กูรูการตลาด ชี้ปรากฎการณ์สองเทศกาลตรุษจีน-วาเลนไทน์ฟีเวอร์ กำลังซื้อพุ่งเงินสะพัด 3.5 หมื่นล้านบาท แนะทัพสินค้าสบโอกาสลุยแคมเปญ ดูดลูกค้าวัยรุ่นยันครอบครัว ระบุควักอีเวนต์ตรุษจีนนำวาเลนไทน์ หลังกลุ่มเป้าหมายมีกำลังซื้อสูง ส่วนวันแห่งความรักอ่อนไหวต่อปัจจัยลบ หวั่นการเมืองกระทบคนไม่มีอารมณ์จับจ่าย
นายธีรพันธ์ โล่ห์ทองคำ นักการตลาด-นักวางกลยุทธ์หลายองค์กร และเป็นประธานกรรมการบริหารด้านการสื่อสาร บริษัท ธรู เดอะไลน์ คอมมิวนิเคชั่นส์ กล่าวว่า เทศกาลวาเลนไทน์กับตรุษจีนปีนี้ซึ่งเป็นวันเดียวกัน คือ วันที่ 14 กุมภาพันธ์ นับว่าเป็นโอกาสอันดีสำหรับการทำตลาด และเชื่อว่าบรรยากาศจะมีความคึกคักมากเป็นพิเศษ อีกทั้งยังเป็นช่วงเวลาที่ดีมีกลุ่มเป้าหมายถึง 2 กลุ่ม คือ วัยรุ่น และครอบครัว ทำให้มีเงินสะพัดมากกว่าทุกๆ ปีที่ผ่านมา แต่สำหรับนักการตลาดมองว่า การจัดกิจกรรมภายในงาน ควรนำตรุษจีนเป็นกิจกรรมหลักมากกว่าวาเลนไทน์ หรืออาจจัดเป็นมุมสำหรับสินค้าแห่งความรักมากกว่า
ทั้งนี้เพราะกลุ่มเป้าหมายเทศกาลตรุษจีนซึ่งเป็นกลุ่มผู้ใหญ่จะมีกำลังการซื้อมากกว่า เมื่อเทียบกับกลุ่มวัยรุ่น อีกทั้งยังเป็นเทศกาลต้อนรับปีใหม่ของคนไทยเชื้อสายจีน ซึ่งมีความเชื่อในเรื่องของโชคลางต่างๆ เสริมธุรกิจหรือกิจการให้รุ่งเรือง ในขณะที่วาเลนไทน์ เป็นเทศกาลที่เกี่ยวเนื่องของอารมณ์มากกว่า ดังนั้นหากเกิดปัจจัยลบ อาทิ ปัญหาการเมืองไทย หรือเกิดความรุนแรง จะทำให้ผู้บริโภคไม่มีอารมณ์จับจ่ายใช้สอย
“ความบังเอิญสำหรับปีนี้ที่เทศกาลวันวาเลนไทน์ตรงกับตรุษจีน ในแง่ลบสำหรับนักการตลาด คือทำให้เสียโอกาสจัดอีเวนต์ใหญ่ 2 ครั้งในรอบ 1 เดือนไป หรือคอนเซปต์ของงานอาจแกว่งไปได้ ทำให้ผู้บริโภคสับสน และหากพิจารณาเทศกาลตรุษจีน เป็นวันสำหรับครอบครัว ดังนั้นกิจกรรมต่างๆ ของวัยรุ่นในช่วงเวลาวาเลนไทน์ อาจสะดุดลง เพราะต้องทำกิจกรรมร่วมกับครอบครัวมากกว่า”
'ตัน'ชี้ แตะเอียทำกำลังซื้อเพิ่ม
นายตัน ภาสกรนที กรรมการผู้จัดการ บริษัท โออิชิ กรุ๊ป ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายชาเขียวพร้อมดื่มโออิชิ เปิดเผยถึงการทำตลาดในช่วงวันวาเลนไทน์และเทศกาลตรุษจีนที่ตรงกันปีนี้ว่า เป็นโอกาสทางการตลาดอันดี เนื่องจากกำลังการซื้อของผู้บริโภคจะดีกว่าในช่วงปกติ เพราะในช่วงเทศกาลตรุษจีนจะมีเงินแตะเอีย ส่งผลให้ผู้บริโภคออกมาจับจ่ายใช้สอยมากกว่าปกติ และเอื้อต่อสินค้าที่จำหน่ายในช่วงวาเลนไทน์ ดังนั้นมั่นใจว่าเงินจะสะพัดเพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ธุรกิจค้าปลีก ร้านอาหาร และดอกไม้ ช็อกโกแลต ฯลฯ
