ดอนเมืองโทลเวย์ ปรับขึ้นค่าผ่านทางแน่นอน พรุ่งนี้ หลังการเจรจาล้มเหลว รมว.คมนาคม ชี้เงื่อนไขจำยอมเพราะรัฐบาลก่อนหน้านี้ ได้ต่ออายุสัมปทานลากยาวถึง 20 ปี พร้อมหามาตรการบรรเทาผลกระทบตามจุดวิกฤตสี่แยกต่างๆ ที่ตัดกับถนนวิภาวดีฯ เนื่องจากใกล้เทศกาลปีใหม่ ประชาชนต้องใช้เส้นทางออกต่างจังหวัดเป็นจำนวนมาก
นายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยผลการหารือกับผู้บริหารกรมทางหลวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการปรับขึ้นค่าผ่านทางดอนเมืองโทลล์เวย์ โดยระบุว่า กระทรวงคมนาคมได้ศึกษารายละเอียดข้อสัญญาสัมปทานระหว่างกรมทางหลวงกับบริษัททางยกระดับดอนเมือง จำกัด (มหาชน) เสร็จสิ้นแล้ว พบว่าการปรับขึ้นค่าผ่านทางครั้งนี้เป็นไปตามสัญญา
นายโสภณ กล่าวว่า รัฐบาลจำเป็นต้องปรับแก้ไขสัญญาและเสนอสิทธิประโยชน์ให้เอกชนคู่สัญญา ซึ่งที่ผ่านมามีการเจรจาขอชะลอการปรับขึ้นค่าผ่านทางมาแล้ว 2 ครั้ง และรัฐต้องต่ออายุสัมปทานให้ดอนเมืองโทลล์เวย์เป็นเวลาถึง 20 ปี หากไม่มีการต่ออายุสัมปทานจะทำให้สัญญาสัมปทานดังกล่าวสิ้นสุด และดอนเมืองโทลล์เวย์เป็นของรัฐในปี 2557 แต่จากการต่ออายุสัญญาสัมปทานดังกล่าว ทำให้ขณะนี้เหลือเวลาอีก 25 ปี จึงจะหมดอายุสัญญา กระทรวงคมนาคมจึงเลือกที่จะไม่เจรจาและยอมปล่อยให้ดอนเมืองโทลล์เวย์ปรับขึ้นค่าผ่านทางในวันพรุ่งนี้ (22 ธันวาคม 2552) แต่จะหามาตรการบรรเทาผลกระทบให้ประชาชนผู้ใช้ทางแทน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวอีกว่า จากการศึกษารายละเอียดของสัญญาที่มีการปรับแก้ในปี 2550 พบว่า ในสัญญาข้อที่ 6 มีการระบุว่า การชะลอปรับขึ้นค่าผ่านทางที่ผ่านมาจะไม่นำไปสู่การฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายต่างๆ แต่พบว่า บริษัท วอเตอร์บาวน์ ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของดอนเมืองโทลล์เวย์ ได้มีการยื่นฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากกระทรวงคมนาคม ทำให้กระทรวงคมนาคมแพ้คดีในชั้นอนุญาโตตุลาการ และขณะนี้กำลังดำเนินการอยู่ในชั้นอุทธรณ์ ซึ่งผลการสรุปคดียังไม่สิ้นสุด จึงยังไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าดอนเมืองโทลล์เวย์จะต้องมีความรับผิดชอบร่วมกับบริษัทย่อยดังกล่าวด้วยหรือไม่ในกรณีที่เอกชนแพ้คดี
