“บุญจง” จ่อผุด กม.เพิ่มบทลงโทษค้ายาฯ ประหารสถานเดียว เมิน “ถาวร” ค้าน

“บุญจง” จ่อล่ารายชื่อผุดกฎหมายเพิ่มบทลงโทษยาเสพติด จากจำคุกตลอดชีวิตเป็นประหารสถานเดียว มีแค่ 5 เม็ดก็โดนจับได้ เมินขัด “ถาวร” ค้าน อ้างบำบัด 2 ครั้งไม่เข็ด ถือเป็นผู้ค้า ชี้ไม่เข้า ครม.ก่อน เพราะอยากให้ ส.ส.-ประชาชนมีส่วนร่วม

วันนี้ (13 ม.ค.) ที่กระทรวงมหาดไทย นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย กล่าวถึงการลงชื่อเสนอกฏหมายเพิ่มบทลงโทษผู้กระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดว่า กระทรวงมหาดไทยเป็นอีกช่องทางที่กำกับดูแลเรื่องยาเสพติด ซึ่งวันนี้ได้เดินระดับจังหวัดระดับหมู่บ้าน ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเห็นว่าสิ่งหนึ่งที่จะทำให้ปัญหายาเสพติดลดลง หรือหมดไปต้องดูในเรื่องโทษจึงพิจารณาปรับปรุงกฏหมาย 3 ฉบับ โดยการเพิ่มโทษกับผู้กระทำผิด ตั้งแต่กฏหมายเกี่ยวกับยาเสพติดกฏหมายว่าด้วยการฟื้นฟู ซึ่งสาระสำคัญทั้งหมด คือ การเพิ่มโทษสูงขึ้น จากตลอดชีวิตเป็นประหารชีวิต จากการครอบครอง 10 เม็ดก็เหลือเพียง 5 เม็ด โดยการดำเนินการทั้งหมดก็ให้ประชาชนมีส่วนร่วมโดยการรวบรวมชื่อ ซึ่งโดยตามกฎหมายใช้เพียง 1 หมื่นรายชื่อที่สามารถเสนอกฎหมายโดยประชาชนได้

นายบุญจงกล่าวต่อว่า ภายใน 1 เดือนก็น่าจะขับเคลื่อนต่อได้อย่างเต็มที่ คือหลักใหญ่ประชาชนต้องมีส่วนร่วม จะได้รู้ว่าการดูแลเรื่องปัญหายาเสพติดในฐานะที่เขาอยู่ในพื้นที่มีสิทธิที่ จะเสนอกฏหมายได้ ตรงนี้กระทรวงมหาดไทยที่ดูแลเรื่องรั้วสังคม รั้วชุมชน รัฐมนตรีว่าการจึงเห็นว่าให้ประชาชนรวบรวมชื่อ ส่วนรายชื่อเมื่อรวบรวมเสร็จแล้วก็จะส่งรายชื่อของประชาชนไปยังผู้ที่รักษากฏหมายแต่ละฉบับ ให้เห็นว่ามีชื่อประชาชนเสนอกฏหมาย ในขณะเดียวกัน นายชวรัตน์ฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยก็ให้ ส.ส.ของพรรคร่วมลงชื่อในฐานะสมาชิกรัฐสภาด้วย

เมื่อถามว่าทำไมถึงไม่ใช้ขั้นตอนการเสนอกฏหมายไปยังที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายบุญจงกล่าวว่า การเสนอกฎหมายนั้นสามารถทำได้หลายช่องทาง แต่วันนี้ในส่วนของกระทรวงมหาดไทยมีหน้าที่ในการดูแลเรื่องยาเสพติดซึ่ง นโยบายของรัฐมนตรีก็ชัดเจนอยู่แล้วว่า ซึ่งขณะนี้เรากำลังดำเนินการตามพื้นที่ต่างๆ ในหลายจังหวัดทั้งการทำประชาชคม และทำความสะอาดให้เป็นพื้นที่สีขาว เราต้องการให้ประชาชนรับรู้ด้วยว่าต้องทำงานร่วมกัน ฝ่ายบริหารก็เสนอได้ ส.ส.ก็เสนอได้ และที่สำคัญประชาชนต้องมีส่วนร่วม