ปีนี้เป็นช่วงจังหวะที่ดีสำหรับสินค้าที่ควรดำเนินการตลาดเชิงรุก เพราะได้ทั้งกลุ่มเป้าหมายที่หลากหลาย ทั้งกลุ่มวัยรุ่นยันครอบครัว แต่ขณะเดียวกันหากพิจารณาในแง่ของจำนวนการทำโปรโมชันหรือกิจกรรมการตลาด ในทางกลับกันอาจมองว่าเป็นการเสียโอกาสทางการตลาด เพราะสามารถจัดโปรโมชันหรือกิจกรรมได้เพียง 1 ครั้งเท่านั้น ทำให้แผนการตลาดต้องวางไว้อย่างดี และต้องมั่นใจว่าจะกระตุ้นยอดขายได้เต็มที่
สำหรับแผนการตลาดในช่วงเทศกาลวาเลนไทน์และตรุษจีน ปีนี้ในกลุ่มชาเขียวพร้อมดื่ม ไม่ได้เปิดตัวสินค้ารุ่นลิมิเต็ดหรือรสกุหลาบ ออกมาจำหน่ายเช่นเดิม เนื่องจากกำลังการผลิตไม่เพียงพอ ส่วนกลุ่มธุรกิจร้านอาหารมองเป็นช่วงที่จำหน่ายดีอยู่แล้ว จึงไม่เน้นจัดโปรโมชัน ทั้งนี้บริษัทตั้งเป้าหมายยอดขายรับอานิสงส์จากทั้งสองเทศกาล ในกลุ่มร้านอาหารและเครื่องดื่มมีอัตราการเติบโต 30% เมื่อเทียบกับช่วงมีเทศกาลปกติเติบโต 10-20%
ค้าปลีกระบุ 2 เทศกาลเงินสะพัด 3.5 หมื่น ล.
ดร.ดามพ์ สุคนธทรัพย์ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท เอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น จำกัด ผู้ประกอบการห้างเทสโก้-โลตัส กล่าวว่า ปีนี้จัดว่าเป็นโอกาสพิเศษสำหรับปรากฎการณ์วันวาเลนไทน์กับวันตรุษจีนที่เป็นวันเดียวกัน จึงเชื่อว่าวันที่ 14 กุมภาพันธ์ นี้ จะมีความคึกคักเป็นพิเศษ โดยประมาณการณ์ว่า เงินสะพัด 3.5 หมื่นล้านบาท หรือเติบโต 5% และในแง่ของการทำตลาดหรือการจัดทำแคมเปญ ยังสามารถได้กลุ่มเป้าหมายเกือบทุกกลุ่ม โดยเฉพาะวันวาเลนไทน์ ปกติกลุ่มคนรุ่นใหม่ วัยทำงาน จะค่อนข้างให้ความสำคัญเป็นพิเศษ ส่วนเทศกาลตรุษจีน กลุ่มเป้าหมายจะเป็นครอบครัว
สำหรับในแง่ของการทำตลาดในช่วงโอกาสเดียวในสองเทศกาล เทสโก้ โลตัส มุ่งนำเสนอการบริการตอบสนองความต้องการของกลุ่มเป้าหมายทั้งในวันวาเลนไทน์เน้นผลไม้สด โดยนำสตรอเบอรี่มาจำหน่าย ส่วนเทศกาลตรุษจีน ขนกลุ่มสินค้าเซ่นไหว้ อุปกรณ์ต่างๆ ฯลฯ โดยบริษัทตั้งเป้ายอดขายเติบโต 5-7% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ไม่ค่อยเติบโตเท่าที่ควร เนื่องจากได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย และการเมืองไทยที่ขาดเสถียรภาพ
