xs
xsm
sm
md
lg

บีอีซีฯโหมแฟมิลี่โชว์-มิวสิคเคิล

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บีอีซีฯ ลุยธุรกิจจัดการแสดง-อีเวนต์เต็มสูบ รับเศรษฐกิจปีขาลขาขึ้น คนไทยยอมควักเงินซื้อความบันเทิง ปรับแผนโหมธุรกิจแฟมิลี่โชว์- มิวสิคเคิล หวังสร้างตลาด 10 ปีบูม หลังยุคดิจิตอลเชื่อมโยงกระแสดนตรีทั่วโลก ตลาดดูคอนเสิร์ตเริ่มหมดกระแส เบนเข็มจัดคอนเสิร์ตเฉพาะกลุ่ม เล็งจับกลุ่มผู้ใหญ่กำลังซื้อสูง เทกว่า 100 ล้านบาท เปิดตัวดิสนีย์ ออนไอซ์ ยอดบัตรโต 50%

นายรักษิต รักการดี ผู้จัดการฝ่ายคอนเสิร์ตและอีเวนต์ บริษัท บีอีซี-เทโร เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) ผู้ดำเนินธุรกิจจัดการแสดงและกิจกรรมในเครือบีอีซีกรุ๊ป เปิดเผยว่า แนวทางการตลาดธุรกิจจัดการแสดงและอีเวนต์ปีนี้ บริษัทฯจะมุ่งแฟมิลี่โชว์และมิวสิคเคิล เป็นหลัก ซึ่งปีนี้จัดแสดง 3 โชว์ คือ ดิสนีย์ ออน ไอซ์, เกาหลี และจีน ทั้งนี้มองว่าตลาดโชว์ในไทยยังเป็นตลาดเล็ก เมื่อเทียบกับสิงคโปร์สามารถนำ 2 โชว์เข้ามาพร้อมกัน

ขณะที่ประเทศไทยไม่สามารถทำได้ เนื่องจากกระแสดูโชว์คนไทยยังมีน้อย อย่างไรก็ตามบริษัทต้องการสร้างตลาดแฟมิลี่โชว์ ซึ่งเสมือนการสร้างวัฒนธรรมการดู โดยคาดว่าอีก 10 ปี ตลาดไทยจะมีความแข็งแกร่ง สำหรับไฮไลท์ปีนี้มีโชว์ไดโนเสาร์ 16 ตัว สูง 16 เมตร เป็นต้น ส่วนมิวสิค เคิล บริษัทจับมือร่วมกับทางบริษัท ซีเนริโอ จำกัด ซึ่งปีนี้มีด้วยกัน 2 โชว์

“ภาวะเศรษฐกิจปีนี้เริ่มฟื้นตัวดีขึ้น เอื้อต่อธุรกิจจัดการแสดง เมื่อปีที่ผ่านมาเศรษฐกิจถดถอย ส่งผลให้บัตรราคาถูกขายไม่ได้เลย เนื่องจากกลุ่มเป้าหมายระมัดระวังการจ่ายใช้สอย ขณะที่บัตรราคาสูงยังจำหน่ายได้ดี จากปกติหากเศรษฐกิจดี บัตรราคาสูงกับถูกจะจำหน่ายดีมาก แต่ปีนี้เรามั่นใจว่า กำลังซื้อของผู้บริโภคจะกลับมา แต่สำหรับแผนการตลาดบริษัทยังคงเน้นในระยะสั้น เพื่อรองรับกับสถานการณ์ที่พร้อมจะเปลี่ยนแปลงตลอด”

สำหรับธุรกิจคอนเสิร์ตบริษัทฯได้ให้ความสำคัญลดลง เพราะทำมากว่า 15 ปี ตลาดเริ่มอิ่มตัวและไม่หวือหวา เนื่องจากโลกเข้าสู่ยุคดิจิตอล ทำให้กระแสดนตรีทั่วโลกเชื่อมโยงถึงกันหมด ดังนั้นกลยุทธ์การทำคอนเสิร์ตเน้นเจาะเฉพาะกลุ่ม อาทิ กลุ่มผู้ใหญ่จัดคอนเสิร์ต 1-2 ครั้งต่อปี เพราะเป็นกลุ่มมีกำลังการซื้อสูง มีพฤติกรรมต้องหาการความบันเทิงให้กับตัวเอง สำหรับคอนเสิร์ตปีนี้บริษัทจัดทั้งหมด 6 ครั้ง เน้นแนวเพลงแจ๊ส อาร์แอนด์บี โดยมีศิลปิน อย่าง จอห์น เมเยอร์ และทอม โจนส์ เป็นต้น ที่เหลือ 4 คน ยังไม่มีการเซ็นสัญญา

นายรักษิต กล่าวว่า ตลาดคอนเสิร์ตร็อก นับว่าเป็นตลาดใหญ่สุด แต่กลุ่มเป้าหมายส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่น มีกำลังการซื้อไม่สูง อีกทั้งยังเปลี่ยนไปดูคอนเสิร์ตเกาหลี ญี่ปุ่น จากกระแสเค-ป็อป และเจ-ป็อป ได้ง่าย โดยมองว่าคอนเสิร์ตดังกล่าว แย่งส่วนแบ่งจากตลาดคอนเสิร์ตอินเตอร์ไปมาก นอกจากนี้ธุรกิจจัดคอนเสิร์ตยังประสบปัญหา คือ ไม่ค่อยมีสปอนเซอร์มากนัก โดยเฉพาะค่ายโทรศัพท์มือถือ เอไอเอส ฯลฯ โมบายโฟน อย่างโนเกีย ซัมซุง โซนี่ ไม่เข้ามาเป็นผู้สนับสนุน คอนเสิร์ตเหมือนเช่นดังเดิม

ก่อนหน้านี้บริษัทเคยคิดจะทำคอนเสิร์ตเกาหลี แต่ขาดความเชี่ยวชาญ จึงเกรงว่าตามกระแสไม่ทัน อีกทั้งคอนเสิร์ตเค-ป็อป มีราคาบัตรที่สูงมากใกล้เคียงกับคอนเสิร์ตอินเตอร์ นอกจากนี้มองว่า เทรนด์เกาหลีในประเทศไทยกำลังอยู่ในช่วงขาลง กลุ่มวัยรุ่นเริ่มเบื่อและต้องการดูคอนเสิร์ตที่เป็นศิลปินตัวจริง คาดว่ากระแสเจ-ป็อปจะมาแรง ในแนวดนตรีวิชวล ร็อก สำหรับไทยถือว่าประเทศที่ตามกระแสช้ากว่า 1-2 ปี

ล่าสุดได้ทุ่มงบกว่า 100 ล้านบาท เปิดตัวการแสดงดิสนีย์ ออนไอซ์ พรีเซ้นท์ ดิสนีย์แลนด์ แอดเวนเจอร์ นำร่องแสดงในประเทศจีน สิงคโปร์ มาเลเซีย และไทย เป็นประเทศที่ 4 ในเอเชีย จากนั้นเดินทางไปแสดงประเทศออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ยุโรป สำหรับดิสนีย์ ออนไอซ์ พรีเซ้นท์ ดิสนีย์แลนด์ แอดเวนเจอร์ จัดทั้งหมด 12 รอบ โดยขณะนี้ยอดจอง 2 สัปดาห์ เกือบ 1 หมื่นใบ ซึ่งบริษัทตั้งเป้ามีผู้เข้าชมกว่า 1 แสนราย คาดว่ายอดขายบัตรเติบโต 50% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา จากเมื่อปี 2551 โต 25%
กำลังโหลดความคิดเห็น