ไอแบงก์ เตรียมแผนปล่อยสินเชื่อแสนล้าน ครอบคลุมทุกกลุ่มในปี 53 โดยมีแผนขยายอีก 33 สาขา 29 หน่วยบริการ ตามที่ทำการไปรษณีย์ทั่วประเทศ โดยเฉพาะจังหวัดขนาดใหญ่ พร้อมร่วมเดินหน้าแก้หนี้บัตรเครดิต เพื่อหยุดการเป็นทาส ดบ.โหด โดยเฉพาะลูกหนี้ที่มีบัตรหลายใบ ต้องถูกยกเลิกให้เหลือใบเดียว
นพ.พฤฒิชัย ดำรงรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานเปิดสาขาศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 ถนนแจ้งวัฒนะ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ไอแบงก์) เพื่อรองรับบริการลูกค้าที่อยู่ในศูนย์ราชการฯ ภายในปี 2553 ธนาคารมีแผนขยาย
33 สาขา 29 หน่วยบริการ ตามที่ทำการไปรษณีย์ทั่วประเทศโดยเฉพาะจังหวัดขนาดใหญ่ เพื่อให้บริการครอบคลุมประชาชนทุกศาสนา โดยกระทรวงการคลังมีนโยบายให้ไอแบงก์ปล่อยสินเชื่อรวม 88,000 ล้านบาท เพื่อให้สินเชื่อขยายตัว 2.5-3.0 เท่าจากปัจจุบัน
นายธีรศักดิ์ สุวรรณยศ กรรมการผู้จัดการ ไอแบงก์ กล่าวถึงภาพรวมธุรกิจ โดยระบุว่า เมื่อปี 2551 ไอแบงก์ปล่อยสินเชื่อไปแล้ว 16,000 ล้านบาท และในปี 2552 คาดว่าจะอยู่ที่ 53,000 ล้านบาท ส่วนแนวโน้มปี 2553 คาดว่าจะอยู่ที่ 88,000 ล้านบาท โดยธนาคารต้องเพิ่มทุนจาก 3,000 ล้านบาท เพิ่มเป็น 9,360 ล้านบาท ทำให้ปีหน้าธนาคารจะมีทรัพย์สินจาก 48,000 ล้านบาท เพิ่มเป็น 100,000 ล้านบาท
"ขณะนี้ ธนาคารมีศักยภาพและเติบโตอย่างต่อเนื่อง คาดว่าจะมีกำไรจากการบริหารงาน 300 ล้านบาท โดยขยายการบริการครอบคลุมทุกกลุ่มและเพิ่มให้บริการไปสู่ผู้ประกอบการรายกลางและรายใหญ่ เนื่องจากขณะนี้ ประชาชนเริ่มรู้จักไอแบงก์และมาใช้บริการมากขึ้น เพราะหากมีปัญหาหนี้ก่อนฟ้องร้องจะคำนึงถึงหลักคุณธรรมไม่ให้ลูกค้าเดือดร้อนมากเกินไป คาดว่าการปล่อยสินเชื่อปีหน้าจะเริ่มดีขึ้น และทำได้ตามนโยบายของกระทรวงการคลัง
นายธีรศักดิ์ กล่าวถึงนโยบายแก้หนี้นอกระบบ โดยระบุว่า ธนาคารพร้อมรับโอนลูกหนี้ที่ลงทะเบียนแก้ปัญหาหนี้นอกระบบจากธนาคารออมสิน และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ในช่วงเดือนมกราคม 2552 นี้ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีลูกหนี้บัตรเครดิตเข้าไปติดต่อ เพื่อขอกู้หนี้บัตรเครดิตอื่นประมาณ 2,000 ราย โดยไอแบงก์ พร้อมรับแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบที่เกี่ยวกับบัตรเครดิตและผู้มีปัญหาภาระหนี้บัตรเครดิตหลายใบ โดยธนาคารจะปล่อยกู้ให้ไม่เกิน 200,000 บาท เพื่อนำไปชำระหนี้ให้กับลูกหนี้บัตรเครดิต จากการเป็นหนี้บัตรต่างๆ เพื่อให้ยกเลิกเหลือเพียงบัตรเครดิตใบเดียว
ทั้งนี้ ธนาคารจะคิดอัตรากำไร (ดอกเบี้ย) ร้อยละ 8-15 ปล่อยกู้วงเงินไม่เกิน 200,000 บาทต่อราย โดยให้ผ่อนชำระประมาณ 4,000 บาทต่อเดือน ระยะเวลาชำระแล้วแต่เงื่อนไข และประเภทลูกหนี้ประมาณ 5-10 ปี เพื่อให้ลูกหนี้สามารถมีกำลังในการผ่อนชำระ โดยที่ผ่านมาผู้มีปัญหาบัตรเครดิตที่ต้องการกู้เงินไปชำระหนี้บัตร ซึ่งเป็นพนักงาน ข้าราชการ รัฐวิสาหกิจ ต้องการเงินประมาณ 200,000-300,000 บาท จากผู้มีรายได้ 20,000-30,000 บาทต่อเดือน เมื่อธนาคารให้บริการดังกล่าวมีปัญหาหนี้เสียเพียงร้อยละ 2 เท่านั้น
สำหรับความคืบหน้าการปล่อยสินเชื่อฟาสแทร็ก นายธีรศักดิ์ กล่าวว่า ธนาคารอนุมัติสินเชื่อไปแล้ว 9,000 ล้านบาท จากเป้าหมาย 6,000 ล้านบาท ขณะนี้เบิกจ่ายสินเชื่อเพื่อไปลงทุนและใช้จ่ายของลูกค้าวงเงินจ่ายจริง 7,000 ล้านบาท ส่วนกรณีที่กระทรวงการคลังมีแผนให้ไอแบงก์เป็นที่ปรึกษาและตัวแทนจำหน่ายพันธบัตรอิสลาม (ซูฮุก) วงเงิน 50,000 ล้านบาทในตะวันออกกลางนั้น ขณะนี้รอให้สำนักบริหารหนี้สาธารณะเสนอ ครม. การแก้ไขเกี่ยวกับภาษีสำหรับการจำหน่ายพันธบัตรอิสลาม คาดว่าไตรมาส 2 ปี 2553 น่าจะสามารถออกไประดมทุนในตะวันออกกลางได้ แม้ดูไบจะมีปัญหาเศรษฐกิจ แต่ประเทศอื่น ๆ ในแถบตะวันออกกลางไม่ได้รับผลกระทบและไม่มีปัญหาสภาพคล่อง จึงมีเงินลงทุนเพียงพอที่พร้อมเข้าไประดมทุนได้ โดยเฉพาะการมีรายได้จากราคาน้ำมันที่อยู่ในระดับสูง