อัมรินทร์พลาซ่า ชี้ ธุรกิจค้าปลีกโตพรวดปี 54 หลังซบเซา 3 ปี อัดงบปีหน้าเกือบ 70 ล้านบาท ปรับโฉมศูนย์ใหม่ รับตลาดนักท่องเที่ยวฟื้น ค้าปลีกย่านราชประสงค์คึกคัก จ่อปรับราคาเช่าศูนย์-สำนักงาน 10% ลุยจัดแคมเปญ “อัมรินทร์ แบรนด์ เซลล์” ดึง 6 แบรนด์ดังร่วมปีหน้า หวังตอกย้ำจุดขายศูนย์การค้าขนแบรนด์เนมหั่นราคา 50-80% หลังปีหน้าศึกค้าปลีกลดอุณหภูมิอัดกลยุทธ์ราคา สิ้นปีรายได้โต 15%
นายรุ่งยศ จันทภาษา รองประธานกรรมการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ ศูนย์การค้าอัมรินทร์พลาซ่า เปิดเผยว่า แนวโน้มธุรกิจค้าปลีกจะกลับมาฟื้นตัวและเติบโตในปี 2554 หลังจากในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาธุรกิจค้าปลีกชะลอการเติบโต เนื่องจากได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอย และการเมืองไทยที่ขาดเสถียรภาพ และจากนี้มองว่าในระยะ 5ปี เศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย จะมีอัตราการเติบโตมากกว่าอเมริกาและยุโรป
โดยพบว่าขณะนี้ธุรกิจค้าปลีกย่านราชประสงค์ นักท่องเที่ยวเริ่มกลับมาเที่ยว อัตราการจองโรงแรมในย่านราชประสงค์เพิ่มขึ้น 70-80% หรือบางแห่ง 100% จากในช่วงปีที่ผ่านมานักท่องเที่ยวในศูนย์การค้าอัมรินทร์ลดจาก 50% เป็นเหลือ 20% และล่าสุดเพิ่มเป็น 30% และคนไทยจาก 50% เหลือเป็น 80% และล่าสุด 70%
การทำตลาดในปีหน้านี้ ศูนย์การค้าอัมรินทร์พลาซ่า ทุ่มงบเกือบ 70ล้านบาท แบ่งเป็นงบ 25-30 ล้านบาท ปรับปรุงพื้นที่ภายในศูนย์การค้า เพื่อเปิดโซนใหม่บริเวณชั้น 1 มีขนาดพื้นที่ 2,000 ตร.ม. ซึ่งที่ผ่านมาศูนย์การค้าอัมรินทร์ มีการปรับปรุงมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อดูดดึงกลุ่มเป้าหมายให้เพิ่มมากขึ้นแต่ติดที่เงื่อนไขสัญญาร้านค้าเดิมที่มีสัญญาเช่า 25 ปี ถึง 50%
โดยขณะนี้ได้พื้นที่กลับมาเพียง 10% อย่างไรก็ตามได้มีการปรับราคาพื้นที่เช่าภายในศูนย์การค้าเพิ่ม 10% จากปกติราคา 1,000-5,000 บาทต่อตร.ม. ซึ่งปัจจุบันมีอัตราการเช่าพื้นที่ 94% ส่วนพื้นที่เช่าสำนักงานปรับราคาเพิ่ม 10% จากราคาเดิม 650-700 บาทต่อตร.ม. โดยคาดว่าในปีหน้านี้อัตราการเช่าพื้นที่สำนักงานเพิ่มจาก 91% เป็น 100%
สำหรับงบการตลาดปีหน้าทุ่ม 40 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 15% จากเมื่อปีที่ผ่านมาใช้ 35 ล้านบาท
