ไลอ้อน เดินเกมบุกปั้นสินค้าตามไลฟ์สไตล์ อัดเซกเมนเตชัน รับเทรนด์ตลาดสินค้าอุปโภคบริโภคเปลี่ยนไป ทุ่ม 60 ล้านบาท แตกไลน์โชกุบุสซึ ครีมอาบน้ำผู้ชายลงสมรภูมิรบตลาด 2,400 ล้านบาท ลั่นปีหน้าส่งแชมพูชายยี่ห้อใหม่ ปีแรกกวาดยอด 50 ล้านบาท แชร์โดยรวมพุ่งจาก 10% เป็น 12% รายได้รวม 9,000 ล้านบาทโตกว่า 10%
นายบุณยฤทธิ์ มหามนตรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไลอ้อน (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายครีมอาบน้ำโชกุบุสซึ เปิดเผยว่า บริษัทได้ทุ่มงบ 60 ล้านบาท แตกไลน์ครีมอาบน้ำโชกุบุสซึสำหรับผู้ชาย วางตำแหน่งเป็นครีมอาบน้ำเพื่อสุขภาพผิว ซึ่งเป็นสินค้าตัวแรกในการบุกตลาดเพอร์ซันนัลแคร์เจาะกลุ่มเป้าหมายผู้ชาย โดยการรุกตลาดในครั้งนี้ พบว่า ผู้ชายมีพฤติกรรมการซื้อสินค้าด้วยตัวเองมากขึ้น จากเดิมการซื้อสินค้าในกลุ่มเพอร์ซันนัลแคร์และสกินแคร์ มักจะซื้อใช้กันทั้งครอบครัว
สินค้าสำหรับผู้ชายเป็นตลาดที่มีศักยภาพ โดยในช่วงที่ผ่านมา ตลาดเครื่องสำอางผู้ชายมีมูลค่า 1,500 ล้านบาท ส่วนตลาดครีมอาบน้ำสำหรับผู้ชายมูลค่า 16 ล้านบาท และในปีนี้คาดว่าจะมีมูลค่า 40 ล้านบาท จากปัจจุบันมีผู้ประกอบการในตลาด อาทิ อาดิดาส และบีไนซ์ อย่างไรก็ตาม บริษัทยังวางแผนขยายโปรดักส์ไลน์ แชมพูสำหรับผู้ชายในปีหน้านี้ โดยจะเป็นสินค้าแบรนด์ใหม่
“เทรนด์ตลาดสินค้าอุปโภคบริโภคเปลี่ยนแปลงไป จากสภาพครอบครัวที่มีขนาดเล็กลง และปัจจัยการตัดสินใจซื้อสินค้าตามไลฟ์สไตล์มากขึ้น หรือแบ่งเป็นเซกเมนเตชันมากขึ้น จากเดิมแบ่งแยกตามอายุ การศึกษา กำลังการซื้อ”
สำหรับการทำตลาดครีมอาบน้ำโชกุบุสซึ เปิดตัว 2 สูตรใหม่ คือ สูตรเย็นสดชื่น กลิ่นหอม และสูตรกลิ่นหอมผ่อนคลาย รองรับพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมายผู้ชาย ที่มีไลฟ์สไตล์ 4 ประเภท ได้แก่ การเล่นกีฬา ทำงานกลางคืน ทำกิจกรรม และทำงานหนัก โดยจะมีโฆษณาประชาสัมพันธ์การแจกสินค้าตัวอย่าง 2 แสนชิ้น เน้นช่องทางจำหน่ายผ่านโมเดิร์นเทรด เนื่องจากผู้ชายนิยมซื้อสินค้าในช่องทางดังกล่าวมากกว่าเป็นเทรดิชันนัลเทรด
“พฤติกรรมของผู้ชายในขณะนี้ ยังใช้สบู่ก้อนเป็นหลัก แต่มีแนวโน้มว่าเปลี่ยนมาใช้ครีมอาบน้ำ จากไลฟ์สไตล์ที่เร่งรีบในชีวิตประจำวัน เช่นเดียวกับตลาดสำหรับผู้หญิงที่เปลี่ยนมาใช้ครีมอาบน้ำเป็นหลัก ทำให้ขณะนี้ตลาดสบู่ก้อนมูลค่า 5,000 ล้านบาท ไม่มีอัตราการเติบโต”
ตลาดครีมอาบน้ำมูลค่า 2,400 ล้านบาท เติบโต 18% แบ่งเป็น ครีมอาบน้ำเพื่อความงามสัดส่วน 70% 1,680 ล้านบาท มีอัตราการเติบโต 15% ส่วนครีมอาบน้ำสำหรับเด็กสัดส่วน 15% หรือ 360ล้านบาท เติบโต 5% และครีมอาบน้ำเพื่อสุขภาพผิว 360 ล้านบาท มีอัตราการเติบโต 50% อย่างไรก็ตามในปีแรกบริษัทตั้งเป้าโชกุบุสซึ 50 ล้านบาท และปีนี้ผลักดันโชกุบุสซึโดยรวมมีรายได้ 350 ล้านบาท จากปีที่แล้ว 260 ล้านบาทและมีส่วนแบ่งเพิ่ม 10% เป็น 12% รั้งอันดับ 2 ของตลาด จากปัจจุบันลักส์ เป็นผู้นำตลาดครองส่วนแบ่ง 30% บีไนซ์ 8-9% จากตลาดรวมครีมอาบน้ำ สำหรับรายได้สิ้นปีนี้โตกว่า 10% หรือ 9,000 ล้านบาท
