มหาสารคาม - เจ้าของร้านขนมไทยเมืองมหาสารคาม ต่างประสบปัญหาต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างหนัก โดยเฉพาะน้ำตาลปรับเพิ่มอีกกระสอบละ 30 บาท อย่างไรก็ตามยังไม่ปรับราคาขายขนมใหม่ หวั่นลูกค้าหด
นางจำปา ศิลาพันธ์ ผู้จำหน่ายขนมไทยแห่งหนึ่งในเขตเทศบาลเมืองมหาสารคาม กล่าวว่า ปัจจุบันสภาวะต้นทุนสินค้าที่เพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะราคาน้ำตาลที่ปรับตัวสูงขึ้นอีกกระสอบละ 30 บาท จากเดิมกระสอบละ 1,050 บาท ปรับขึ้นเป็น 1,080 บาท ส่งผลกระทบต่อต้นทุนขนมหวานแต่ละชนิด และบางวันหาซื้อน้ำตาลจำนวนมากได้ยาก ต้องไปซื้อจากต่างจังหวัด
อย่างไรก็ตาม ยังยืนยันที่จะขายขนมไทยในราคาเดิม โดยขนมชั้นขายราคาชิ้นละ 5 บาท ฝอยทอง ทองหยิบ ทองหยอด ถุงละ 20 บาท ขนมหม้อแกง 25 บาท ภาวะเศรษฐกิจในขณะนี้ยังถือว่าอยู่ในช่วงชะลอตัว ผู้คนจำกัดการใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้น หากขึ้นราคาขนม หวั่นว่าจะขายของไม่ได้ คงต้องขายราคาเดิมไปก่อน แต่อาจลดปริมาณลงเล็กน้อย เพื่อไม่ให้ลูกค้าได้รับผลกระทบ และเพื่อความอยู่รอด อยากเรียกร้องให้ทางรัฐบาลควบคุมราคาสินค้า ไม่ให้สูงขึ้นไปมากกว่านี้ หรือมีมาตรการอื่นๆ ออกมาช่วยเหลือประชาชน
ขณะที่ผู้จำหน่ายน้ำตาลแห่งหนึ่งระบุว่า สถานการณ์น้ำตาลทรายช่วงนี้แม้จะยังไม่เกิดผลกระทบก็ตาม แต่ราคาก็ยังไม่นิ่ง โดยมีการปรับราคาอยู่ตลอด โดยน้ำตาลทรายกระสอบละ 50 กิโลกรัม ได้ปรับขึ้นราคาอีกกระสอบละ 30 บาทต่อกระสอบ และยังคงมีน้ำตาลขายเป็นปกติ
แต่เกรงว่าในระยะ 2-3 เดือนข้างหน้า อาจจะเกิดวิกฤตเช่นเดียวกับเมื่อปี 2548 ที่มีการจำกัดการขาย เนื่องจากถูกการกักตุนน้ำตาลทรายจากกลุ่มผู้ค้า และในปีนี้ตนห่วงว่าจะเกิดวิกฤติการณ์น้ำตาลขาดตลาดในช่วงเทศกาลออกพรรษา
นางจำปา ศิลาพันธ์ ผู้จำหน่ายขนมไทยแห่งหนึ่งในเขตเทศบาลเมืองมหาสารคาม กล่าวว่า ปัจจุบันสภาวะต้นทุนสินค้าที่เพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะราคาน้ำตาลที่ปรับตัวสูงขึ้นอีกกระสอบละ 30 บาท จากเดิมกระสอบละ 1,050 บาท ปรับขึ้นเป็น 1,080 บาท ส่งผลกระทบต่อต้นทุนขนมหวานแต่ละชนิด และบางวันหาซื้อน้ำตาลจำนวนมากได้ยาก ต้องไปซื้อจากต่างจังหวัด
อย่างไรก็ตาม ยังยืนยันที่จะขายขนมไทยในราคาเดิม โดยขนมชั้นขายราคาชิ้นละ 5 บาท ฝอยทอง ทองหยิบ ทองหยอด ถุงละ 20 บาท ขนมหม้อแกง 25 บาท ภาวะเศรษฐกิจในขณะนี้ยังถือว่าอยู่ในช่วงชะลอตัว ผู้คนจำกัดการใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้น หากขึ้นราคาขนม หวั่นว่าจะขายของไม่ได้ คงต้องขายราคาเดิมไปก่อน แต่อาจลดปริมาณลงเล็กน้อย เพื่อไม่ให้ลูกค้าได้รับผลกระทบ และเพื่อความอยู่รอด อยากเรียกร้องให้ทางรัฐบาลควบคุมราคาสินค้า ไม่ให้สูงขึ้นไปมากกว่านี้ หรือมีมาตรการอื่นๆ ออกมาช่วยเหลือประชาชน
ขณะที่ผู้จำหน่ายน้ำตาลแห่งหนึ่งระบุว่า สถานการณ์น้ำตาลทรายช่วงนี้แม้จะยังไม่เกิดผลกระทบก็ตาม แต่ราคาก็ยังไม่นิ่ง โดยมีการปรับราคาอยู่ตลอด โดยน้ำตาลทรายกระสอบละ 50 กิโลกรัม ได้ปรับขึ้นราคาอีกกระสอบละ 30 บาทต่อกระสอบ และยังคงมีน้ำตาลขายเป็นปกติ
แต่เกรงว่าในระยะ 2-3 เดือนข้างหน้า อาจจะเกิดวิกฤตเช่นเดียวกับเมื่อปี 2548 ที่มีการจำกัดการขาย เนื่องจากถูกการกักตุนน้ำตาลทรายจากกลุ่มผู้ค้า และในปีนี้ตนห่วงว่าจะเกิดวิกฤติการณ์น้ำตาลขาดตลาดในช่วงเทศกาลออกพรรษา
