รมว.คมนาคม สั่งตรวจสอบ “บิ๊กบินไทย” หิ้วกระเป๋าฉาว 50 ใบขนสินค้าเลี่ยงภาษีให้ร้านเมีย กำชับผู้บริหารทุกคนต้องทำตัวเป็นแบบอย่างที่ดีของบริษัท ส่วนกรณีเล่นงานพันธมิตรฯ ต้องดำเนินการเพราะกลัวเสื้อแดงโวยปฏิบัติลำเอียง “วัลลภ พุกกะณะสุต” ยอมรับขนของผ่านช่องทางหนีภาษีจริง แต่เป็นญาติโยมที่ญี่ปุ่นฝากมาให้วัดปากน้ำ ไม่เกี่ยวกับร้านไฮโซในซอยละลายทรัพย์ วอนอย่าดึงภรรยาไปเกี่ยวข้อง เพราะมีแค่แผงขายของขนาดเล็ก 2x3 ตร.ม.เท่านั้น
นายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวถึงปัญหาผู้บริหาร บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ขนกระเป๋าสัมภาระผ่านช่องทางไม่เสียภาษีจำนวนมาก โดยระบุว่าตนเองทราบเรื่องจากสื่อมวลชน โดยขณะนี้ตนสั่งการให้ผู้บริหารการบินไทยไปตรวจสอบแล้ว โดยเบื้องต้นเห็นว่าฝ่ายบริหารของทุกหน่วยงานควรปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดี และไม่ทำอะไรที่ขัดระเบียบของบริษัท
ส่วนกรณีที่ การบินไทยฟ้องร้องทางแพ่งกับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่ปิดสนามบินและส่งผลกระทบต่อรายได้ในช่วงที่ผ่านมานั้น นายโสภณกล่าวว่า เป็นการดำเนินการที่ถูกต้อง เนื่องจากก่อให้เกิดความเสียหาย หากฝ่ายบริหารการบินไทยละเว้นอาจจะถูกอีกฝ่ายมองว่า ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งต้องดูให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด
ก่อนหน้านี้ นายวัลลภ พุกกะณะสุต ประธานคณะกรรมการบริหารและกรรมการ การบินไทย ได้ออกมาชี้แจงเรื่องการขนกระเป๋ากว่า 40 ใบ น้ำหนักกว่า 500 กิโลกรัม ผ่านช่องทางกระเป๋าหายเพื่อเลี่ยงการตรวจสอบนั้น โดยยอมรับว่า มีการขนกระเป๋าจำนวนมากผ่านช่องทางเลี่ยงภาษีจริง
“มีผู้ใหญ่ฝากสัมภาระผมมาเพื่อนำมาถวายพระวัดปากน้ำภาษีเจริญ ผมไม่ทราบว่าสัมภาระมีจำนวนเท่าใด แต่เชื่อว่าไม่ถึง 40 ใบ และยืนยันว่าไม่ได้ซุกซ่อนสินค้าหนีภาษีใดๆ เข้ามา”
นายวัลลภกล่าวยืนยันว่า ของที่มีการระบุนั้น เป็นผลไม้และอาหารที่เด็กวัดจากญี่ปุ่นฝากมาให้เจ้าคุณวัดปากน้ำ และไม่ถึง 400-500 กิโลกรัม อย่างแน่นอนและไม่ได้มีการขนของผ่านช่องทางของหาย ส่วนกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า เป็นสินค้าไฮโซของภรรยาที่จะนำไปขายในซอยละลายทรัพย์นั้น นายวัลลภอ้างว่า ขออย่าได้เอาภรรยาตนเองมาเกี่ยวข้อง เพราะภรรยาของตนเปิดร้านเล็กๆ ขนาดแค่ 2x3 ตารางเมตรเท่านั้น