ซีอาร์จี สะบั้นสัมพันธ์ไอศกรีมบาสกิ้นร้อบบิ้น ตัดสินใจไม่ต่อสัญญาไลเซนส์ หันลุยสร้างแบรนด์ใหม่เอง เปิดแผน 5 ปี ใช้งบรวมกว่า 4,000 ล้านบาท ทั้งซื้อสิทธิ์และพัฒนาแบรนด์เอง เผยปีหน้าเปิดตัวใหม่ 4 แบรนด์ลงตลาด
นายสุทธิเกียรติ จิราธิวัฒน์ ประธานคณะกรรมการบริหาร โรงแรมและรีสอร์ทในเครือเซ็นทารา เปิดเผยแผนธุรกิจ 5 ปี (2553-2558) ในส่วนของกลุ่มอาหาร หรือเซ็นทรัลเรสเตอรองต์สกรุ๊ป (ซีอาร์จี) ว่า กลุ่มซีอาร์จีตั้งงบประมาณการลงทุนไว้รวมกว่า 4,000 ล้านบาท ในการพัฒนาแบรนด์ตัวเอง และซื้อไลเซนส์แบรนด์อาหารต่างๆ จากต่างประเทศ
โดยมีแนวคิดที่จะสร้างแบรนด์ใหม่ๆ ที่เป็นของตัวเอง ไปพร้อมๆ กับการซื้อแบรนด์จากต่างประเทศเข้ามาบริหาร เบื้องต้นคาดการณ์จะเป็นสัดส่วนอย่างละ 50% โดยแผนงานปีหน้า จะแนะนำแบรนด์ใหม่เข้าสู่ตลาดอาหารอย่างน้อย 4 แบรนด์ จากปัจจุบันมีอยู่แล้ว 5 แบรนด์ และจะทยอยเปิดเพิ่มเฉลี่ยอีกปีละ 1 แบรนด์ .
ทั้งนี้ 4 แบรนด์ใหม่ที่จะเปิดในปีหน้า ได้แก่ 1.“Chabuton” (ชาบูตง) เป็นพรีเมียมราเมน จากญี่ปุ่น การันตีเป็นรางวัลชนะเลิศจากทีวีแชมเปี้ยน เป้าหมายเปิดให้ได้ 15 สาขา ภายใน 2 ปี 2.แบรนด์ไอศกรีมเป็นซูเปอร์ พรีเมียม ไอศกรีม จากประเทศอเมริกา ตั้งเป้า 2 ปี เปิด 20 สาขาในประเทศไทย ซึ่งแบรนด์นี้จะเข้ามาแทน บาสกิ้นรอบบิ้น ที่เลิกสัญญากันไป
3.“RYU” (ริว) ชาบู ชาบู สไตล์โอซาก้า ที่เซ็นทรัล ได้พัฒนารูปแบบชาบู ชาบู นี้มาจากภัตตาคารอาหารญี่ปุ่น Hagi ซึ่งมีความหลากหลายของอาหาร โดยสาขาแรกจะเปิดที่สยามสแควร์ เป้าหมายเปิดให้ได้ 10 สาขา ใน 2 ปี และ 4.ไอศกรีม ชื่อ “So…..” ซึ่งอยู่ระหว่างการเลือกชื่อที่จะมาต่อท้ายคำว่า So ซึ่งจะต้องแปลว่า อร่อย โดยแบรนด์นี้ เซ็นทรัลได้พัฒนาขึ้นมา เพื่อเน้นจับตลาดคนรุ่นใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์ชื่นชอบการรับประทานไอศกรีมและเบเกอรี่
“การเปิดแบรนด์ใหม่ในธุรกิจอาหารอีก 4 แบรนด์ดังกล่าวของกลุ่มซีอาร์จี จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับซีอาร์จี และกลุ่มโรงแรมเซ็นทารา เพิ่มความหลากหลายครอบคลุมกลุ่มลูกค้าได้มากขึ้น โดยทั้ง 4 แบรนด์ ตั้งงบลงทุนรวมเบื้องต้นไว้ที่ 600 ล้านบาท แบ่งเป็นงบเปิดร้าน 500 ล้านบาท และงบการตลาด 10 ล้านบาท คาดว่า ภายในปี 2553 ทั้ง 4 แบรนด์จะเปิดสาขาได้รวม 26 สาขา โดยแบรนด์ที่ซีอาร์จีพัฒนาขึ้นมาเอง อนาคตจะขยายตลาดไปต่างประเทศด้วย”
