ปตท.สผ. ยืนยันสรุปความเสียหายไฟไหม้แหล่งผลิต "มอนทารา" ในออสเตรเลีย ภายใน Q4/52 และบันทึกตามจริงได้ในงบการเงิน โดยช้ากว่าที่คาดไว้ 2 สัปดาห์
นายอนนต์ สิริแสงทักษิณ กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP คาดว่าจะสามารถสรุปผลความเสียหายจากแหล่งมอนทาราในออสเตรเลียได้ก่อนสิ้นปี 2552 ซึ่งล่าช้ากว่าที่คาดว่าจะสรุปได้ระยะเวลา 2 สัปดาห์หลังเกิดเหตุน้ำมันรั่ว และเพลิงไหม้ในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน 2552 ที่ผ่านมา เนื่องจากมีพายุเข้ามากระทบในบริเวณดังกล่าวในช่วงก่อนหน้านี้ จนไม่สามารถเข้าไปดำเนินการได้
แต่ ณ วันนี้ บริษัทได้ปิดหลุมที่เกิดไฟไหม้และการรั่วไหลของน้ำมันจนปลอดภัยแล้ว และในภายใน 1-2 วันนี้ ปตท.สผ.จะให้วิศกรเข้าไปประเมินผลเสียหาย โดยคาดว่าจะสามารถบันทึกมูลค่าความเสียหายภายหลังการประเมินและจะบันทึกตามจริงในงบการเงินไตรมาส 4 ปี 2552
"การที่เราจะเริ่มผลิตในแหล่งมอนทารา ต้องขึ้นอยู่กับผลการประเมินผลเสียหาย และก็ขึ้นกับว่าใช้วิธีการซ่อมแซมแบบใด รวมทั้งใช้เวลานานเท่าไร ส่วนใหญ่วงเงินประกันยังครอบคลุม ถ้าจะเกิน ก็ไม่น่ามาก แต่ต้องขอดูค่าใช้จ่ายโดยรวม เพราะตัวเลขสุดท้ายยังไม่ออก แต่ที่เราดูเบื้องต้นไม่น่าจะมาก เชื่อว่าวงเงินประกันที่เราสามารถเคลมเข้ามาครอบคลุมเป็นส่วนใหญ่"
ทั้งนี้ บริษัทมีวงเงินประกันไว้จำนวน 270 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งในไตรมาส 3 ปี 2552 ได้บันทึกเป็นค่าใช้จ่าย 150 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ไปแล้ว ซึ่งเป็นความเสียหายเกิดจากเหตุการณ์น้ำมันรั่วไหล
อย่างไรก็ดี ขณะนี้บริษัทได้เตรียมการล่วงหน้าไว้หมดแล้ว โดยเริ่มเข้าไปทาบทามหาผู้รับเหมา พร้อมทั้งออกแบบเตรียมรองรับไว้แล้ว และหลังจาก 1-2 วันนี้จะได้ทราบว่าความเสียหายข้างบนโครงสร้างจะใช้งานต่อไปได้มากน้อยแค่ไหน และดูว่าสิ่งที่บริษัทมองจากภายนอกว่าจะเสียหายเฉพาะส่วนบนเป็นจริงตามนั้นหรือไม่
นายอนนต์ คาดว่า แม้การรับรู้รายได้จากแหล่งมอนทาราจะเลื่อนออกไป จากเดิมที่คาดว่าจะมีรายได้เข้ามาในปีหน้า แต่บริษัทก็ยังคาดว่าจะมีการเติบโต โดยยอดขายและผลิตในปี 2553 จะเพิ่มขึ้นประมาณ 10% จากปีนี้ แต่คงจะไม่ถึงจำนวน 3 แสนบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน ตามเป้าหมายที่เคยวางไว้
ส่วนกำไรในปีหน้าจะเติบโตเท่าใดนั้น ขึ้นกับราคาขายที่อิงกับราคาน้ำมัน โดยคาดว่าปี 2553 ราคาน้ำมันดิบดูไบจะอยู่เฉลี่ย 70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จากปี 2552 ที่ราคาเฉลี่ยประมาณ 60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
"มั่นใจว่า ปีหน้าเรายังมีการเติบโตอยู่ เรามองๆปีหน้าเราน่าจะเติบโตได้ มีแหล่ง JDA และอาทิตย์เหนือที่เข้ามาเต็มปี 2 แหล่งนี้ก็เข้ามาเยอะ ก็อาจจะทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้นประมาณ 10% แต่ไม่ถึง 3 แสนบาร์เรล ซึ่งก่อนหน้านี้ ตามแผนคาดว่าปริมาณการผลิตแหล่งมอนทาราจะเข้ามาประมาณ 10% ของปริมาณผลผลิตรวม"