อีเทอร์นิตี้อินเตอร์เทรด เร่งสยายปีก เล็งลุยนำเข้ากลุ่มสินค้าเสริมอาหารและอุปกรณ์เพื่อสุขภาพ หลังทำตลาดสกินแคร์และเมคอัพนำเข้าจากแดนโสมและแดนปลาดิบติดลมบนมาแล้ว ล่าสุดประเดิมปีใหม่ด้วยการเปิดตัว แบรนด์ ลีโอเอเล่จากเกาหลี รุกเอ็กซ์คลูซีฟในร้านวัตสัน 1 ปี เป็นการสร้างแบรนด์
นางสาวศันสนีย์ บรรดาศักดิ์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท อีเทอร์นิตี้ อินเตอร์เทรด จำกัด ผู้นำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ เปิดเผยว่า บริษัทฯมีแผนที่จะขยายไลน์ธุรกิจการนำเข้าสินค้ามากขึ้น โดยล่าสุดเตรียมที่จะขยายไปสู่สินค้าผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและอุปกรณ์เสริมเพื่อสุขภาพและความงาม มากขึ้น เพื่อเสริมพอร์ตโฟลิโอของบริษัทฯ
ทั้งนี้กลุ่มสินค้าที่มีอยู่เดิมที่มีเพียง เครื่องสำอางและกสินแคร์ ที่นำเข้าจากต่างประเทศญี่ปุ่นและเกาหลี ซึ่งมีรวมแล้วมากกว่า 60 แบรนด์จาก 20 กว่าซัปพลายเออร์ ซึ่งก็จะยังขยายตัวนำเข้าแบรนด์ใหม่ต่อเนื่อง และการนำสินค้าโอท็อปของไทยออกไปจำหน่ายต่างประเทศ โดยมียอดขายรวมเมื่อปีที่แล้วเติบโตประมาณ 80%
อีกทั้งในอนาคตยังมีแผนที่จะลงทุนเปิดชอปเฉพาะของบริษัทฯที่จำหน่ายสินค้าของบริษัทฯเองในแห่งเดียวกัน และการขายสินค้าผ่านระบบเปิดคอล์เซ็นเตอร์ด้วย ซึ่งการนำสินค้าเข้ามาจำหน่ายเพิ่งเริ่มมากเมื่อประมาณ 3-4 ปีที่ผ่านมา จากเดิมที่นำสินค้าจากไทยไปจำหน่ายต่างประเทศ
ปัจจุบันช่องทางการจำหน่ายของบริษัทฯจะมีทั้งโมเดิร์นเทรด ทั้งคาร์ฟูร์ วัตสัน บู้ทส์ หรือร้านประเภทวาไรตี้ชอป เช่น บีเทรนด์ในเดอะมอลล์ ร้านลอฟท์ เป็นต้น ซึ่งสินค้าจากญี่ปุ่นจะเป็นกลุ่มสกินแคร์ ส่วนสินค้าจากเกาหลีจะเน้นกลุ่มเครื่องสำอาง ล่าสุดบริษัทฯได้รุกตลาดเครื่องสำอางอีกระลอก โดยนำเข้าผลิตภัณฑ์ แบรนด์ “ลีโอเอเล่ คอสเมติก” จากประเทศเกาหลีเข้ามาจำหน่าย ซึ่งเป็นแบรนด์ที่จำหน่ายในหลายประเทศแล้วเช่น สิงคโปร์ ไต้หวัน เวียดนาม ดูไบ จีน ฮ่องกง ญี่ปุ่น เป็นต้น ซึ่งแผนรุกตลาดในไทยช่วงแรกจะขายเฉพาะหรือเป็นเอ็กซ์คลูซีฟในร้านวัตสันเท่านั้น ทุกสาขาจำนวนกว่า 150 แห่ง นาน 1 ปี
