นายกฯ เผย สภาพัฒน์แถลง GDP ไตรมาส 3/52 ดีกว่าคาดไว้ มั่นใจตัวเลขทั้งปี ติดลบไม่ถึง 3% พร้อมเกาะติดดูแลราคาน้ำมัน เงินเฟ้อ และมาบตาพุด ส่วนการเปิดศูนย์บริการลงทุนครบวงจร “OSOS” เพื่ออำนวยความสะดวกนักลงทุนแบบเบ็ดเสร็จจุดเดียว
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตัวเลขผลผลิตมวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 3 ปี 2552 ที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือ สภาพัฒน์ แถลงในวันนี้ โดยติดลบลดลงเหลือ 2.8% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ปี 2551 ถือว่า ออกมาดีกว่าที่คาดการณ์เอาไว้ พร้อมเชื่อว่า ตัวเลขทั้งปีจะติดลบไม่ถึง 3% รวมทั้ง หากไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ทำได้ดีกว่านี้ ก็อาจส่งผลให้เศรษฐกิจในปีหน้าขยายตัวได้ดีกว่าที่คาดไว้ที่ 3.5%
“ดีกว่าที่คาด ดีขึ้นตามระดับ โดยดีขึ้นกว่าไตรมาสสอง และมั่นใจว่า ไตรมาสสุดท้ายจะเป็นบวก ทำให้ตัวเลขตลอดทั้งปี 2552 ติดลบประมาณ 3%”
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตัวเลขการว่างงานดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยลดลงเหลือเพียง 4.5-4.6 แสนคน ซึ่งรัฐบาลพอใจกับภาวะการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ และคาดว่า จีดีพีปี 2553 จะขยายตัวที่ระดับ 3.0-3.5% แต่หากช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ ตัวเลขจีดีพีขยายตัวดีขึ้น เชื่อว่าจะเป็นแรงหนุนให้จีดีพีปีหน้า ขยายตัวได้มากกว่าที่คาด
ทั้งนี้ รัฐบาลพยายามแรงส่งเสริมการลงทุนและการบริโภค ทั้งภาคเอกชนและภาครัฐ เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้ขยายตัวเพิ่มขึ้น แต่ยังมีความกังวลเรื่องราคาน้ำมัน ซึ่งรัฐบาลจะใช้กลไกที่มีอยู่ดูแลช่วยเหลือ ส่วนเรื่องของอัตราเงินเฟ้อนั้น กระทรวงพาณิชย์ดูแลอยู่แล้ว ซึ่งรัฐบาลจะดูแลไม่ให้ส่งผลกระทบต่อราคาสินค้า และคิดว่าขณะนี้ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ ขณะที่การแก้ไขปัญหามลพิษมาบตาพุด ก็มีแนวโน้มคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น
โดยเช้าวันนี้ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดศูนย์ประสานการบริการด้านการลงทุน One Start One Stop Investment Center หรือ OSOS เพื่ออำนวยความสะดวกในการติดต่อธุรกิจ รวมถึงช่วยเร่งรัดขั้นตอนต่างๆ แก่นักลงทุนรายใหม่ ให้สามารถเริ่มต้นประกอบธุรกิจได้อย่างสะดวกรวดเร็ว พร้อมทั้งสร้างบรรยากาศการลงทุนที่ดี และสร้างความเชื่อมั่นแก่นักลงทุนทั้งไทยและต่างประเทศ โดยได้รวมศูนย์ราชการ และรัฐวิสาหกิจที่เกี่ยวข้อง จำนวน 21 แห่ง จาก 10 กระทรวง มาอำนวยความสะดวกในสถานที่แห่งเดียว ที่อาคารจามจุรี ซึ่งช่วยให้นักธุรกิจสามารถลดขั้นตอน ลดระยะเวลาและค่าใช้จ่าย
ทั้งนี้ บริการของ OSOS จะครอบคลุมตั้งแต่การให้คำปรึกษาและข้อมูลเกี่ยวกับการธุรกิจ ตลอดจนการจดทะเบียน และการรับเรื่องการขอใบอนุญาตหลายประเภท เช่น การจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจ การจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม การขอรับการส่งเสริมการลงทุน หรือการขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว นอกจากนี้ จะมีการเปิดศูนย์บริการวีซ่า และใบอนุญาตทำงาน ซึ่งจะย้ายเข้ามาทำงานที่อาคารจัตุรัสจามจุรี แห่งนี้เช่นเดียวกัน
