มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ผ่านมาของรัฐบาลถือว่าประสบความสำเร็จซึ่งส่วนหนึ่งได้รับอานิสงส์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก แต่ปี 53 นี้จะผลักดันโครงการลงทุนต่างๆ ตามแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็งได้ตามเป้าหรือไม่ต้องมาลุ้นกัน เพราะจนถึงวันนี้โครงการที่ครม.อนุมัติมูลค่า 1.7 แสนล้านเพิ่งทำสัญยาไปเพียง 4.8 หมื่นล้านบาทเท่านั้น อย่างนี้จะสร้างความเชื่อมั่นเอกชนรับไม้ต่อลงทุนจากรัฐได้ทันไหม?
ในส่วนของธุรกิจประกันชีวิต “สาระ ล่ำซำ” นายกสมาคมประกันชีวิตและบิ๊กบอส เมืองไทยประกันชีวิต บริษัทของคนหัวคิดทันสมัย แม้จะพูดไม่เต็มปากว่าไทยเข้มแข็งจะฟื้นเศรษฐกิจไทยได้มากแค่ไหน แต่ยังให้กำลังใจให้รัฐบาลเดินหน้าแผนกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไปหวังให้ธุรกิจประกันชีวิตเป็นส่วนหนึ่งในยุทธศาสตร์ฝนตกทั่วฟ้าของรัฐบาลด้วย
แต่ที่ขอร้องกรมสรรพากร กระทรวงการคลัง มานานคือการขอเพิ่มสิทธิลดหย่อนภาษีสำหรับเบี้ยประกันสุขภาพ โรคร้ายต่างๆ และอุบัติเหตุ เพิ่มขึ้น เพราะในระยะยาวเบี้ยประกันส่วนนี้จะเป็นส่วนช่วยให้รัฐบาลลดภาระทางด้านการคลังในการอุดหนุนงบประมาณด้านสาธารณสุขลงได้มากหากมองในระยะยาวเรื่องนี้ก็วินวินกันทุกฝ่าย
ส่วนประเด็นร้อนที่นายกอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ พูดคุยกับนักข่าวตั้งแต่ก่อนสิ้นปีคงหนีไม่พ้นล้มหวยออนไลน์ ที่มีทั้งฝ่ายสนับสนุนและต่อต้าน ไม่ทราบว่าข้อมูลที่ท่านนายกได้รับนั้นครอบคุมในเรื่องผลกระทบต่อสังคมมากน้อยเพียงใด หากรัฐบาลล้มโครงการแล้วเสียค่าโง่ 3 พันล้านแลกกับการหยุดมอมเมาประชาชนจะคุ้มค่ากับเงินภาษีหรือไม่ อย่าลืมว่าการพนันฝังรากลึกในสังคมไทยมานานแม้อยากเห็นสังคมในอุดมคติที่ปลอดการพนันแต่ก็อยากให้มองโลกแห่งความจริงด้วย!!
ในส่วนของธุรกิจประกันชีวิต “สาระ ล่ำซำ” นายกสมาคมประกันชีวิตและบิ๊กบอส เมืองไทยประกันชีวิต บริษัทของคนหัวคิดทันสมัย แม้จะพูดไม่เต็มปากว่าไทยเข้มแข็งจะฟื้นเศรษฐกิจไทยได้มากแค่ไหน แต่ยังให้กำลังใจให้รัฐบาลเดินหน้าแผนกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไปหวังให้ธุรกิจประกันชีวิตเป็นส่วนหนึ่งในยุทธศาสตร์ฝนตกทั่วฟ้าของรัฐบาลด้วย
แต่ที่ขอร้องกรมสรรพากร กระทรวงการคลัง มานานคือการขอเพิ่มสิทธิลดหย่อนภาษีสำหรับเบี้ยประกันสุขภาพ โรคร้ายต่างๆ และอุบัติเหตุ เพิ่มขึ้น เพราะในระยะยาวเบี้ยประกันส่วนนี้จะเป็นส่วนช่วยให้รัฐบาลลดภาระทางด้านการคลังในการอุดหนุนงบประมาณด้านสาธารณสุขลงได้มากหากมองในระยะยาวเรื่องนี้ก็วินวินกันทุกฝ่าย
ส่วนประเด็นร้อนที่นายกอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ พูดคุยกับนักข่าวตั้งแต่ก่อนสิ้นปีคงหนีไม่พ้นล้มหวยออนไลน์ ที่มีทั้งฝ่ายสนับสนุนและต่อต้าน ไม่ทราบว่าข้อมูลที่ท่านนายกได้รับนั้นครอบคุมในเรื่องผลกระทบต่อสังคมมากน้อยเพียงใด หากรัฐบาลล้มโครงการแล้วเสียค่าโง่ 3 พันล้านแลกกับการหยุดมอมเมาประชาชนจะคุ้มค่ากับเงินภาษีหรือไม่ อย่าลืมว่าการพนันฝังรากลึกในสังคมไทยมานานแม้อยากเห็นสังคมในอุดมคติที่ปลอดการพนันแต่ก็อยากให้มองโลกแห่งความจริงด้วย!!