xs
xsm
sm
md
lg

"จอห์น เมเยอร์"หลุดปากเผยสัมพันธ์ลับบนเตียงกับ"เจสสิกา ซิมป์สัน"แถมเหยียดผิวบอกไม่ขอยุ่งกับสาวดำ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

จอห์น กับ เจสสิกา ซิมป์สัน
กลายเป็นประเด็นร้อนไปเสียแล้วสำหรับกรณีการให้สัมภาษณ์ของพ่อหนุ่มนักกีต้าร์ฝีมือระดับเทพอย่าง"จอห์น เมเยอร์" ที่ล่าสุดให้สัมภาษณ์กับทางนิตยสารเพลย์บอยวิจารณ์เรื่องบนเตียงของ"เจสสิกา ซิมป์สัน" แถมบอกด้วยว่าเจ้าโลกของเขามีไว้สำหรับคนขาวเท่านั้นสาวนิโกรหมดสิทธิ์

หลังจากที่จอห์น เมเยอร์ นักร้อง-นักดนตรีชื่อดังเคยออกมาพูดอย่างหมดเปลือกเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเจนนิเฟอร์ อนิสตัน จนโดนฝ่ายสาวปรามมาแล้ว มาคราวนี้เขายังคงไม่หยุดและหลุดปากเผยอย่างหมดเปลือกอีกครั้งแต่คราวนี้เล่นแรงวิจารณ์เรื่องเซ็กซ์ระหว่างเขากับสาว เจสสิกา ซิมป์สัน จนฝ่ายหญิงถึงขั้นเหวี่ยงเลยทีเดียว

โดยบทสัมภาษณ์ที่เขาได้ให้ไว้กับนิตยสารเพลย์บอยฉบับเดือน พ.ค. ได้ให้รายละเอียดไว้ว่า เจสสิกา ซิมป์สัน นักร้องสาววัย 29 ปี เป็นเหมือน ลูกระเบิดทางเพศ เวลาอยู่ในห้องนอน

จอห์น เมเยอร์ และ เจสสิกา ซิมป์สัน เคยออกเดทกันเป็นเวลานาน 10 เดือน นับตั้งแต่เดือน ส.ค. ปี 2006 ซึ่งเป็นเวลา 9 เดือนหลังนักร้องสาวแยกทางกับอดีตสามีอย่าง นิค ลาเชย์

โดยนักร้องหนุ่มยอมรับว่าความสัมพันธ์ของเขาเป็นเรื่องทางเพศ และเปรียบเจสสิกา ซิมป์สัน เป็นเหมือน ยาเสพติด

"ยาเสพติดมันไม่ดีกับคุณเลยถ้าคุณเสพมันเข้าไปมากๆ ใช่ สำหรับผมเธอคนนั้นเหมือนเป็นโคเคน"

"เรื่องเพศมันบ้ามาก ที่ผมจะบอกคือ มันเหมือนลูกระเบิด ลูกระเบิดทางเพศ คุณเคยพูดคำนี้ไหม 'ผมยอมแลกชีวิตเพียงแค่ได้ร่วมหลับนอนและกลืนกินคุณทั้งตัว?' 'ถ้าคุณคิดเงินผม10,000 เหรียญ ผมก็จะยอมขายทุกอย่างที่มีเพียงแค่ได้นอนกับคุณ' "

และหลังจากบทสัมภาษณ์ของนักร้องดังถูกตีพิมพ์ เจสสิกา ซิมป์สัน ก็แสดงความเห็นโต้กลับใน Twitter ด้วยว่า "นานแล้วที่ไม่เจอวันที่น่าสนใจแบบนี้... อืม ...อย่างน้อยอาทิตย์นี้ฉันก็ได้ชกมวยถึง 2 วันแหนะ"

ก่อนหน้านี้ จอห์น เมเยอร์ ก็เคยรักๆ เลิกๆ กับนักแสดงสาวชื่อดังอย่าง เจนนิเฟอร์ อนิสตัน มาแล้วก่อนจะเลิกรากันไปในเดือน มี.ค. ปีที่แล้ว หลังจากคบหากันได้ 9 เดือน

โดยเขาระบุว่าการจบสัมพันธ์รักครั้งนั้นมาจากการตัดสินใจของเขาเอง " เราใส่ใจความรู้สึกของกันและกันค่อนข้างมาก มันเป็นความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้ง แต่มันก็ไม่ยืนยาว"

"คุณเคยรักใครสักคน ที่รักได้อย่างหมดหัวใจ แต่ก็ต้องจบความสัมพันธ์ลงด้วยเหตุผลของชีวิตไหม?"

