ASTVผู้จัดการรายวัน – เพลย์แมกซ์ บุกตลาดเครื่องสำอางเคาน์เตอร์แบรนด์ 1.1 หมื่นล้านบาท นำเข้า ”คินข่ะ” สกินแคร์-เครื่องสำอางพรีเมียม ชูจุดเด่นนวัตกรรมใหม่มีส่วนผสมทองคำ เจาะผู้หญิง 20-55 ปี ควักสินค้ารุ่นลิมิติเต็ด “หน้ากากทองคำ” ล่อใจ ปูพรมเปิดตัว 2 เคาน์เตอร์นำร่อง ปีแรกกวาดรายได้ 10-15 ล้านบาท
นางพรพิมล ศีลคุปต์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เพลย์แมกซ์ จำกัด ผู้นำเข้าผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและเครื่องสำอางคินข่ะ เปิดเผยว่า บริษัทได้นำเข้าผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและเครื่องสำอางระดับพรีเมียมภายใต้แบรนด์”คินข่ะ คอสเมติก” จากบริษัทฮากุอิชิ ผู้ดำเนินธุรกิจหัตกรรมจากทองคำบริสุทธิ์จากประเทศญี่ปุ่นเข้ามาทำตลาดในฐานะตัวแทนจำหน่าย นำร่องเปิดตัวสินค้า 12 รายการ ชูจุดเด่นนวัตกรรมใหม่เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมทองบริสุทธิ์ วางตำแหน่งเป็นสินค้าระดับพรีเมียม ราคา 2,000 บาทขึ้นไป เจาะกลุ่มเป้าหมายระดับบีบวกอายุ 20-55 ปี
สำหรับช่องทางจำหน่ายมุ่งเน้นขยายเคาน์เตอร์เป็นหลักสัดส่วน 50% ด้วยการเปิดตัว 2 สาขาต่อปี นำร่อง เปิดเคาน์เตอร์ ที่ สยามพารากอน และเอ็มโพเรี่ยม คาดว่าใช้งบลงทุนกว่า 1ล้านบาทต่อสาขา และปีหน้าขยายเคาน์เตอร์ในตลาดต่างจังหวัด นอกจากนี้เน้นขยายช่องทางคอลเซ็นเตอร์ สัดส่วน 40% จากการจำหน่ายสินค้าผ่านทางเคเบิ้ลทีวี เพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายต่างจังหวัด และสปา สัดส่วน 10% ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการเจรจา
บริษัทได้วางงบการตลาด 30% ของยอดขาย ทำสื่อโฆษณาทางสิ่งพิมพ์ ล่าสุดบริษัทได้เปิดตัวสินค้ารุ่นลิมิเต็ด นวัตกรรมใหม่หน้ากาก และมาร์ก ทองคำ แพลตตินั่ม พร้อมกับเปิดตัวแอมบาสเดอร์ ตลอดจนจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย ส่วนปีหน้านี้นำเข้าสินค้าใหม่ 5รายการ จากปัจจุบันในญี่ปุ่นมีสินค้า 30 รายการ โดยบริษัทตั้งเป้ายอดขาย 10-15 ล้านบาท ในปีแรกและคาดว่าปีหน้ามีอัตราการเติบโต 10% จากปัจจุบันบริษัทยังดำเนินธุรกิจนำเข้าของเล่นสะสมจากญี่ปุ่นมาจัดจำหน่าย
แนวโน้มตลาดเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ดูแลผิวมูลค่า 3.3 หมื่นล้านบาท ในปีนี้มีอัตราการเติบโต 4-5% แบ่งเป็น ร้านค้าทั่วไป ขายตรง 2.2 หมื่นล้านบาท และเคาน์เตอร์แบรนด์ 1.1ล้านบาท ซึ่งยังเป็นตลาดที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจถดถอย เนื่องจากการจับจ่ายใช้สอยเครื่องสำอางของผู้หญิงไม่ได้ลดลง เพียงแต่มีการวางแผนการเลือกซื้อมากขึ้น
นางพรพิมล กล่าวว่า แม้ว่าเศรษฐกิจถดถอย แต่ผู้ซื้อยังมีอำนาจในการซื้อเครื่องสำอางอยู่ อีกทั้งความภักดีต่อตราสินค้ายังมีไม่มากนัก ดังนั้นการนำเข้าคินข่ะ มองว่าเป็นโอกาสทางการตลาด โดยเฉพาะบริษัทฮากุอิชิ นับว่าเป็นผู้ดำเนินธุรกิจหัตกรรมจากทองคำบริสุทธิ์รายใหญ่ และเป็นบริษัทแรกที่ผลิตกระดาษซับมันทองคำให้เกอิชา
