บอดี้เชพเปิดแผน สู่ฝัน 5 ปี เป็นวันสต๊อปเซอร์วิส ซุ่มแผนตั้งโรงงานผลิตสินค้า ย่านปทุมธานี พร้อมขยายช่องทางร้านค้าปลีกเป็นเครือข่ายการตลาด ทั้งบอดี้เชฟคาเฟ่ ให้ครบ 100 แห่งในปีหน้า และร้านคีออสอีกด้วย
นายภูพงษ์ สืบวงศ์ลี กรรมการผู้จัดการ บริษัท บอดี้เชพ คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า จากนโยบายของบริษัทฯที่วางแผนไว้ว่า ภายใน 5 ปี (ตั้งแต่ปี 2553-2558) บริษัทฯจะดำเนินธุรกิจแบบวันสต๊อปเซอร์วิส คือไม่ใช่เพียงธุรกิจบริการลดน้ำหนักและดูแลรูปร่างเท่านั้น แต่จะมีทั้งการบริการ การดูแลสุขภาพ การดูเลเส้นผม ทำสปา การขายผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวเนื่องกับสุขภาพ เป็นต้น และคาดหวังมีรายได้ทะลุ 2,000 ล้านบาท จากปีนี้ที่มีรายได้รวม 1,150 ล้านบาท
ขณะที่สัดส่วนรายได้จะแบ่งเป็น ธุรกิจการบริการ คือ บอดี้เชพ คริสตี้ฟรองซ์ 50% และสัดส่วนรายได้จากผลิตภัณฑ์ เช่น กาแฟ สกินแคร์ อื่นๆ 50% จากปัจจุบันที่มีรายได้จากการบริการสัดส่วน 90% และจากผลิตภัณฑ์เพียง 10% เท่านั้นเอง และจะเพิ่มตลาดส่งออกด้วย ซึ่งปัจจุบันมีเพียง 3% เท่านั้นเองจากรายได้รวม
ทั้งนี้บริษัทฯจึงได้วางแผนที่จะขยายการลงทุนทางด้านผลิตภัณฑ์เพิ่มมากขึ้น ด้วยการก่อสร้างโรงงานผลิตขึ้นมาเอง จากเดิมที่ใช้วิธืการว่างจ้างผลิตหรือโออีเอ็มและการนำเข้าจากต่างประเทศ คาดว่าจะใช้พื้นที่ที่มีอยู่แล้วประมาณ 40 กว่าไร่ ที่ปทุมธานี โดยจะแบ่งเป็น 3 เฟสหลักคือ 1. อาหารเสริมประเภทแคปซูล เฟส 2.ผลิตภัณฑ์สกินแคร์ ครีมลดน้ำหนัก และเฟสที่ 3 ผลิตเครื่องดื่มและอาหาร ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษารายละเอียดและงบประมาณการลงทุนทั้งหมด
สำหรับผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯที่มีอยู่แล้วเช่น กาแฟบอดี้เชพ กาแฟบอดี้เชพฟอร์เมน ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร 1-2-3 และที่จะขยายต่อในปีหน้าและอนาคต เช่น ผลิตภัณฑ์พร้อมดื่มกาแฟขวด ผลิตภัณฑ์ทรีอินวัน เช่น ชา มัทฉะ คอลลาเจน ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารแนวใหม่ ครีมฟื้นฟูทรวงอก เป็นต้น อีกทั้งจะมีผลิตภัณฑ์ใหม่ในปีหน้าอีก 10 รายการ
“กาแฟบอดี้เชฟได้รับความสำเร็จเป็นอย่างดี ตอนนี้ยอดขาย 100 กว่าล้านบาทแล้ว ส่วนปีหน้าคาดว่ายอดขายจากกาแฟบอดี้เชพน่าจะเพิ่มเป็น 350 ล้านบาท เพราะเรามีช่องทางจำหน่ายมากขึ้น” นายภูพงษ์กล่าว
