xs
xsm
sm
md
lg

ศูนย์อนุรักษ์ฯ แจ้ง ตร.แพขนวัสดุก่อสร้างทำปะการังเกาะราชาพังยับ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลฯ โร่แจ้งตำรวจหลังพบแพขนวัสดุก่อสร้างทำให้ปะการังน้ำตื้นหน้าอ่าวสยามเกาะราชาใหญ่ จ.ภูเก็ต ได้รับความเสียหาย

วันนี้ (5 ธ.ค) ที่สถานีตำรวจภูธรฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายประจวบ โมฆรัตน์ เจ้าพนักงานประมง ชำนาญงาน ศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 5 จ.ภูเก็ต ได้เข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ท.ชนะ สุทธิมาศ สารวัตรเวร สภ.ฉลอง อ.เมืองภูเก็ต เพื่อให้ดำเนินคดีเรือขนส่งวัสดุก่อสร้างที่ทำให้ปะการังน้ำตื้นบริเวณหน้าอ่าวสยาม เกาะราชาใหญ่ จ.ภูเก็ต ได้รับความเสียหายจากเรือไปกระแทกขณะนำวัสดุก่อสร้างไปส่งที่บริเวณเกาะราชา

เมื่อวันที่ 4 ธ.ค ที่ผ่านมา ทางศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 5 จ.ภูเก็ตได้รับแจ้งจากประชาชนในพื้นที่เกาะราชาใหญ่ ว่ามีการชักลากแพขนส่งวัสดุก่อสร้างเข้าฝั่งบริเวณอ่าวสยาม เกาะราชาใหญ่ ตำบลราไวย์ อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต ต่อมาทางศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 5 จ.ภูเก็ต ออกตรวจสอบเนื่องจากพื้นที่ที่ทำการชักลากแพเข้าฝั่งมีแนวปะการังเกรงว่าจะเกิดผลกระทบทำความเสียหายให้กับแนวปะการัง

จากการดำน้ำสำรวจแนวปะการังบริเวณที่แพขนส่งวัสดุก่อสร้างลากผ่านตั้งแต่ด้านหน้าอ่าวสยามที่ระดับความลึกประมาณ 13 เมตร เข้าไปหาฝั่ง ปรากฎว่าที่ระดับความลึกน้ำประมาณ 1 – 1.5 เมตร ที่ละติจูด 07 องศา 36 ลิปดา 725 ฟิลิปดาเหนือ และลองติจูด 98 องศา 22 ลิปดา 151 ฟิลิปดาตะวันออก พบปะการังมีชีวิต จำพวกปะการังสมอง ปะการังโขด ปะการังโต๊ะ เกิดความเสียหาย แตกหัก จากการกระแทกของท้องแพบรรทุก พื้นที่กว้างประมาณ 10 เมตร และยาวประมาณ 15 เมตร ห่างจากฝั่งประมาณ 100 เมตร

นายประจวบ โมฆรัตน์ เผยว่าการกระทำดังกล่าว เข้าข่ายการกระทำที่ผิดกฎหมาย เนื่องจากปะการังเป็นสัตว์ป่าตามบัญชีรายชื่อสัตว์ป่าคุ้มครองท้ายกฎกระทรวง ที่ออกตามความในพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 การขุดทำลายแนวปะการังมีความผิดตามมาตรา 16 แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 และตามประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในบริเวณพื้นที่จังหวัดภูเก็ต พ.ศ 2546 จึงขอให้ทางตำรวจติดตามผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ขณะนายโสภณ สุขรินทร์ รองประธานชมรมอนุรักษ์และป้องกันตนเองเกาะราชา กล่าวว่า การขนวัสดุก่อสร้างเข้าไปทางอ่าวสยามในครั้งนี้ส่งผลให้แนวปะการังน้ำตื้นได้รับความเสียหายเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะปะการังโขด ซึ่งก่อนที่แพจะเข้าไปถึงชายฝั่งทางชาวบ้านได้แจ้งประสานไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดเพื่อให้ป้องกันปัญหานี้รวมทั้งศูนย์อนุรักษ์ฯแต่ก็ไม่สามารถที่จะห้ามไม่ให้แพเข้าไปได้

ก่อนหน้านี้ได้มีการพูดคุยกันไปแล้วในส่วนของผู้ประกอบการบนเกาะว่าในการขนวัสดุก่อสร้างนั้นให้แพเข้าไปจอดที่อ่าวทือ แทนที่จะเข้าจอดที่อ่าวสยาม ซึ่งชาวบ้านทราบดีว่าบริเวณดังกล่าวนั้นมีแนวปะการังจึงพยายามที่จะรักษากันไว้ แต่ก็มีการนำแพเข้ามาจนทำให้เกิดความเสียหายขึ้น ซึ่งครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้กับแนวปะการังของเกาะราชา ก่อนหน้านี้แพขนส่งวัสดุก่อสร้างได้ทิ้งปูนลงบนแนวปะการังมาแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งสร้างความเสียหายให้กับแนวปะการังเป็นอย่างมาก และขณะนี้ทางชาวบ้านได้รวบรวมฐานส่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการเพราะเชื่อว่าหลังจากนี้จะมีปัญหาแบบนี้เกิดขึ้นอีกอย่างแน่นอน

ด้านนายสุฑา ประทีป ณ ถลาง คณะทำงานบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติทางทะเลเกาะราชาใหญ่ กล่าวว่า บริเวณที่เกิดเหตุนั้นเป็นแนวปะการังน้ำตื้นซึ่งมีพื้นที่ได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก และปะการังโขดนั้นกว่าจะฟื้นตัวต้องใช้เวลานานหลายปี ซึ่งที่ผ่านมาคนในชุมชน และศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 5 จ.ภูเก็ตเห็นความสำคัญของการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติเพราะการพัฒนาทางด้านการท่องเที่ยวเข้าไปส่งผลกระทบและทำลายทรัพยากรธรรมชาติ

ที่ผ่านมาได้มีการหารือร่วมกันของผู้ประกอบการและประชาชนในการร่วมกันอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติโดยทำข้อตกลงต่างๆกันไว้รวมทั้งการเข้าจอดของแพขนส่งสินค้าและวัสดุก่อสร้างเพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นกับปะการังแต่สุดท้ายก็มีปัญหาเกิดขึ้นจนได้ ซึ่งเรื่องนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวมทั้งจังหวัดจะต้องเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นโดยเร็ว เพราะอาจจะทำให้เกิดความขัดแย้งระว่างคนในชุมชนกับผู้ประกอบการได้




กำลังโหลดความคิดเห็น