xs
xsm
sm
md
lg

“สาทิตย์"ตื่นล้อมคอกทีวีดาวเทียม เร่งคลอดพรบ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“สาทิตย์” เร่งยื่นรายชื่อ กก.กทช.2คนใหม่ให้นายกฯพิจารณา ติงอนุกรรมการ กทช.ควรเร่งออกใบอนุญาติให้ผู้ประกอบการทีวีดาวเทียม กันเป็นเครื่องมือเอาเปรียบประชาชน ฟันธงกลางปีหน้า คณะกรรมการ กสทช.เกิดแน่ พร้อมเร่งพรบ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯมีผลบังคับใช้ก่อนปลายปี 53

นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า แผนการผลักดันในการแก้ไขร่างกฏหมายองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ ฉบับใหม่ ขณะนี้ได้เสร็จเรียบร้อยแล้ว คาดว่าช่วงปลายเดือนก.พ.นี้จะมีการพิจารณากันอีกครั้งในที่ประชุมวุฒิสภา ถ้าดำเนินการเสร็จในสมัยประชุมหรือมีการพิจารณาล่าช้าออกไปอีกเล็กน้อย ประมาณ พ.ค. เชื่อว่า ไม่เกินปลายปี 2553 นี้ กฏหมายองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ ฉบับใหม่ จะมีผลบังคับใช้ได้ และทันทีที่มีกฏหมายบังคับใช้ ภายใน 180 วันตามกฏหมายฉบับนี้ จะได้เห็น คณะกรรมการ กสทช ด้วยเช่นกัน หรือไม่เกินกลางปี 2554 ประเทศไทยก็จะมีคณะกรรมการ กสทช.ขึ้นมากำกับดูแลออกกฏเกณฑ์คลื่นความความถี่ต่อไป

สำหรับการแก้ไขกฏหมายองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ ฉบับใหม่นี้ ได้มีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขหลายส่วน และคาดว่าจะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงหลายด้าน ดังนั้นเมื่อมีผลบังคับใช้ออกไปแล้ว บุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและประชาชน จะต้องได้รับความรู้ สร้างความเข้าใจเกี่ยวกับกฏหมายฉบับนี้ให้ถ่องแท้ แต่ในแง่ของบทบาทการทำงานของ คณะกรรมการ กสทช. จะยังคงไว้ พร้อมลงลึกไว้ในเรื่องของการสร้างธรรมาภิบาลให้เกิดความโปร่งใสเป็นธรรม รวมไปถึงการคุ้มครองผู้บริโภคไว้อย่างชัดเจนด้วย ซึ่งการเปลี่ยนแปลงของการร่างกฏหมายองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ ฉบับใหม่นี้ มีหลายเรื่องที่กระทบกับอุตสาหกรรมด้านโทรคมนาคมและรัฐวิสาหกิจโดยตรง ทั้ง ทีโอที และ CAT

ทั้งนี้ในส่วนของการเปลี่ยนแปลงที่จะทำให้อุสาหกรรมด้านโทรคมนาคมทั้ง ทีโอที และCAT นั้น จะได้รับผลกระทบมากที่สุด ขณะที่ อสมท ก็ได้รับผลกระทบจาการร่างกฏหมายองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ ฉบับใหม่เพียงเล็กน้อย ซึ่งทั้งทีโอที และ CAT เนื่องจากมีคลื่นความถี่ค่อนข้างมาก และที่ผ่านมาก็ไม่ได้ทำเองนั้น ตามกฏหมายฉบับใหม่ได้บังคับให้ผู้ที่มีคลื่นความถี่ในมือนั้น ต้องบริหารจัดการเอง แต่ในส่วนนี้ยังถูกคุ้มครองจากรัฐธรรมนูญอยู่ว่า ในส่วนที่ให้ผู้อื่นรับสัมปทานคลื่นความถี่ไปทำแทนนั้น ก็ยังสามารถดำเนินการต่อไปได้ จนกว่าจะหมดสัญญา ซึ่งระหว่างดำเนินการอยู่นี้ ห้ามมีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขสัญญา หรือต่อสัญญาออกไป และรายได้ที่มาจากสัญญาสัมปทานครั้งนี้จะต้องถูกหักนำเข้ากระทรวงการคลังบางส่วนด้วย

นอกจากนี้ นายสาทิตย์ ยังได้กล่าวถึง กระแสนิวมีเดียที่กำลังเติบโตขึ้นเรื่อยๆด้วยว่า รัฐบาลจะเข้าไปดูในเรื่องของเข้าถึงของประชาชน รวมถึงค่าบริการที่มองว่าไม่เป็นธรรมกับประชาชนให้มากขึ้น โดยเฉพาะนิวมีเดีย ที่ประชาชนเข้าถึงได้ผ่านทางโทรศัพท์มือถือในปัจจุบัน

อย่างไรก็ตามทางรัฐบาลพร้อมเดินหน้าผลักดันให้กฏหมายองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ ฉบับใหม่ มีผลบังคับใช้ให้เร็วที่สุด ถึงแม้ว่าจะยังไม่รู้ว่ารัฐบาลชุดนี้จะมีอายุในการทำงานมากน้อยเพียงใดก็ตาม แต่รัฐบาลชุดนี้ก็พร้อมทำงานไปตามนโยบายต่างๆที่วางไว้อย่างเต็มที่

นายสาทิตย์ ยังกล่าวต่อด้วยว่า ปัจจุบันถึงแม้ว่า กฏหมายยังไม่เกิด แต่เรื่องของเทคโนโลยีต่างๆกำลังเข้ามาอย่างต่อเนื่อง และปัจจุบันเรามี คณะกรรมการ กทช. ที่ทำงานดูแลแทน คณะกรรมการ กสทช.อยู่แล้ว ถึงแม้ว่าขณะนี้จะเหลือเพียง 3ท่านก็ตาม แต่ตนก็ได้มีการเสนอชื่อ คณะกรรมการ 2รายชื่อให้แก่นายกรัฐมนตรีพิจารณา แทน 2คนเดิมที่ลาออกไป เพื่อทำให้ คณะกรรมการกทช.ครบองค์ประชุม เพื่อที่จะได้เดินหน้าทำงานไปได้ก่อนที่ คณะกรรมการ กสทช.จะมีขึ้นจริง

อย่างไรก็ตามมองว่า การทำงานของ กทช. ควรจะเดินหน้าต่อไป ไม่ควรมารออะไร เพราะปัจจุบันในเรื่องของคลื่นความถี่ทั้งเคเบิลทีวี และทีวีดาวเทียมกำลังมีบทบาทและมีผู้สนใจเข้ามาในอุตสาหกรรมนี้เป็นจำนวนมาก จากเดิมที่ได้มีการออกใบอนุญาติให้กับเคเบิลทีวีไปแล้ว ต่อไปอยากให้ทางอนุกรรมการ กทช. เร่งออกใบอนุญาติให้กับกลุ่มทีวีดาวทียมด้วย เพราะไม่ต้องการให้ใครนำเอาทีวีดาวเทียมมาเป็นเครื่องมือทางการเมือง หรือเป็นเครื่องมือหลอกลวงประชาชน อย่างกรณี ป้าเชง อย่างที่ผ่านมา
กำลังโหลดความคิดเห็น