ทั้งนี้ หากพบว่า ดอนเมืองโทลล์เวย์ซึ่งเป็นบริษัทแม่ จำเป็นต้องมีความรับผิดชอบร่วมกันก็ถือว่าเป็นการทำผิดสัญญา และการปรับขึ้นค่าผ่านทางครั้งนี้เป็นการขึ้นค่าผ่านทางโดยไม่ชอบ ซึ่งทางกระทรวงคมนาคมจะติดตามเรื่องนี้เพื่อให้มีการดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งซึ่งอาจเป็นข้อต่อรองในการปรับลดค่าผ่านทางดอนเมืองโทลล์เวย์ในอนาคต
สำหรับมาตรการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนผู้ใช้ทางดอนเมืองโทลล์เวย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ระบุว่า ได้เตรียมมาตรการบรรเทาผลกระทบไว้ 2-3 มาตรการ ประกอบด้วย 1.ได้สั่งการให้กรมทางหลวงจัดเจ้าหน้าที่สำรวจเส้นทางจุดตัด และหาเส้นทางหลีกเลี่ยงไม่ให้ผู้ใช้ทางโทลล์เวย์หรือเส้นวิภาวดีเป็นประจำผ่านถนนวิภาวดี เพื่อบรรเทาปัญหาจราจรบนถนนวิภาวดี และแก้ปัญหาป้ายรถเมล์ที่เป็นจุดตัดการจราจรทำให้การจราจรติดขัด 2.จัดทำป้ายเชิญชวนให้ประชาชนที่เดินทางจากภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เลี่ยงเส้นทางถนนวิภาวดีในการวิ่งเข้าสู่เมืองโดยให้เลี่ยงไปใช้เส้นทางวงแหวนตะวันตกและวงแหวนตะวันออกแทน ส่วนมาตรการระยะยาว กระทรวงคมนาคมจะเดินหน้าโครงการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน ที่ไม่ใช่การเพิ่มช่องจราจร ซึ่งอาจทำให้เกิดข้อพิพาทกับคู่สัญญา แต่จะเป็นการสร้างทางลอด ทางเบี่ยง ทางแยก เพื่อลดปัญหาจราจรบนถนนวิภาวดี
อย่างไรก็ตาม ผลจากการปรับขึ้นค่าผ่านทางดอนเมืองโทลล์เวย์ในวันพรุ่งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเชื่อว่าจะทำให้ผู้ใช้ดอนเมืองโทลล์เวย์เลือกที่จะกลับมาใช้ถนนวิภาวดีเพิ่มประมาณร้อยละ 10 ของจำนวนผู้ใช้โทลล์เวย์ทั้งหมด
บริษัท ทางยกระดับดอนเมือง จำกัด (มหาชน) หรือดอนเมืองโทลล์เวย์ จะเริ่มปรับขึ้นอัตราค่าผ่านทาง มีผลตั้งแต่เวลา 00.01 น.ของวันพรุ่งนี้ (22 ธันวาคม 2552) โดยรถยนต์ 4 ล้อ ปรับขึ้นเป็น 55 บาท สำหรับรถมากกว่า 4 ล้อ จะปรับขึ้นเป็น 95 บาท
ก่อนหน้านี้ บริษัทเริ่มเก็บค่าบริการช่วงระหว่างดินแดง-อนุสรณ์สถานสำหรับรถ 4 ล้อ ในอัตรา 43 บาท และรถยนต์มากกว่า 4 ล้อ อัตรา 63 บาท ตั้งแต่วันที่ 3 ธันวาคม 2541 และได้ลดค่าผ่านทางเหลือ 20 บาท เป็นเวลา 1 ปี 4 เดือน และเหลือ 30 บาท เป็นเวลา 1 ปี 8 เดือนสำหรับรถยนต์ 4 ล้อ
ขณะเดียวกัน บริษัทได้บริการจุดตรวจเช็กสภาพรถยนต์เบื้องต้นก่อนออกเดินทาง เช่น ตรวจเช็กน้ำกลั่น น้ำมันเครื่อง ตรวจสภาพลมยาง พร้อมทั้งมีบริการน้ำดื่ม ผ้าเย็น คู่มือขับขี่ปลอดภัย ชุดกิฟต์เซต และบริการสุขา ณ ด่านดินแดงนอก (ขาออก) ในวันที่ 27-31 ธันวาคม 2550 เวลา 09.00-17.00 น.