นายสุทธิเกียรติ กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม คาดว่า ปีนี้รายได้รวมธุรกิจอาหารจะมีประมาณ 4,500 ล้านบาท ปีหน้าตั้งเป้าหมายรายได้ธุรกิจอาหาร 4,800 ล้านบาท
นายสุทธิเกียรติ จิราธิวัฒน์ ประธานคณะกรรมการบริหาร โรงแรมและรีสอร์ทในเครือเซ็นทารา เปิดเผยแผนธุรกิจ 5 ปี (2553-2558) ในส่วนของกลุ่มอาหาร หรือเซ็นทรัลเรสเตอรองต์สกรุ๊ป (ซีอาร์จี) ว่า กลุ่มซีอาร์จีตั้งงบประมาณการลงทุนไว้รวมกว่า 4,000 ล้านบาท ในการพัฒนาแบรนด์ตัวเอง และซื้อไลเซนส์แบรนด์อาหารต่างๆ จากต่างประเทศ
โดยมีแนวคิดที่จะสร้างแบรนด์ใหม่ๆ ที่เป็นของตัวเอง ไปพร้อมๆ กับการซื้อแบรนด์จากต่างประเทศเข้ามาบริหาร เบื้องต้นคาดการณ์จะเป็นสัดส่วนอย่างละ 50% โดยแผนงานปีหน้า จะแนะนำแบรนด์ใหม่เข้าสู่ตลาดอาหารอย่างน้อย 4 แบรนด์ จากปัจจุบันมีอยู่แล้ว 5 แบรนด์ และจะทยอยเปิดเพิ่มเฉลี่ยอีกปีละ 1 แบรนด์ .
ทั้งนี้ 4 แบรนด์ใหม่ที่จะเปิดในปีหน้า ได้แก่ 1.“Chabuton” (ชาบูตง) เป็นพรีเมียมราเมน จากญี่ปุ่น การันตีเป็นรางวัลชนะเลิศจากทีวีแชมเปี้ยน เป้าหมายเปิดให้ได้ 15 สาขา ภายใน 2 ปี 2.แบรนด์ไอศกรีมเป็นซูเปอร์ พรีเมียม ไอศกรีม จากประเทศอเมริกา ตั้งเป้า 2 ปี เปิด 20 สาขาในประเทศไทย ซึ่งแบรนด์นี้จะเข้ามาแทน บาสกิ้นรอบบิ้น ที่เลิกสัญญากันไป
3.“RYU” (ริว) ชาบู ชาบู สไตล์โอซาก้า ที่เซ็นทรัล ได้พัฒนารูปแบบชาบู ชาบู นี้มาจากภัตตาคารอาหารญี่ปุ่น Hagi ซึ่งมีความหลากหลายของอาหาร โดยสาขาแรกจะเปิดที่สยามสแควร์ เป้าหมายเปิดให้ได้ 10 สาขา ใน 2 ปี และ 4.ไอศกรีม ชื่อ “So…..” ซึ่งอยู่ระหว่างการเลือกชื่อที่จะมาต่อท้ายคำว่า So ซึ่งจะต้องแปลว่า อร่อย โดยแบรนด์นี้ เซ็นทรัลได้พัฒนาขึ้นมา เพื่อเน้นจับตลาดคนรุ่นใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์ชื่นชอบการรับประทานไอศกรีมและเบเกอรี่
“การเปิดแบรนด์ใหม่ในธุรกิจอาหารอีก 4 แบรนด์ดังกล่าวของกลุ่มซีอาร์จี จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับซีอาร์จี และกลุ่มโรงแรมเซ็นทารา เพิ่มความหลากหลายครอบคลุมกลุ่มลูกค้าได้มากขึ้น โดยทั้ง 4 แบรนด์ ตั้งงบลงทุนรวมเบื้องต้นไว้ที่ 600 ล้านบาท แบ่งเป็นงบเปิดร้าน 500 ล้านบาท และงบการตลาด 10 ล้านบาท คาดว่า ภายในปี 2553 ทั้ง 4 แบรนด์จะเปิดสาขาได้รวม 26 สาขา โดยแบรนด์ที่ซีอาร์จีพัฒนาขึ้นมาเอง อนาคตจะขยายตลาดไปต่างประเทศด้วย”
นายสุทธิเกียรติ กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม คาดว่า ปีนี้รายได้รวมธุรกิจอาหารจะมีประมาณ 4,500 ล้านบาท ปีหน้าตั้งเป้าหมายรายได้ธุรกิจอาหาร 4,800 ล้านบาท