ศูนย์ข่าวขอนแก่น-รองผู้อำนวยการแบงก์ออมสิน เผยตัวเลขชาวขอนแก่นขึ้นทะเบียนโครงการแก้ไขปัญหาหนีนอกระบบตั้งแต่ 1 ธ.ค. จนถึงขณะนี้มีแค่2,000 กว่าราย ยอมรับต่ำกว่าเป้า เหตุลูกหนี้หวั่นไม่ปลอดภัย เจ้าหนี้จ้องข่มขู่ทำร้าย แนะรัฐบาลชี้แจงจุดประสงค์โครงการที่ไม่ได้ตามเอาผิดเจ้าหนี้ แต่มุ่งช่วยให้ลูกหนี้มีเงินใช้หนี้ตามระบบ
นายยงยุทธ ตะริโย รองผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยภายหลังร่วมงานพิธีเปิดธนาคารออมสิน สาขาศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่าขอนแก่น จ.ขอนแก่นว่า แม้จากรายงานของสำนักงานตำรวจภูธรภาค 4 จะระบุว่า ชาวขอนแก่นมีปัญหาหนี้นอกระบบสูงที่สุดใน 11 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน แต่ล่าสุด ยอดผู้ขอขึ้นทะเบียนกับธนาคารออมสินที่ขอนแก่นมีเพียงประมาณ 2,500 รายเท่านั้น ทั้งที่ตามสภาพความเป็นจริงผู้ขอขึ้นทะเบียนเข้าโครงการน่าจะไม่ต่ำกว่าหลักหมื่นคนแล้ว
อย่างไรก็ตาม จากการสอบถามหามูลเหตุที่ลูกหนี้มาขึ้นทะเบียนเข้าร่วมโครงการค่อนข้างน้อยต่ำกว่าเป้าหมายมากนั้น สาเหตุหนึ่ง ทราบว่าลูกหนี้จำนวนไม่น้อย ยังมีความวิตกกังวลไม่กล้ามาขึ้นทะเบียน เพราะกลัวความไม่ปลอดภัยจากเจ้าหนี้ บางรายเล่าว่าเจ้าหนี้ส่งคนเฝ้าติดตาม บางรายถูกดักหน้าปากซอยข่มขู่ไม่ให้มาขึ้นทะเบียน
รองผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่ากรณีประเด็นปัญหาที่เกิดขึ้นกับโครงการ ลูกหนี้ไม่กล้ามาขึ้นทะเบียนวิตกจะถูกเจ้าหนี้ทำร้ายข่มขู่นั้น รัฐบาลจะต้องเร่งประชาสัมพันธ์ชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจให้กว้างขวางถึงจุดประสงค์ของโครงการ ซึ่งจะช่วยให้เกิดประโยชน์ทั้งต่อลูกหนี้และเจ้าหนี้ ที่จะได้เงินไปใช้หนี้ให้หมดตามระบบ ไม่ใช่โครงการที่จะไปเอาผิดกับเจ้าหนี้แต่อย่างใด
ดังนั้น จึงมั่นใจว่าหากประชาชน ทั้งที่เป็นลูกหนี้และนายทุนเงินกู้นอกระบบเข้าใจและเห็นประโยชน์ที่แท้จริงของโครงการ ช่วงเวลาที่เหลือก่อนสิ้นสุดโครงการ น่าจะมีลูกหนี้มาลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบมากขึ้น
นอกจากนี้ยังเชื่อว่า หลังจากได้เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำจากแบงก์ของรัฐไปใช้หนี้นายทุนเงินกู้แล้ว ลูกหนี้น่าจะเข็ดหลาบไม่หวนไปกู้หนี้นอกระบบมาใช้อีก เพราะดอกเบี้ยสูงมาก ซ้ำเสี่ยงถูกข่มขู่ทำร้ายร่างกาย โครงการแก้หนี้นอกระบบของรัฐบาล น่าจะช่วยให้ประชาชนกลุ่มเป้าหมายมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
“จากตัวเลขของแบงก์ออมสินสาขาต่างๆพบว่า จังหวัดนครราชสีมามียอดผู้มาขึ้นทะเบียนแก้ปัญหาหนี้นอกระบบสูงสุดรองจากกรุงเทพมหานคร ยอดขึ้นทะเบียนกว่าหมื่นคนแล้ว”นายยงยุทธกล่าวและว่า
สำหรับสัดส่วนผู้มาขึ้นทะเบียนกับแบงก์ออมสิน พบว่าร้อยละ 40 เป็นลูกหนี้เงินกู้นอกระบบที่อยู่ในภาคการเกษตร ที่เหลือเป็นข้าราชการ พนักงานบริษัทเอกชน ลูกหนี้กลุ่มนี้ส่วนใหญ่มีปัญหากู้หนี้นอกระบบมาใช้หนี้ยอดใช้จ่ายบัตรเครดิต ซึ่งขั้นตอนหลังจากสิ้นสุดการขึ้นทะเบียนเข้าร่วมโครงการแล้ว
อย่างไรก็ตาม ธนาคารออมสินมั่นใจว่าเมื่อสิ้นสุดโครงการ จะมีประชาชนขอขึ้นทะเบียนเข้าร่วมโครงการรวมประมาณ 1 ล้านคนทั่วประเทศ และเมื่อแยกประเภทลูกหนี้ไปยังธนาคารที่รับผิดชอบดูแลลูกค้าแต่ละประเภท แล้ว คาดว่าจะมีลูกหนี้ที่อยู่ในความดูแลของธนาคารออมสินราว 3 – 4 แสนคน
ลูกหนี้ระบุเจอดอกเบี้ยโหดร้อยละ 20/ด
รายงานข่าวจากจังหวัดมหาสารคามแจ้งว่า ล่าสุด คลังจังหวัดมหาสารคามได้ออกตรวจความเรียบร้อยการขึ้นทะเบียนหนี้นอกระบบของประชาชนชาวจังหวัดมหาสารคาม พบประชาชนยังคงทยอยเดินทางมาขึ้นทะเบียนอย่างต่อเนื่อง ทั้งที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร และที่ธนาคารออมสิน โดยประชาชนที่มาขึ้นทะเบียนบางรายระบุว่าเจอดอกเบี้ยโหดสูงถึงร้อยละ 20 บาทต่อเดือน สาเหตุที่จำใจต้องกู้หนี้นอกระบบเนื่องจากต้องนำเงินไปหมุนเวียนในการทำธุรกิจ
สำหรับจำนวนผู้ที่มาขึ้นทะเบียนหนี้นอกระบบที่ธนาคารออมสินทั้ง 6 สาขาในจังหวัดมหาสารคาม พบว่ามีผู้มาขึ้นทะเบียนแก้หนี้แล้วประมาณ 912 ราย มูลหนี้ทั้งสิ้น 54,832,005 บาท 3 ลำดับแรกที่มีผู้ขึ้นทะเบียนสูงสุด ได้แก่ อำเภอพยัคฆภูมิพิสัย มีผู้มาขึ้นทะเบียน 271 ราย มูลหนี้ 10,460,154 ราย อำเภอเมืองมหาสารคาม จำนวน 207 ราย มูลหนี้สูงถึง 18,496,134 ราย และอำเภอบรบือ จำนวน 206 ราย 11,861,000 บาท
ส่วนที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรจังหวัดมหาสารคาม มีผู้มาขึ้นทะเบียนแล้วจำนวน 1,561 ราย มูลหนี้ทั้งหมด 160,031,316 บาท