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่โดยส่วนใหญ่ยังเป็นรูปแบบ Traditional Hand set ซึ่งโทรศัพท์รุ่นดังกล่าวนี้ไม่รองรับการส่งรูปภาพ หรือ เสียงเพลง สำหรับผู้ตอบแบบสอบถามเลือกส่ง MMS คิดเป็นร้อยละ 12.6 ของกลุ่มตัวอย่าง
ในขณะที่การส่งข้อความแสดงความรักผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ในรูปแบบอื่น คือ การส่งข้อความในรูปแบบการสนทนา (Chat) ซึ่งคล้ายกับการสนทนาทาง MSN ที่กำลังเป็นที่นิยมในกลุ่มผู้ใช้โทรศัพท์รุ่นที่รองรับกิจกรรมนี้โดยเฉพาะ คิดเป็นร้อยละ 2.3 ของกลุ่มตัวอย่าง ซึ่งการส่งข้อความรูปแบบนี้กำลังมาแรงดังจะเห็นได้จากในช่วงเทศกาลวันขึ้นปีใหม่ 2553 ที่ผ่านมา มีการใช้บริการส่งความสุขผ่านช่องทางดังกล่าวเป็นจำนวนมาก
**วันวาเลนไทน์ปี 2553 ... ส่งข้อความถึงเพื่อนรักและเพื่อนร่วมงานสูงสุด
การส่งข้อความแสดงความรักในวันวาเลนไทน์คงจะไม่ได้หมายถึงการส่งให้แก่แฟน หรือคนรักเท่านั้น ทั้งนี้เมื่อสอบถามถึงบุคคลที่คิดจะส่งข้อความแสดงความรักผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ (ซึ่งสามารถเลือกตอบได้มากกว่า 1 ข้อ) พบว่า ส่งข้อความไปให้กับเพื่อนและบุคคลที่ทำงานมีสัดส่วนที่สูง คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 44.2 รองลงมา คือ การส่งข้อความถึงพ่อแม่และครอบครัว คิดเป็นร้อยละ 27.1
ในขณะที่การส่งข้อความถึงคนรักคิดเป็นร้อยละ 25.4 ของกลุ่มตัวอย่าง สำหรับสาเหตุที่การส่งข้อความถึงคนรักมีสัดส่วนที่น้อยนั้น มาจากผู้ตอบแบบสอบถามเลือกที่จะใช้ช่องทางการแสดงความรักโดยการให้สิ่งของแทนการส่งข้อความ เช่น การให้ดอกกุหลาบ ช็อกโกแลต เป็นต้น และในบางกลุ่มของผู้ตอบแบบสอบถามเลือกที่จะพาคนรักไปทานอาหาร และชมภาพยนตร์ในวันแห่งความรักนี้ นอกจากนี้การส่งข้อความถึงคนรักยังมีให้เลือกหลายช่องทาง โดยเฉพาะในโลกออนไลน์ อย่างการโพสต์ข้อความใน Facebook ถึงคนรัก ก็เป็นอีกช่องทางหนึ่งที่กำลังเป็นที่นิยมอย่างมาก
เมื่อสอบถามถึงจำนวนการส่งเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมานั้น พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามคิดว่าจะส่งข้อความเท่าเดิมคิดเป็นร้อยละ 48.8 ของกลุ่มตัวอย่าง ในขณะที่ผู้ตอบแบบสอบถามที่คิดว่าจะส่งเพิ่มขึ้นในปีนี้ คิดเป็นร้อยละ 42.2 และผู้ตอบแบบสอบถามคิดว่าจะส่งคำอวยพรลดลงมีเพียงร้อยละ 8.7 ของกลุ่มตัวอย่าง ในขณะที่จำนวนบุคคลที่คิดจะส่งข้อความให้ ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่จะส่งให้ 1-5 คน คิดเป็นร้อยละ 43.4ของกลุ่มตัวอย่าง ในขณะที่รองลงมา จะส่งให้ 6-10 คน ประมาณร้อยละ 26.2 ของกลุ่มตัวอย่าง และจะส่งให้ 11-15 คน ประมาณร้อยละ 20.1 ของกลุ่มตัวอย่าง
**จับตาเครือข่ายสังคมสื่อรักใหม่มาแรง
ในปัจจุบันการแสดงความรักโดยการส่งข้อความผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งในการทำกิจกรรมในวันวาเลนไทน์ โดยเฉพาะการส่ง SMS ซึ่งเป็นสื่อดิจิตอลที่มีมานานมากกว่า 10 ปี แต่ก็ยังได้รับความนิยมในการใช้อย่างต่อเนื่อง ในขณะที่การส่ง MMS แม้ว่าจะมีสัดส่วนที่น้อยกว่าการส่ง SMS แต่ ปริมาณการส่งเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และในปัจจุบันเมื่อตลาดให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่มีการแข่งขันกันอย่างรุนแรง ทำให้ผู้ให้บริการต่างต้องปรับผลิตภัณฑ์ ราคาค่าบริการให้สอดคล้องกับภาวะการแข่งขันในตลาด เช่น การปรับลดราคาค่าบริการการส่งข้อความ SMS และ MMS การทำโปรโมชั่นแพคเกจแบบเหมาจ่าย หรือ การส่งข้อความฟรีในเครือข่ายเดียวกัน สำหรับการใช้บริการส่งข้อความแสดงความรักผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ในวันวาเลนไทน์ ปี 2553 ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่าจะมีประมาณ 35 ล้านข้อความ เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.4 จากปี 2552 (มีประมาณ 32 ล้านข้อความ) โดยจะมีการส่งเฉลี่ยประมาณ 7 ข้อความต่อคน
โดยสรุป การส่งแสดงความรักผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ในวันวาเลนไทน์ปี 2553 นี้ คงจะมีความคึกคักไม่แพ้ในปีที่ผ่านมา โดยการส่ง SMS และ MMS คาดว่าจะมีจำนวนเพิ่มขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ดีในปี 2553 นี้ การแสดงความรักผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ในรูปแบบใหม่ที่กำลังมาแรงในปัจจุบันและคาดว่าจะเป็นสื่อรักยอดนิยมในปีนี้ คือ การแชท (Chat) หรือการส่งข้อความ ซึ่งสามารถพูดคุยตอบโต้กันได้ในลักษณะเรียลไทม์ ในเครือข่ายสังคมของตนเองที่ใช้โทรศัพท์แบรนด์เดียวกัน จะเห็นได้ว่าผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ต่างรุกตลาดนี้อย่างหนัก โดยมีการแข่งขันกันทั้งในเรื่องราคาของตัวเครื่อง รวมถึงแพคเกจราคาค่าบริการกันอย่างรุนแรง ทำให้ราคานั้นถูกลง ประกอบกับร้านค้าปลีกโทรศัพท์เคลื่อนที่บางแห่งได้นำเข้าโทรศัพท์แบรนด์ดังกล่าวจากต่างประเทศมาขายในราคาที่ถูกกว่า ทำให้ขนาดของกลุ่มลูกค้าที่จะสามารถซื้อโทรศัพท์แบรนด์นี้ได้มีจำนวนเพิ่มขึ้น จึงเป็นไปได้ว่าแนวโน้มการใช้บริการรูปแบบนี้คงจะมีการขยายตัวอย่างรวดเร็วในวันแห่งความรักปีนี้