ขณะที่ช่องทางการจำหน่ายสินค้านั้น บริษัทฯมีแผนที่จะลงทุนขยายร้านบอดี้เชพคาเฟ่เพิ่มขึ้นในปี 2553 ซึ่งปัจจุบันมีเปิดบริการแล้ว 6 สาขา ล่าสุดช่วงปลายปีนี้เพิ่งเปิดอีก 2 สาขาคือที่ บางใหญ่ อุบลราชธานี ทั้งนี้เป็นของบริษัทฯเองจำนวน 2 สาขา ส่วนปีหน้าบริษัทฯวางแผนที่จะเปิดสาขาในรูปแบบแฟลกชิฟสโตร์อีกอย่างต่ำ 1-2 สาขา เป็นของบริษัทฯเอง
อย่างไรก็ตาม แผนขยายสาขาของบอดี้เชพคาเฟ่ จะเน้นการขายแฟรนไชส์เป็นหลัก ซึ่งวางเป้าหมายปีหน้าเพิ่มสาขารวมเป็น 100 สาขา ซึ่งมีการลงทุน 3 รูปแบบคือ 1.คีออส ลงทุน 200,000 บาท พื้นที่ 10 ตารางเมตร 2.มินิชอป ลงทุน 700,000 บาท พื้นที่ 25 ตารางเมตร และ 3. ร้านเต็มรูปแบบหรือฟูลชอป (Full Shop) ลงทุน 1 ล้านบาทขึ้นไป พื้นที่ 45 ตารางเมตร ซึ่งจะมีจำหน่ายครบทั้งกาแฟ เครื่องดื่ม เบเกอรี่ และผลิตภัณฑ์อื่นๆด้วย ซึ่งจะเน้นทำเลตามโรงเรียน มหาวิทยาลัย อาคารสำนักงาน ศูนย์การค้า
นอกจากนั้นจะยังขยายการลงทุนร้านค้าปลีกและคีออส บอดี้ เชพ ไลฟ์สไตล์ ชอป อีกด้วย อย่างต่ำ 50 สาขาในปี 2553 ซึ่งปัจจุบันมี 5 สาขา คือ ที่เซ็นทรัลปิ่นเกล้า เทสโก้โลตัสพระรามสาม เทสโก้โลตัสพระรามสี่ เทสโก้โลตัสรามอินทรา เทสโก้โลตัสหลักสี่
นายภูพงษ์ สืบวงศ์ลี กรรมการผู้จัดการ บริษัท บอดี้เชพ คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า จากนโยบายของบริษัทฯที่วางแผนไว้ว่า ภายใน 5 ปี (ตั้งแต่ปี 2553-2558) บริษัทฯจะดำเนินธุรกิจแบบวันสต๊อปเซอร์วิส คือไม่ใช่เพียงธุรกิจบริการลดน้ำหนักและดูแลรูปร่างเท่านั้น แต่จะมีทั้งการบริการ การดูแลสุขภาพ การดูเลเส้นผม ทำสปา การขายผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวเนื่องกับสุขภาพ เป็นต้น และคาดหวังมีรายได้ทะลุ 2,000 ล้านบาท จากปีนี้ที่มีรายได้รวม 1,150 ล้านบาท
ขณะที่สัดส่วนรายได้จะแบ่งเป็น ธุรกิจการบริการ คือ บอดี้เชพ คริสตี้ฟรองซ์ 50% และสัดส่วนรายได้จากผลิตภัณฑ์ เช่น กาแฟ สกินแคร์ อื่นๆ 50% จากปัจจุบันที่มีรายได้จากการบริการสัดส่วน 90% และจากผลิตภัณฑ์เพียง 10% เท่านั้นเอง และจะเพิ่มตลาดส่งออกด้วย ซึ่งปัจจุบันมีเพียง 3% เท่านั้นเองจากรายได้รวม