นายบุณยฤทธิ์ มหามนตรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไลอ้อน (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายครีมอาบน้ำโชกุบุสซึ เปิดเผยว่า บริษัทได้ทุ่มงบ 60 ล้านบาท แตกไลน์ครีมอาบน้ำโชกุบุสซึสำหรับผู้ชาย วางตำแหน่งเป็นครีมอาบน้ำเพื่อสุขภาพผิว ซึ่งเป็นสินค้าตัวแรกในการบุกตลาดเพอร์ซันนัลแคร์เจาะกลุ่มเป้าหมายผู้ชาย โดยการรุกตลาดในครั้งนี้ พบว่า ผู้ชายมีพฤติกรรมการซื้อสินค้าด้วยตัวเองมากขึ้น จากเดิมการซื้อสินค้าในกลุ่มเพอร์ซันนัลแคร์และสกินแคร์ มักจะซื้อใช้กันทั้งครอบครัว
สินค้าสำหรับผู้ชายเป็นตลาดที่มีศักยภาพ โดยในช่วงที่ผ่านมา ตลาดเครื่องสำอางผู้ชายมีมูลค่า 1,500 ล้านบาท ส่วนตลาดครีมอาบน้ำสำหรับผู้ชายมูลค่า 16 ล้านบาท และในปีนี้คาดว่าจะมีมูลค่า 40 ล้านบาท จากปัจจุบันมีผู้ประกอบการในตลาด อาทิ อาดิดาส และบีไนซ์ อย่างไรก็ตาม บริษัทยังวางแผนขยายโปรดักส์ไลน์ แชมพูสำหรับผู้ชายในปีหน้านี้ โดยจะเป็นสินค้าแบรนด์ใหม่
“เทรนด์ตลาดสินค้าอุปโภคบริโภคเปลี่ยนแปลงไป จากสภาพครอบครัวที่มีขนาดเล็กลง และปัจจัยการตัดสินใจซื้อสินค้าตามไลฟ์สไตล์มากขึ้น หรือแบ่งเป็นเซกเมนเตชันมากขึ้น จากเดิมแบ่งแยกตามอายุ การศึกษา กำลังการซื้อ”
สำหรับการทำตลาดครีมอาบน้ำโชกุบุสซึ เปิดตัว 2 สูตรใหม่ คือ สูตรเย็นสดชื่น กลิ่นหอม และสูตรกลิ่นหอมผ่อนคลาย รองรับพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมายผู้ชาย ที่มีไลฟ์สไตล์ 4 ประเภท ได้แก่ การเล่นกีฬา ทำงานกลางคืน ทำกิจกรรม และทำงานหนัก โดยจะมีโฆษณาประชาสัมพันธ์การแจกสินค้าตัวอย่าง 2 แสนชิ้น เน้นช่องทางจำหน่ายผ่านโมเดิร์นเทรด เนื่องจากผู้ชายนิยมซื้อสินค้าในช่องทางดังกล่าวมากกว่าเป็นเทรดิชันนัลเทรด
“พฤติกรรมของผู้ชายในขณะนี้ ยังใช้สบู่ก้อนเป็นหลัก แต่มีแนวโน้มว่าเปลี่ยนมาใช้ครีมอาบน้ำ จากไลฟ์สไตล์ที่เร่งรีบในชีวิตประจำวัน เช่นเดียวกับตลาดสำหรับผู้หญิงที่เปลี่ยนมาใช้ครีมอาบน้ำเป็นหลัก ทำให้ขณะนี้ตลาดสบู่ก้อนมูลค่า 5,000 ล้านบาท ไม่มีอัตราการเติบโต”
ตลาดครีมอาบน้ำมูลค่า 2,400 ล้านบาท เติบโต 18% แบ่งเป็น ครีมอาบน้ำเพื่อความงามสัดส่วน 70% 1,680 ล้านบาท มีอัตราการเติบโต 15% ส่วนครีมอาบน้ำสำหรับเด็กสัดส่วน 15% หรือ 360ล้านบาท เติบโต 5% และครีมอาบน้ำเพื่อสุขภาพผิว 360 ล้านบาท มีอัตราการเติบโต 50% อย่างไรก็ตามในปีแรกบริษัทตั้งเป้าโชกุบุสซึ 50 ล้านบาท และปีนี้ผลักดันโชกุบุสซึโดยรวมมีรายได้ 350 ล้านบาท จากปีที่แล้ว 260 ล้านบาทและมีส่วนแบ่งเพิ่ม 10% เป็น 12% รั้งอันดับ 2 ของตลาด จากปัจจุบันลักส์ เป็นผู้นำตลาดครองส่วนแบ่ง 30% บีไนซ์ 8-9% จากตลาดรวมครีมอาบน้ำ สำหรับรายได้สิ้นปีนี้โตกว่า 10% หรือ 9,000 ล้านบาท