จากนั้นจึงจะขยายช่องทางจำหน่ายอื่นต่อไป ซึ่งช่องทางจำหน่ายหลักในเกาหลีแบ่งเป็น 1.เว็บไซต์ ซึ่งลีโอเอเล่เป็นผู้นำในช่องทางเว็บไซต์ในตลาดรวมเครื่องสำอางที่เกาหลี 2.เคาน์เตอร์แบรนด์ 3. บูติกชอป ซึ่งในไทยก็จะเดินตามรอยช่องทางนี้เช่นกันในอนาคต
ในช่วงแรกนี้นำสินค้าเข้ามาจำหน่ายมากกว่า 100 รายการ และจะเพิ่มการนำเข้ามากขึ้น ซึ่งกลุ่มเป้าหมายของ ลีโอเอเล่ เป็นวัยรุ่นหญิง ที่รักความงาม ระดับราคาเฉลี่ย 200-600 กว่าบาทต่อชิ้น ซึ่งราคาที่ต่ำกว่าคู่แข่งระดับเดียวกันประมาณ 30-50% มาเป็นจุดขายดึงลูกค้า ซึ่งในตลาดนี้มีแบรนด์จากเกาหลีเข้ามาจำหน่ายมากมาย แต่ละแบรนด์ก็มีจุดแข็งและจุดขายที่ต่างกันไป
อีกทั้งยังเป็นการขายสินค้านำเข้าอย่างถูกต้อง เพราะที่ผ่านมามักจะมีผู้ที่นำเข้าแบรนด์ลีโอเอเล่มาเพื่อจำหน่ายผ่านทางช่องทางการขายแบบบอกต่อ หรือผ่านทางเว็บไซต์ อีกทั้งยังมีความเชื่อมั่นว่า คนไทยยังนิยมความเป็นเทรนด์เกาหลีอยู่ไม่น้อย
“กระแสเกาหลีฟีเวอร์ในไทยยังมีอยู่ ยังไม่จางไป ไม่ว่าจะเป็นความนิยมทางด้าน วัฒนธรรม ละครซีรีย์ ดารา เพลง อาหารเกาหลี ยังเป็นที่นิยม ทำให้บริษัทฯมั่นใจในการทำตลาด แบรนด์ ลีโอเอเล่ อย่างมาก และหากประสบความสำเร็จอย่างดีแล้ว ก็มีแผนที่อาจจะขยายการนำเข้าสินค้าแบรนด์อื่นที่อยู่ในเครือเดียวกันมาทำตลาดในไทยเพิ่มขึ้นด้วยก็ได้ เช่น ไจยา (Jaiya)ที่ขายดีมากในเกาหลี” นางสาวศันสนีย์กล่าว
นางสาวศันสนีย์ บรรดาศักดิ์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท อีเทอร์นิตี้ อินเตอร์เทรด จำกัด ผู้นำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ เปิดเผยว่า บริษัทฯมีแผนที่จะขยายไลน์ธุรกิจการนำเข้าสินค้ามากขึ้น โดยล่าสุดเตรียมที่จะขยายไปสู่สินค้าผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและอุปกรณ์เสริมเพื่อสุขภาพและความงาม มากขึ้น เพื่อเสริมพอร์ตโฟลิโอของบริษัทฯ
ทั้งนี้กลุ่มสินค้าที่มีอยู่เดิมที่มีเพียง เครื่องสำอางและกสินแคร์ ที่นำเข้าจากต่างประเทศญี่ปุ่นและเกาหลี ซึ่งมีรวมแล้วมากกว่า 60 แบรนด์จาก 20 กว่าซัปพลายเออร์ ซึ่งก็จะยังขยายตัวนำเข้าแบรนด์ใหม่ต่อเนื่อง และการนำสินค้าโอท็อปของไทยออกไปจำหน่ายต่างประเทศ โดยมียอดขายรวมเมื่อปีที่แล้วเติบโตประมาณ 80%