โดยตอกย้ำภาพลักษณ์ศูนย์การค้าที่นำสินค้าที่มีแบรนด์มาลดราคา 50-80% ภายใต้แคมเปญ “อัมรินทร์ แบรนด์ เซลล์” ซึ่งจะจัด 20 ครั้งต่อปี จากปีที่ผ่านมา 17 ครั้งต่อปี และอัมรินทร์ ดิสคัฟเวอรี่ 4-6 ครั้งต่อปี รวมถึงกิจกรรมอื่นๆร่วม 34 ครั้งใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา พร้อมทั้งมีสินค้าแบรนด์เนมใหม่ร่วมนำสินค้าลดราคาอย่างน้อย 5-6 แบรนด์ จากปัจจุบันสินค้าร่วมมากกว่า 30 แบรนด์ และมีสินค้าเอ็กซ์คูลซีฟ 3 แบรนด์เจาะกลุ่มเป้าหมายต่างประเทศ
ทั้งนี้การดำเนินกลยุทธ์แบรนด์เซลล์ คาดว่าดึงดูดกลุ่มเป้าหมายเพิ่มขึ้น และสร้างความโดดเด่นให้กับอัมรินทร์พลาซ่า เนื่องจากแนวโน้มปีหน้าธุรกิจค้าปลีกและเศรษฐกิจดีส่งผลการแข่งขันลดราคาสินค้าภายในห้างสรรพสินค้าลดลง
นายรุ่งยศ กล่าวว่า ทางศูนย์ฯ ใช้กลยุทธ์นำสินค้าแบรนด์เนมมาลดราคา ตั้งแต่ปี 2550 ผลักดันให้กลุ่มเป้าหมายสร้างการรับรู้ถึงภาพลักษณ์และจุดขายดังกล่าวเป็นอย่างดี ซึ่งในปีนี้อัมรินทร์ แบรนด์ เซลล์ เติบโต 20% หรือมีรายได้ 100 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมามีรายได้ 80 ล้านบาท
ล่าสุดได้ทุ่มงบ 12ล้านบาท เปิดตัวกิจกรรม”Your Wonder Wish@Amarin Wonderland”ต้อนรับเทศกาลปีใหม่และส่งท้ายปลายปี นำสินค้าลดราคา 80% ระหว่างวันที่ 25 พฤศจิกายน – 6 มกราคม 2553 สำหรับผลประกอบการปีนี้ตั้งเป้าเติบโต 15% ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ และปีหน้าคาดว่ามีการเติบโตมากกว่า 15% จากปัจจุบันศูนย์การค้าอัมรินทร์ มีลูกค้าหมุนเวียน 3-4 หมื่นราย เติบโต 20% และอัตราการซื้อต่อบิลเพิ่มจาก 2,500 บาท เป็น 3,000 บาท
นายรุ่งยศ จันทภาษา รองประธานกรรมการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ ศูนย์การค้าอัมรินทร์พลาซ่า เปิดเผยว่า แนวโน้มธุรกิจค้าปลีกจะกลับมาฟื้นตัวและเติบโตในปี 2554 หลังจากในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาธุรกิจค้าปลีกชะลอการเติบโต เนื่องจากได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอย และการเมืองไทยที่ขาดเสถียรภาพ และจากนี้มองว่าในระยะ 5ปี เศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย จะมีอัตราการเติบโตมากกว่าอเมริกาและยุโรป
โดยพบว่าขณะนี้ธุรกิจค้าปลีกย่านราชประสงค์ นักท่องเที่ยวเริ่มกลับมาเที่ยว อัตราการจองโรงแรมในย่านราชประสงค์เพิ่มขึ้น 70-80% หรือบางแห่ง 100% จากในช่วงปีที่ผ่านมานักท่องเที่ยวในศูนย์การค้าอัมรินทร์ลดจาก 50% เป็นเหลือ 20% และล่าสุดเพิ่มเป็น 30% และคนไทยจาก 50% เหลือเป็น 80% และล่าสุด 70%