เมื่อถูกถามว่าเป็นเพราะช่องว่างระหว่างวัยที่เขาและเธอห่างกัน 9 ปีหรือไม่ เขาให้รายละเอียดไว้ว่า "ในบางครั้ง ผมขอให้ผมได้ใช้ชีวิตร่วมกับเธอ แต่ผมไม่สามารถเปลี่ยนข้อเท็จจริงที่ว่าผมยังอยากอายุ 32 อยู่เลย"

"แต่อายุ 32 เพิ่งมาถึงผมโดยที่ผมไม่รู้ตัว ผมอยากออกไปอยู่บนเครื่องบิน เป็นเหมือนนินจา ผมอยากเป็นนักสำรวจ ผมอยากเป็นเหมือน The Bourne Identity ผมไม่อยากเป็นแค่สัตว์เลี้ยงวิ่งเล่นอยู่ในครัว"

เขายังยอมรับด้วยว่าเขาได้หลับนอนกับผู้หญิงมาแล้ว 4-5 คนหลังจากเลิกรากับ เจนนิเฟอร์ อนิสตัน เมื่อปีที่แล้ว โดยหลังจากที่เขาเลิกรากับอนิสตันครั้งแรกในเดือน ส.ค. ปี 2008 หลังออกเดทกันได้ 4 เดือน จอห์น เมเยอร์ ได้ให้สัมภาษณ์เผยเหตุผลที่เขาเป็นคนเลือกจบสัมพันธ์ลงว่า

"ถ้าทุกคนกำลังมีเรื่องหลายสิ่งประดังประเดเข้ามารวมถึงเรื่องโกหกทั้งหลาย ก็ต้องมีใครคนหนึ่งลุกขึ้นเพื่อปกป้องอีกคน"

"ผมในฐานะผู้ชายที่เพิ่งจบสัมพันธ์รักลงกำลังยืนอยู่เพื่อบอกให้เขียนความจริง ให้ผมได้ปกป้องใครบางคน ซึ่งเขียนลงไปด้วยว่า เจนนิเฟอร์ อนิสตันนั้นเป็นผู้หญิงที่ฉลาดที่สุด, และเป็นคนที่เชี่ยวชาญ มีประสบการณ์ความรู้มากที่สุดคนหนึ่งเท่าที่ผมเคยเจอมาเลย"

"เธอเป็นคนที่น่ารักมากที่สุดคนหนึ่งที่ผมเคยพบเจอมาในชีวิต แต่ตอนนี้ผมกำลังมุ่งทำบางสิ่งที่เป็นเรื่องส่วนตัวมากๆและพวกคุณควรจะจบได้แล้ว คุณต้องยุติทุกสิ่งได้แล้วเพราะว่าพวกคุณไม่ได้รู้อะไรเลย มันแย่มาก"

"ผมต้องขอโทษด้วยที่เรื่องราวมันไม่ค่อยน่าสนใจเท่าไหร่" นักร้องหนุ่มที่ขณะนั้นอายุ 30 ปีกล่าว "แต่มันถึงเวลาที่ใครคนนั้นต้องลุกมาปกป้องฝ่ายหญิงและผมคิดว่าเธอเป็นคนที่ยอดเยี่ยมจริงๆ"

เมเยอร์ได้พูดถึงเหตุร้างลาว่าเป็นเรื่องที่ธรรมดามากที่สุดในโลก ไม่มีการหลอกลวง ไม่มีการนอกใจ และไม่มีอะไรเลย

"คนเราแตกต่างกัน คนเรามีความสัมพันธ์ที่แตกต่างกันหลายรูปแบบ และมีชีวิตที่แตกต่างกันไป มันไม่เกี่ยวว่ากี่ปี แต่เกี่ยวกับว่าเรากำลังคบหาอยู่กับใคร เราต้องซื่อสัตย์เสมอต้นเสมอปลาย"

ดังนั้นนักข่าวจึงรุมถามว่าแล้วมันเกิดอะไรขึ้น เป็นเพราะเขานอกใจเธอใช่หรือไม่? นักร้องหนุ่มจึงกัดนักข่าวตอบว่า "ทำไมถามผมแบบนั้น? ผมซื่อสัตย์ที่สุดเท่าที่ผมจะทำได้เลย ผมเลิกเพราะไม่อยากโกหก หลอกลวงกัน ผมยุติความสัมพันธ์นี้มาอยู่เป็นโสด ก็เพราะว่าผมไม่ต้องการให้ใครคนหนึ่งมามัวเสียเวลา ถ้าหากว่ามันไม่ใช่"