อีกทั้งในอนาคตยังมีแผนที่จะลงทุนเปิดชอปเฉพาะของบริษัทฯที่จำหน่ายสินค้าของบริษัทฯเองในแห่งเดียวกัน และการขายสินค้าผ่านระบบเปิดคอล์เซ็นเตอร์ด้วย ซึ่งการนำสินค้าเข้ามาจำหน่ายเพิ่งเริ่มมากเมื่อประมาณ 3-4 ปีที่ผ่านมา จากเดิมที่นำสินค้าจากไทยไปจำหน่ายต่างประเทศ
ปัจจุบันช่องทางการจำหน่ายของบริษัทฯจะมีทั้งโมเดิร์นเทรด ทั้งคาร์ฟูร์ วัตสัน บู้ทส์ หรือร้านประเภทวาไรตี้ชอป เช่น บีเทรนด์ในเดอะมอลล์ ร้านลอฟท์ เป็นต้น ซึ่งสินค้าจากญี่ปุ่นจะเป็นกลุ่มสกินแคร์ ส่วนสินค้าจากเกาหลีจะเน้นกลุ่มเครื่องสำอาง ล่าสุดบริษัทฯได้รุกตลาดเครื่องสำอางอีกระลอก โดยนำเข้าผลิตภัณฑ์ แบรนด์ “ลีโอเอเล่ คอสเมติก” จากประเทศเกาหลีเข้ามาจำหน่าย ซึ่งเป็นแบรนด์ที่จำหน่ายในหลายประเทศแล้วเช่น สิงคโปร์ ไต้หวัน เวียดนาม ดูไบ จีน ฮ่องกง ญี่ปุ่น เป็นต้น ซึ่งแผนรุกตลาดในไทยช่วงแรกจะขายเฉพาะหรือเป็นเอ็กซ์คลูซีฟในร้านวัตสันเท่านั้น ทุกสาขาจำนวนกว่า 150 แห่ง นาน 1 ปี
จากนั้นจึงจะขยายช่องทางจำหน่ายอื่นต่อไป ซึ่งช่องทางจำหน่ายหลักในเกาหลีแบ่งเป็น 1.เว็บไซต์ ซึ่งลีโอเอเล่เป็นผู้นำในช่องทางเว็บไซต์ในตลาดรวมเครื่องสำอางที่เกาหลี 2.เคาน์เตอร์แบรนด์ 3. บูติกชอป ซึ่งในไทยก็จะเดินตามรอยช่องทางนี้เช่นกันในอนาคต
ในช่วงแรกนี้นำสินค้าเข้ามาจำหน่ายมากกว่า 100 รายการ และจะเพิ่มการนำเข้ามากขึ้น ซึ่งกลุ่มเป้าหมายของ ลีโอเอเล่ เป็นวัยรุ่นหญิง ที่รักความงาม ระดับราคาเฉลี่ย 200-600 กว่าบาทต่อชิ้น ซึ่งราคาที่ต่ำกว่าคู่แข่งระดับเดียวกันประมาณ 30-50% มาเป็นจุดขายดึงลูกค้า ซึ่งในตลาดนี้มีแบรนด์จากเกาหลีเข้ามาจำหน่ายมากมาย แต่ละแบรนด์ก็มีจุดแข็งและจุดขายที่ต่างกันไป
อีกทั้งยังเป็นการขายสินค้านำเข้าอย่างถูกต้อง เพราะที่ผ่านมามักจะมีผู้ที่นำเข้าแบรนด์ลีโอเอเล่มาเพื่อจำหน่ายผ่านทางช่องทางการขายแบบบอกต่อ หรือผ่านทางเว็บไซต์ อีกทั้งยังมีความเชื่อมั่นว่า คนไทยยังนิยมความเป็นเทรนด์เกาหลีอยู่ไม่น้อย
“กระแสเกาหลีฟีเวอร์ในไทยยังมีอยู่ ยังไม่จางไป ไม่ว่าจะเป็นความนิยมทางด้าน วัฒนธรรม ละครซีรีย์ ดารา เพลง อาหารเกาหลี ยังเป็นที่นิยม ทำให้บริษัทฯมั่นใจในการทำตลาด แบรนด์ ลีโอเอเล่ อย่างมาก และหากประสบความสำเร็จอย่างดีแล้ว ก็มีแผนที่อาจจะขยายการนำเข้าสินค้าแบรนด์อื่นที่อยู่ในเครือเดียวกันมาทำตลาดในไทยเพิ่มขึ้นด้วยก็ได้ เช่น ไจยา (Jaiya)ที่ขายดีมากในเกาหลี” นางสาวศันสนีย์กล่าว