กรีนสปอต เล็งเห็นโอกาสตลาดนมถั่วเหลืองในแอฟริกาเติบโต หลังส่งไวตามิ้ลค์บุกตลาดจนก้าวเป็นผู้นำอันดับ 1 เตรียมเพิ่มพื้นที่การทำสัญญาซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้าหรือ Contract Farming เพื่อลดปัญหาวัตถุดิบขาดแคลน และลดต้นทุนจากการสั่งซื้อวัตถุดิบจากต่างประเทศ
นายธรรมศักดิ์ จิตติมาพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท กรีนสปอต จำกัด ผู้ผลิตและส่งออกผลิตภัณฑ์ นมถั่วเหลืองแบรนด์ “ไวตามิ้ลค์” เปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัทฯ ส่งไวตามิ้ลค์ไปทำตลาดในทวีปแอฟริกา ทำให้เห็นว่าพื้นที่นี้มีศักยภาพและมีโอกาสที่จะเติบโตได้อีกมาก เนื่องจากประชากรในประเทศเหล่านี้ให้ความสำคัญเรื่องสุขภาพ ขณะเดียวกันผลิตภัณฑ์นมถั่วเหลืองยังมีราคาต่ำกว่านมวัวประมาณ 5-10% จึงได้รับความนิยมมากกว่า
ปัจจุบัน แอฟริกาเป็นตลาดส่งออกที่สำคัญของบริษัทฯ มีการส่งออกประมาณ 40% จากยอดส่งออกทั้งหมดบริษัทฯ หรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 200 ล้านบาท และไวตามิ้ลค์ยังได้รับความนิยมจนกลายเป็นแบรนด์อันดับ 1 ในแอฟริกาด้วย
“ความต้องการจากตลาดต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น ทำให้เราให้ความสำคัญกับเรื่องของวัตถุดิบที่ต้องมีอย่างเพียงพอ เพื่อผลิตสินค้าได้อย่างสม่ำเสมอตามที่ลูกค้าต้องการ ซึ่งปัจจุบันเราทำ Contract Farming กับเกษตรกรประมาณ 3,000 ราย อย่างไรก็ตาม ปริมาณวัตถุดิบยังไม่เพียงพอ จึงมีเป้าหมายที่จะเพิ่มการทำ Contract Farming ให้มากขึ้น โดยเพิ่มพื้นที่เพาะปลูกและพัฒนาให้วัตถุดิบของเกษตรกรไทยมีคุณสมบัติตามที่เราต้องการ ซึ่งผลพวงจากการที่ให้ความสำคัญกับการทำ Contract Farming นี้เอง ทำให้บริษัทฯ ได้รับรางวัล SR Mark (Social Responsibility Mark) จากกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งจะมอบให้กับองค์กรที่ใช้วัตถุดิบจากการทำ Contract Farming เพื่อส่งเสริมให้ผู้ประกอบการมีส่วนช่วยเหลือสังคมและเกษตรกรไทย” นายธรรมศักดิ์ กล่าว
นายธรรมศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การเพิ่มพื้นที่การทำ Contract Farming นอกจากจะทำให้บริษัทฯ มั่นใจว่าจะมีวัตถุดิบสำหรับผลิตไวตามิ้ลค์ส่งให้ลูกค้าตามที่ต้องการ ทราบราคาต้นทุนที่แน่นอนแล้ว และช่วยลดต้นทุนค่าขนส่งวัตถุดิบจากต่างประเทศ บริษัทฯ ยังได้สนับสนุนผลผลิตของเกษตรกรไทย เพื่อให้เกษตรกรและลูกหลานมีชีวิตที่ดีขึ้นจากรายได้ที่แน่นอน ชุมชนก็จะแข็งแรงและยั่งยืน
นายธรรมศักดิ์ จิตติมาพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท กรีนสปอต จำกัด ผู้ผลิตและส่งออกผลิตภัณฑ์ นมถั่วเหลืองแบรนด์ “ไวตามิ้ลค์” เปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัทฯ ส่งไวตามิ้ลค์ไปทำตลาดในทวีปแอฟริกา ทำให้เห็นว่าพื้นที่นี้มีศักยภาพและมีโอกาสที่จะเติบโตได้อีกมาก เนื่องจากประชากรในประเทศเหล่านี้ให้ความสำคัญเรื่องสุขภาพ ขณะเดียวกันผลิตภัณฑ์นมถั่วเหลืองยังมีราคาต่ำกว่านมวัวประมาณ 5-10% จึงได้รับความนิยมมากกว่า
ปัจจุบัน แอฟริกาเป็นตลาดส่งออกที่สำคัญของบริษัทฯ มีการส่งออกประมาณ 40% จากยอดส่งออกทั้งหมดบริษัทฯ หรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 200 ล้านบาท และไวตามิ้ลค์ยังได้รับความนิยมจนกลายเป็นแบรนด์อันดับ 1 ในแอฟริกาด้วย
“ความต้องการจากตลาดต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น ทำให้เราให้ความสำคัญกับเรื่องของวัตถุดิบที่ต้องมีอย่างเพียงพอ เพื่อผลิตสินค้าได้อย่างสม่ำเสมอตามที่ลูกค้าต้องการ ซึ่งปัจจุบันเราทำ Contract Farming กับเกษตรกรประมาณ 3,000 ราย อย่างไรก็ตาม ปริมาณวัตถุดิบยังไม่เพียงพอ จึงมีเป้าหมายที่จะเพิ่มการทำ Contract Farming ให้มากขึ้น โดยเพิ่มพื้นที่เพาะปลูกและพัฒนาให้วัตถุดิบของเกษตรกรไทยมีคุณสมบัติตามที่เราต้องการ ซึ่งผลพวงจากการที่ให้ความสำคัญกับการทำ Contract Farming นี้เอง ทำให้บริษัทฯ ได้รับรางวัล SR Mark (Social Responsibility Mark) จากกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งจะมอบให้กับองค์กรที่ใช้วัตถุดิบจากการทำ Contract Farming เพื่อส่งเสริมให้ผู้ประกอบการมีส่วนช่วยเหลือสังคมและเกษตรกรไทย” นายธรรมศักดิ์ กล่าว
นายธรรมศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การเพิ่มพื้นที่การทำ Contract Farming นอกจากจะทำให้บริษัทฯ มั่นใจว่าจะมีวัตถุดิบสำหรับผลิตไวตามิ้ลค์ส่งให้ลูกค้าตามที่ต้องการ ทราบราคาต้นทุนที่แน่นอนแล้ว และช่วยลดต้นทุนค่าขนส่งวัตถุดิบจากต่างประเทศ บริษัทฯ ยังได้สนับสนุนผลผลิตของเกษตรกรไทย เพื่อให้เกษตรกรและลูกหลานมีชีวิตที่ดีขึ้นจากรายได้ที่แน่นอน ชุมชนก็จะแข็งแรงและยั่งยืน