อีกทั้งญี่ปุ่นยังประเทศที่มีเครื่องสำอางขนาดใหญ่และมีคุณภาพ เมื่อเทียบกับเครื่องสำอางเกาหลี
นางพรพิมล ศีลคุปต์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เพลย์แมกซ์ จำกัด ผู้นำเข้าผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและเครื่องสำอางคินข่ะ เปิดเผยว่า บริษัทได้นำเข้าผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและเครื่องสำอางระดับพรีเมียมภายใต้แบรนด์”คินข่ะ คอสเมติก” จากบริษัทฮากุอิชิ ผู้ดำเนินธุรกิจหัตกรรมจากทองคำบริสุทธิ์จากประเทศญี่ปุ่นเข้ามาทำตลาดในฐานะตัวแทนจำหน่าย นำร่องเปิดตัวสินค้า 12 รายการ ชูจุดเด่นนวัตกรรมใหม่เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมทองบริสุทธิ์ วางตำแหน่งเป็นสินค้าระดับพรีเมียม ราคา 2,000 บาทขึ้นไป เจาะกลุ่มเป้าหมายระดับบีบวกอายุ 20-55 ปี
สำหรับช่องทางจำหน่ายมุ่งเน้นขยายเคาน์เตอร์เป็นหลักสัดส่วน 50% ด้วยการเปิดตัว 2 สาขาต่อปี นำร่อง เปิดเคาน์เตอร์ ที่ สยามพารากอน และเอ็มโพเรี่ยม คาดว่าใช้งบลงทุนกว่า 1ล้านบาทต่อสาขา และปีหน้าขยายเคาน์เตอร์ในตลาดต่างจังหวัด นอกจากนี้เน้นขยายช่องทางคอลเซ็นเตอร์ สัดส่วน 40% จากการจำหน่ายสินค้าผ่านทางเคเบิ้ลทีวี เพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายต่างจังหวัด และสปา สัดส่วน 10% ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการเจรจา
บริษัทได้วางงบการตลาด 30% ของยอดขาย ทำสื่อโฆษณาทางสิ่งพิมพ์ ล่าสุดบริษัทได้เปิดตัวสินค้ารุ่นลิมิเต็ด นวัตกรรมใหม่หน้ากาก และมาร์ก ทองคำ แพลตตินั่ม พร้อมกับเปิดตัวแอมบาสเดอร์ ตลอดจนจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย ส่วนปีหน้านี้นำเข้าสินค้าใหม่ 5รายการ จากปัจจุบันในญี่ปุ่นมีสินค้า 30 รายการ โดยบริษัทตั้งเป้ายอดขาย 10-15 ล้านบาท ในปีแรกและคาดว่าปีหน้ามีอัตราการเติบโต 10% จากปัจจุบันบริษัทยังดำเนินธุรกิจนำเข้าของเล่นสะสมจากญี่ปุ่นมาจัดจำหน่าย
แนวโน้มตลาดเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ดูแลผิวมูลค่า 3.3 หมื่นล้านบาท ในปีนี้มีอัตราการเติบโต 4-5% แบ่งเป็น ร้านค้าทั่วไป ขายตรง 2.2 หมื่นล้านบาท และเคาน์เตอร์แบรนด์ 1.1ล้านบาท ซึ่งยังเป็นตลาดที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจถดถอย เนื่องจากการจับจ่ายใช้สอยเครื่องสำอางของผู้หญิงไม่ได้ลดลง เพียงแต่มีการวางแผนการเลือกซื้อมากขึ้น
นางพรพิมล กล่าวว่า แม้ว่าเศรษฐกิจถดถอย แต่ผู้ซื้อยังมีอำนาจในการซื้อเครื่องสำอางอยู่ อีกทั้งความภักดีต่อตราสินค้ายังมีไม่มากนัก ดังนั้นการนำเข้าคินข่ะ มองว่าเป็นโอกาสทางการตลาด โดยเฉพาะบริษัทฮากุอิชิ นับว่าเป็นผู้ดำเนินธุรกิจหัตกรรมจากทองคำบริสุทธิ์รายใหญ่ และเป็นบริษัทแรกที่ผลิตกระดาษซับมันทองคำให้เกอิชา
อีกทั้งญี่ปุ่นยังประเทศที่มีเครื่องสำอางขนาดใหญ่และมีคุณภาพ เมื่อเทียบกับเครื่องสำอางเกาหลี