หลังจากที่เขาหลุดปากเผยถึงเรื่องราวทั้งหมดทางอนิสตันก็ได้ให้อภัยเขาและขอคืนดีกับเขาในอีก 2 เดือนต่อมา และให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร Vogue ด้วยว่านักร้องหนุ่มจะไม่ออกมาพูดถึงเรื่องนี้อีกอย่างแน่นอน "เชื่อฉันสิ คุณจะไม่ได้เห็นเรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นจากปากผู้ชายคนนั้นอีกแล้ว"

นอกจากอนิสตันและซิมป์สันแล้ว จอห์น เมเยอร์ ยังเคยออกเดทกับสาวสวย เจนนิเฟอร์ เลิฟ ฮิววิตต์ ด้วย เขาและเธอออกเดทกันในปี 2002 ซึ่งนักแสดงสาวคนนี้ยังเป็นแรงบันดาลใจให้เขาแต่งเพลงสุดฮิตอย่าง Your Body Is A Wonderland ด้วย และใช่ว่าสาวคนนี้จะรอดจากปากของเขา เพราะเมื่อครั้งทำการแสดงอยู่บนเวทีเมื่อ 4 ปีก่อน เขายังแสดงความเห็นถึงความสัมพันธ์รักครั้งนั้นของเขาด้วยว่า เขาไม่เคยมีสัมพันธ์ทางเพศกับเธอเพราะว่าเธอได้รับพิษจากการกินอาหารประเภทปลาเข้าไปทุกครั้งเวลาที่พวกเขาเดทกัน แต่ต่อมาเขาก็ออกมากล่าวขอโทษโดยระบุว่า "ไม่มีอะไรครับ ผมก็แค่เล่นตลกกับตัวเอง"

นอกจากประเด็นของความสัมพันธ์กับนักแสดงสาวชื่อดังมากมายแล้ว ในบทสัมภาษณ์กับ เพลย์บอย นักร้องหนุ่มชื่อดัง ยังถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักถึงคำพูดเหยียดผิวที่มีต่อชาวอเมริกันผิวดำ

เมื่อถูกถามว่า เคยมีผู้หญิงผิวดำเสนอตัวให้กับเขาบ้างหรือเปล่า เมเยอร์ วัย 32 ปีตอบกลับมาอย่างสุดห่ามว่า "ผมคงไม่สามารถเปิดใจให้กับพวกเธอได้ ไอ้จ้อนของผมมันเป็นประเภท white supremacist (กลุ่มหัวรุนแรงที่มีความเชื่อในความยิ่งใหญ่สูงส่งของคนผิวขาวกว่าเผ่าพันธุ์อื่นๆ) แม้ว่าผมจะมีหัวใจแบบ Benetton ที่มองไม่เห็นความแตกต่างระหว่างผิวสี แต่ไอ้จ้อนของผมมันเป็นสาวก เดวิด ดู้ค (หัวหน้ากลุ่มเหยีดผิวรุนแรง) มันไม่เล่นด้วย ผมจะต้องออกเดทโดยไม่มีไอ้จ้อน" และเขายังกล่าวต่อไปอีกด้วยถ้อยคำหยาบคาย และเหยีดหยามสาวผิวดำอย่างสุดๆ

เคทเธอริน รัซเซล บราว์น แห่ง ศูนย์การเรียนรู้เรื่องชาติพันธ์ ที่มหาวิทยาลัย ฟลอริดา ผู้แต่งหนังสือเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเชื้อชาติเรื่อง The Color of Crime กล่าวว่า คำพูดของ เมเยอร์ นั้นสามารถตีความหมายได้ว่า "ผู้หญิงผิวดำไม่เพียงไม่ใช่ผู้หญิงแบบที่เขาชอบ แต่ยังไม่ใช่ชนชั้นเดียวกับเขา พวกเธอเป็นเพียงคนชนชั้นล่าง"

ลอรีย์ ลี มัลวีย์ ผู้ประสานงานโครงการความสัมพันธ์ระหว่างเชื้อชาติ ที่มหาวิทยาลัยเพนน์เสตท ยังเสริมว่า "ทั้งคนขาวและคนดำ ต่างถูกโจมตีด้วยความก้าวร้าวของ นักร้องหนุ่มด้วยกันทั้งคู่ ความเห็นที่กล่าวแบบไม่จริงจังของ เมเยอร์ ได้กลายเป็นประเด็นที่สร้างความเจ็บปวดให้กับคนมากมาย โดยเฉพาะผู้หญิงผิวดำ" มัลวีย์ กล่าวว่าความเห็นของนักร้องชื่อดัง "ได้สร้างบรรยากาศที่ไม่เป็นมิตรต่อความเชื่อถือระหว่างเชื้อชาติ ที่ตอกย้ำความเชื่อที่ว่าคนผิวสีเป็นเพียงสิ่งของ และคนขาวชอบเหยียดผิว ความเห็นของเขายิ่งสร้างผลกระทบมากมาย เพราะมันมาจากคนมีชื่อเสียงที่ได้รับความเชื่อถือจากคนทั่วโลก

