xs
xsm
sm
md
lg

แอลเอ็มอีรุกหนักรับอาฟตา สยายปีกตปท.-ชูไทยฐานผลิต

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

แอลเอ็มอีปรับทัพรับผลดีอาฟตา เปิดศึกขยายธุรกิจแบรนด์เต็มสูบ เปิดแผน 3 ปี งบลงทุนรวม 300 ล้านบาท เป้าเติบโต 20% ต่อปี เร่งดันไทยเป็นฐานผลิตส่งออก ล่าสุดคว้าแบรนด์เอฟแฟชั่น เป้ายอดขายปีแรก 250 ล้านบาท ดันทั้งปีทะลุ 2,250 ล้านบาท

นายบุญชัย คงปักไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้ง บริษัท แอล เอ็ม อี จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจจำหน่ายเสื้อผ้าแฟชั่น เปิดเผยว่า บริษัทฯวางแผนไว้ว่าในช่วง 3 ปีจากนี้จะเป็นช่วงของการลงทุนและขยายธุรกิจของบริษัทฯมากสุดในรอบกว่า 30 ปีที่ดำเนินกิจการมา ด้วยงบลงทุนเฉลี่ย 100 ล้านบาทต่อปีหรือรวม 300 ล้านบาท ซึ่งบริษัทฯมั่นใจว่าภาพรวมเศรษฐกิจเริ่มดีขึ้น แต่ก็ยังคงมีความเป็นห่วงเรื่องของปัญหาการเมืองที่ยังมีความวุ่นวายไม่จบ และเป็นปัญหาที่ไม่สามารถจะควบคุมได้

โดยมีแผนที่จะขยายแบรนด์เนมแฟชั่นมากขึ้นทั้งเสื้อผ้าแฟชั่นและสินค้าไลฟ์สไตล์ ทั้งการสร้างแบรนด์เองและการซื้อลิขสิทธิ์จากแบรนด์ต่างประเทศ ปัจจุบันมี 7 แบรนด์แล้ว เป็นของบริษัทฯเอง 5 แบรนด์คือ เอสพาด้า, อีเอสพี, อีพี, แอลทีดีและร็อกเอ็กซ์เพรส ส่วนอีก 2 แบรนด์คือ ฟ๊อกซ์จากประเทศอิสราเอล ทำมาแล้ว 3 ปี และ ล่าสุดคือ เอฟแฟชั่น จากประเทศฝรั่งเศส

ขณะที่มีจุดจำหน่ายรวมทั้งชอปอินชอปและเคาน์เตอร์มากกว่า 600 จุด และตั้งเป้าเติบโตประมาณ 20% ต่อปี จากฐานของแบรนด์เดิม โดยปีที่แล้วมีรายได้รวม 2,000 กว่าล้านบาท รวมทั้งผลักดันให้ไทยเป็นฐานผลิตเสื้อผ้า และการขยายตลาดต่างประเทศด้วย

ทั้งนี้ ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการประกาศใช้อาฟตาด้วย ซึ่งจะทำให้ไม่มีภาษีในการนำเข้าแบรนด์จากต่างประเทศ ส่งผลให้มีแบรนด์เนมเข้ามาทำตลาดมากขึ้น การแข่งขันรุนแรงขึ้น และขณะเดียวกันเปิดโอกาสให้แบรนด์ไทยไปต่างประเทศได้ง่ายขึ้น แต่ทั้งนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับความพร้อมของแต่ละบริษัทและแต่ละแบรนด์ด้วย

ล่าสุดบริษัทฯได้คว้าลิขสิทธิ์การจัดจำหน่ายและการเปิดร้านแบรนด์ เอฟ แฟชั่น จากประเทศฝรั่งเศส แบรนด์เอฟแฟชั่น จับกลุ่มผู้หญิงที่ชอบแฟชั่น ซึ่งสินค้ามีความหลากหลาย ราคาฉลี่ยเช่น กางเกงยีนส์ ราคา 2.000 กว่าบาท เสื้อราคา 1,000 กว่าบาท เป็นต้น ซึ่งเปิดในไทยเป็นประเทศแรกในเอเชีย หลังจากที่ไม่มีการขยายแบรนด์มานานกว่า 3 ปีแล้ว โดยในช่วงปีแรกนี้ต้องใช้งบลงทุนกว่า 100 ล้านบาท เปิดชอปแฟล็กชิบสโตร์สาขาแรกที่ เซ็นทรัลเวิลด์ พื้นที่ 250 ตารางเมตร และเตรียมเปิดอีก 3 จุดขายเป็นเคาน์เตอร์ที่ เซน เซ็นทรัลชิดลม และสยามพารากอน ภายในไตรมาสแรกนี้ และคาดหวังยอดขายแบรนด์นั้นที่ 250 ล้านบาทในปีแรก และคาดว่าใน 3 ปีจะเพิ่มเป็น 600 ล้านบาท

ส่วนเวียดนามจะเป็นประเทศที่สองในเอเชียที่บริษัทแม่มอบสิทธิ์ให้คนท้องถิ่นเป็นมาสเตอร์แฟรนไชส์ ขณะเดียวกันบริษัทฯยังอยู่ระหว่างการเจรจากับบริษัทแม่ของเอฟแฟชั่น และแบรนด์ฟ๊อกซ์ เพื่อขอลิขสิทธิ์ในการออกแบบและผลิตด้วย จากปัจจุบันนี้ ต้องนำเข้า แบรนด์เอฟแฟชั่นจาก จีน อินเดีย เวียดนาม อินโดนีเซีย ซึ่งบริษัทฯมีความพร้อมในเรื่องของดีไซน์อยู่แล้ว จากธุรกิจที่ทำมานานกว่า 30 ปี ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันให้บริษัทฯเป็นเวิลด์คลาสแฟชั่นคอมปะนีได้ด้วย

นายบุญชัย กล่าวด้วยว่า การได้รับไลเซนส์ เอฟ แฟชั่น จากเอฟทีวี สื่อกลางด้านแฟชั่นรายใหญ่สุดของโลกรวมถึงการถ่ายทอดผ่านชิคแชนแนลทรูวิชั่นส์ของไทย นอกจากจะช่วยขยายตลาดและเพิ่มรายได้ให้กับบริษัทฯแล้ว ยังช่วยขยายตลาดต่างประเทศด้วย เพราะช่องดังกล่าวถ่ายทอดมากกว่า 100 ประเทศทั่วโลก เพราะในอนาคตแอลเอ็มอีอาจจะมีโอกาสนำแบรนด์ของตนเองผ่านรายการเอฟทีวีด้วย ส่วนแบรนด์ของบริษัทฯเองก็เตรียมที่จะขยายตลาดต่างประเทศมากขึ้น เช่น เวียดนาม คือ แบรนด์ เอสพาด้า อีเอสพี อีพี แอลทีดี

ปัจจุบันบริษัทมีรายได้ 2,000 กว่าล้านบาท แบ่งเป็น รายได้จากต่างประเทศ 5% และโอดีเอ็ม 10% นอกนั้นเป็นการจำหน่าย แอสเซทซอรี่และเสื้อผ้ากว่า 85%
กำลังโหลดความคิดเห็น