เมื่อถามว่า นายถาวร เสนเนียม รมช.มหาดไทยไม่เห็นด้วยกับการเพิ่มโทษ เพราะต้องการให้ผู้เสพเป็นพียงผู้ป่วยตรงนี้จะมีการทำความเข้าใจและนำมาหารือหรือไม่ นายบุญจงกล่าวว่า ยาเสพติดเป็นเรื่องที่ต้องดูแลร่วมกันทั่วประเทศไม่มีแบ่งภาคใต้ภาคเหนือ ถามต่อว่าแต่ว่าคำนิยามที่นายถาวรเข้าใจ คือ ผู้เสพคือผู้ป่วยไม่ว่ากี่ครั้ง ต้องบำบัดส่วนอีกนิยามบอกว่าต้องมีการบำบัด 2 ครั้ง นายบุญจงกล่าวเพิ่มเติมว่าในแง่ของการปรับปรุงกฎหมายอย่างที่เราเห็นในส่วนของผู้เสพ เราเห็นว่าบ่อยครั้งคนที่ถูกจับเขาอ้างตัวเองเป็นผู้ป่วยตลอด สุดท้ายคนเหล่านี้ก็คือผู้ค้ายา สิ่งหนึ่งที่เราเห็นว่าควรจะมีการปรับปรุงแก้ไขคือให้เวลาจำกัดโดยบำบัด เพียง 2 ครั้ง ก็พอ ถ้ำไม่เข็ดหลาบคงใช้ต่อไม่ได้ ทำให้การแก้ปัญหายาเสพติดนั้นเดินยาก แต่อย่างไรก็ตาม การเสนอแก้ไขกฏหมายโดยประชาชน หรือ ส.ส.ก็ตาม ตรงนี้ต้องมีกระบวนการทางกฏหมายผ่านสภา รับหลักการแปรญัติติ ฉะนั้นถ้าสภาเห็นอย่างไรเราต้องยอมรับแต่ส่วนกระทรวงมหาดไทนเราเห็นอย่างนี้

เมื่อถามว่า ได้ทำความเข้าใจกับนายถาวรให้มีความเห็นตรงกันหรือไม่ นายบุญจงกล่าวว่า ต้องหารือเพื่อให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ถามต่อว่าจะนำเรื่องนี้เสนอต่อที่ประชุม ครม.ก่อนเข้าสภา หรือไม่ เนื่องจากเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ นายบุญจงกล่าวว่า แนวทางที่รวบรวมชื่อโดยประชาชนชนก็เป็นอีกแนวทางหนึ่ง ซึ่งกระทรวงมหาดไทยก็มีสิทธิเสนอผ่านกระบวนการ ครม.ได้ เมื่อ ครม.เห็นด้วยหรือเห็นต่างก็เสนอให้กฤษฎีกาตีความต่อไป

เมื่อถามว่าแสดงว่าจะเลือกช่องทางประชาชน และช่องทางของพรรคภูมิใจไทยในการร่างกฏหมายฉบับนี้หรือไม่ นายบุญจงกล่าวว่า ใช่ ช่องทางประชาชนเป็นช่องทางที่เลือกอยู่แล้ว ซึ่งวันนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ก็ได้ลงชื่อเป็นคนแรก ต่อไปทางจังหวัดก็จะเป็นผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอทั่วประเทศ ก็จะทำเช่นกัน ส่วนในช่องของ ส.ส.เราก็ดำเนินการ เพราะกฏหมายไม่ได้ห้ามเสนอเฉพาะ ส.ส.สามารถเสนอควบคู่กันไปได้ อย่างไรก็ตาม ตนเชื่อว่าจะสามารถดำเนินการได้เร็วขึ้นโดยประชาชนทุกภาคส่วนมีส่วนร่วม

เมื่อถามว่าจะมีการคาดโทษกับจังหวัดที่ดำเนินการไม่เป็นไปตามเป้าหมายในเรื่องแก้ปัญหายาเสพติดของกระทรวงมหาดไทยหรือไม่ นายชวรัตน์กล่าวสั้นๆ ว่า “กำลังพิจารณาอยู่ แต่โตๆ กันแล้วคงไม่ต้องคาดโทษอะไรมาก แค่ถูกว่าก็อายแล้ว”