ทั้งนี้บริษัทฯจึงได้วางแผนที่จะขยายการลงทุนทางด้านผลิตภัณฑ์เพิ่มมากขึ้น ด้วยการก่อสร้างโรงงานผลิตขึ้นมาเอง จากเดิมที่ใช้วิธืการว่างจ้างผลิตหรือโออีเอ็มและการนำเข้าจากต่างประเทศ คาดว่าจะใช้พื้นที่ที่มีอยู่แล้วประมาณ 40 กว่าไร่ ที่ปทุมธานี โดยจะแบ่งเป็น 3 เฟสหลักคือ 1. อาหารเสริมประเภทแคปซูล เฟส 2.ผลิตภัณฑ์สกินแคร์ ครีมลดน้ำหนัก และเฟสที่ 3 ผลิตเครื่องดื่มและอาหาร ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษารายละเอียดและงบประมาณการลงทุนทั้งหมด
สำหรับผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯที่มีอยู่แล้วเช่น กาแฟบอดี้เชพ กาแฟบอดี้เชพฟอร์เมน ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร 1-2-3 และที่จะขยายต่อในปีหน้าและอนาคต เช่น ผลิตภัณฑ์พร้อมดื่มกาแฟขวด ผลิตภัณฑ์ทรีอินวัน เช่น ชา มัทฉะ คอลลาเจน ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารแนวใหม่ ครีมฟื้นฟูทรวงอก เป็นต้น อีกทั้งจะมีผลิตภัณฑ์ใหม่ในปีหน้าอีก 10 รายการ
“กาแฟบอดี้เชฟได้รับความสำเร็จเป็นอย่างดี ตอนนี้ยอดขาย 100 กว่าล้านบาทแล้ว ส่วนปีหน้าคาดว่ายอดขายจากกาแฟบอดี้เชพน่าจะเพิ่มเป็น 350 ล้านบาท เพราะเรามีช่องทางจำหน่ายมากขึ้น” นายภูพงษ์กล่าว
ขณะที่ช่องทางการจำหน่ายสินค้านั้น บริษัทฯมีแผนที่จะลงทุนขยายร้านบอดี้เชพคาเฟ่เพิ่มขึ้นในปี 2553 ซึ่งปัจจุบันมีเปิดบริการแล้ว 6 สาขา ล่าสุดช่วงปลายปีนี้เพิ่งเปิดอีก 2 สาขาคือที่ บางใหญ่ อุบลราชธานี ทั้งนี้เป็นของบริษัทฯเองจำนวน 2 สาขา ส่วนปีหน้าบริษัทฯวางแผนที่จะเปิดสาขาในรูปแบบแฟลกชิฟสโตร์อีกอย่างต่ำ 1-2 สาขา เป็นของบริษัทฯเอง
อย่างไรก็ตาม แผนขยายสาขาของบอดี้เชพคาเฟ่ จะเน้นการขายแฟรนไชส์เป็นหลัก ซึ่งวางเป้าหมายปีหน้าเพิ่มสาขารวมเป็น 100 สาขา ซึ่งมีการลงทุน 3 รูปแบบคือ 1.คีออส ลงทุน 200,000 บาท พื้นที่ 10 ตารางเมตร 2.มินิชอป ลงทุน 700,000 บาท พื้นที่ 25 ตารางเมตร และ 3. ร้านเต็มรูปแบบหรือฟูลชอป (Full Shop) ลงทุน 1 ล้านบาทขึ้นไป พื้นที่ 45 ตารางเมตร ซึ่งจะมีจำหน่ายครบทั้งกาแฟ เครื่องดื่ม เบเกอรี่ และผลิตภัณฑ์อื่นๆด้วย ซึ่งจะเน้นทำเลตามโรงเรียน มหาวิทยาลัย อาคารสำนักงาน ศูนย์การค้า
นอกจากนั้นจะยังขยายการลงทุนร้านค้าปลีกและคีออส บอดี้ เชพ ไลฟ์สไตล์ ชอป อีกด้วย อย่างต่ำ 50 สาขาในปี 2553 ซึ่งปัจจุบันมี 5 สาขา คือ ที่เซ็นทรัลปิ่นเกล้า เทสโก้โลตัสพระรามสาม เทสโก้โลตัสพระรามสี่ เทสโก้โลตัสรามอินทรา เทสโก้โลตัสหลักสี่