การทำตลาดในปีหน้านี้ ศูนย์การค้าอัมรินทร์พลาซ่า ทุ่มงบเกือบ 70ล้านบาท แบ่งเป็นงบ 25-30 ล้านบาท ปรับปรุงพื้นที่ภายในศูนย์การค้า เพื่อเปิดโซนใหม่บริเวณชั้น 1 มีขนาดพื้นที่ 2,000 ตร.ม. ซึ่งที่ผ่านมาศูนย์การค้าอัมรินทร์ มีการปรับปรุงมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อดูดดึงกลุ่มเป้าหมายให้เพิ่มมากขึ้นแต่ติดที่เงื่อนไขสัญญาร้านค้าเดิมที่มีสัญญาเช่า 25 ปี ถึง 50%
โดยขณะนี้ได้พื้นที่กลับมาเพียง 10% อย่างไรก็ตามได้มีการปรับราคาพื้นที่เช่าภายในศูนย์การค้าเพิ่ม 10% จากปกติราคา 1,000-5,000 บาทต่อตร.ม. ซึ่งปัจจุบันมีอัตราการเช่าพื้นที่ 94% ส่วนพื้นที่เช่าสำนักงานปรับราคาเพิ่ม 10% จากราคาเดิม 650-700 บาทต่อตร.ม. โดยคาดว่าในปีหน้านี้อัตราการเช่าพื้นที่สำนักงานเพิ่มจาก 91% เป็น 100%
สำหรับงบการตลาดปีหน้าทุ่ม 40 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 15% จากเมื่อปีที่ผ่านมาใช้ 35 ล้านบาท
โดยตอกย้ำภาพลักษณ์ศูนย์การค้าที่นำสินค้าที่มีแบรนด์มาลดราคา 50-80% ภายใต้แคมเปญ “อัมรินทร์ แบรนด์ เซลล์” ซึ่งจะจัด 20 ครั้งต่อปี จากปีที่ผ่านมา 17 ครั้งต่อปี และอัมรินทร์ ดิสคัฟเวอรี่ 4-6 ครั้งต่อปี รวมถึงกิจกรรมอื่นๆร่วม 34 ครั้งใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา พร้อมทั้งมีสินค้าแบรนด์เนมใหม่ร่วมนำสินค้าลดราคาอย่างน้อย 5-6 แบรนด์ จากปัจจุบันสินค้าร่วมมากกว่า 30 แบรนด์ และมีสินค้าเอ็กซ์คูลซีฟ 3 แบรนด์เจาะกลุ่มเป้าหมายต่างประเทศ
ทั้งนี้การดำเนินกลยุทธ์แบรนด์เซลล์ คาดว่าดึงดูดกลุ่มเป้าหมายเพิ่มขึ้น และสร้างความโดดเด่นให้กับอัมรินทร์พลาซ่า เนื่องจากแนวโน้มปีหน้าธุรกิจค้าปลีกและเศรษฐกิจดีส่งผลการแข่งขันลดราคาสินค้าภายในห้างสรรพสินค้าลดลง
นายรุ่งยศ กล่าวว่า ทางศูนย์ฯ ใช้กลยุทธ์นำสินค้าแบรนด์เนมมาลดราคา ตั้งแต่ปี 2550 ผลักดันให้กลุ่มเป้าหมายสร้างการรับรู้ถึงภาพลักษณ์และจุดขายดังกล่าวเป็นอย่างดี ซึ่งในปีนี้อัมรินทร์ แบรนด์ เซลล์ เติบโต 20% หรือมีรายได้ 100 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมามีรายได้ 80 ล้านบาท
ล่าสุดได้ทุ่มงบ 12ล้านบาท เปิดตัวกิจกรรม”Your Wonder Wish@Amarin Wonderland”ต้อนรับเทศกาลปีใหม่และส่งท้ายปลายปี นำสินค้าลดราคา 80% ระหว่างวันที่ 25 พฤศจิกายน – 6 มกราคม 2553 สำหรับผลประกอบการปีนี้ตั้งเป้าเติบโต 15% ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ และปีหน้าคาดว่ามีการเติบโตมากกว่า 15% จากปัจจุบันศูนย์การค้าอัมรินทร์ มีลูกค้าหมุนเวียน 3-4 หมื่นราย เติบโต 20% และอัตราการซื้อต่อบิลเพิ่มจาก 2,500 บาท เป็น 3,000 บาท