มัลวีย์ ยังกล่าวต่อไปด้วยว่า "ในการเลือกอ้าง เดวิด ดู้ก เมเยอร์ เป็นสิ่งที่ขัดแย้งกับการโอ้อวดว่าเขามีหัวใจ 'Benetton' ที่ไม่แบ่งสี "

ริชาร์ด ที ฟอร์ด ผู้แต่งหนังสือ The Race Card: How Bluffing About Bias Makes Race Relations Worse กล่าวแสดงความคิดเห็นถึงนักร้องหนุ่มชื่อดังกับ US magazine ว่า "เมเยอร์ คง คิดว่าเขากำลังปลุกปั่นให้เร้าใจเล่นๆ เพราะเขาคงคิดว่าคนผิวดำรักเขาและคิดว่ามันคงไม่เป็นไร"

"ปัญหาก็คือการพูดแบบทีเล่นทีจริงของเมเยอร์ ที่พยายามล้อเลียนการเหยียดผิว และมองคนดำแบบเหมารวมแต่สุดท้าย เขากลับกลายเป็นหนึ่งในนั้นเสียเอง ดาราตลกอย่าง แซราห์ ซิลเวอร์แมน ก็มักใช้มุขเหยียดผิวมาเล่นอย่างได้ผลอยู่ตลอดเวลา เธอทั้งตลก และยุให้ผู้ชมมีข้อขบคิด แต่สำหรับ การเอาเรื่องเหยียดผิวมาพูดเล่นของเมเยอร์ มันกลับออกมาแย่มากๆ เพราะมันทั้ง น่ารังเกียจ และน่าเบื่อหน่าย"

ฟอร์ด ยังเสริมว่า การสัมภาษณ์ครั้งนี้ของเมเยอร์ถือเป็นเรื่องน่าเศร้า ของโลกปัจจุบัน ที่คนดังๆจะออกมาพูดอะไรที่คิดว่าหวือหวา แต่กลับกลายเป็นเรื่องหยาบคายและดูถูก แต่ อย่างน้อย เขา ก็พูดถูกอย่างหนึ่งว่า "ผมคิดว่าโลกคงดีกว่านี้ ถ้าผมหยุดให้สัมภาษณ์"

หลังจากถูกวิจารณ์อย่างหนัก นักร้องหนุ่ม ตัดสินใจออกมาขอโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้นทันที โดยเฉพาะการใช้ N word (นิโกร) ในเว็บทวิตเตอร์ของตัวเอง

"การใช้ 'N word' ในบทสัมภาษณ์ เป็นสิ่งที่ผมต้องขออภัยจริงๆ เป็นความน่าอับอายที่เกิดขึ้น มันน่าเสียดายเพราะความตั้งใจของผมต้องการชี้ให้เห็นถึงว่าคำดังกล่าวมันรุนแรงแค่ไหน แต่ผลกลับออกมาในทางตรงกันข้าม”

"มันเป็นเรื่องของความหยิ่งยโส ที่คิดว่าตัวเองฉลาดพอที่จะใช้คำนั้น เพราะผมคิดว่าคงไม่มีคำทางวิชาการอันหรูหราคำใดที่ประดิษฐ์มาเพื่อสร้างความรุนแรงและกระทบจิตใจได้เท่า"

หลังจากนั้นอีกชั่วโมงครึ่ง เมเยอร์ กลับมาเพื่อขออภัยและอธิบายอีกครั้งว่า "ผมคิดว่าถึงเวลาที่ต้องหยุดการให้สัมภาษณ์แบบเถื่อนๆ แบบนี้แล้ว มันกลายเป็นเรื่องที่ควบคุมไม่ได้ ผมสร้างสิ่งที่คล้ายๆ กับปีศาจร้ายขึ้นมา ผมอยากเป็นแค่มือกีตาร์บูลส์คนหนึ่ง เป็นนักร้อง เป็นนักเขียนเพลง ไม่ใช่สร้างข่าว ผมไม่อยากต้องเจ็บปวดเพราะมันอีก ขอย้ำอีกครั้งนะครับ ผมไม่อยากให้ใครคิดว่าตัวเองเป็นคนพูดอะไรกลับไปกลับมา ผมได้เอ่ยสิ่งที่ไม่ควรพูดออกไป และจะไม่มีวันพูดถึงมันอีกแล้วครับ"
จอห์น กับ เจนนิเฟอร์ อนิสตัน
จอห์น กับ เจนนิเฟอร์ เลิฟ ฮิววิตต์
กำลังโหลดความคิดเห็น