แรงไม่หยุด! “ฮอนด้า” ประกาศปรับเป้าขายอีกระลอก เพิ่มเป็น 90,000 คัน จากเมื่อกลางปีขยับมาแล้วครั้งหนึ่ง หลังเห็นสัญญาณตลาดเก๋งฟื้นตัวชัดเจน คาดภาพรวมตลาดรถไทยถึงสิ้นปีน่าจะมากกว่า 5 แสนคัน ฉวยจังหวะรุกต่อเนื่องส่ง “ฮอนด้า ฟรีด” รถเอ็มยูวี(MUV) จากอินโดนีเซีย เปิดเซกเม้นท์ใหม่ในไทย
นายอาซึชิ ฟูจิโมโต ประธานบริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล(ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า แม้ปัจจุบันสภาวะเศรษฐกิจยังไม่ค่อยราบรื่นมากนัก แต่ฮอนด้ามีพื้นฐานทางธุรกิจที่แข็งแกร่งทั้งในประเทศไทยและเอเชีย ทำให้ฮอนด้าในภูมิภาคนี้มีสัญญาณการฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะตลาดรถยนต์นั่ง หรือเก๋งในไทย ที่เติบโตมากกว่า 23% ในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
“เมื่อเดือนกรฏาคมที่ผ่านมา ฮอนด้าได้ปรับเป้าหมายการขายปีนี้ในไทยจาก 80,000 คัน เพิ่มเป็น 84,000 คัน แต่จากสัญญาณตลาดที่ฟื้นตัวชัดเจน ในช่วงไตรมาสสุดท้ายปีนี้ และการตอบรับผลิตภัณฑ์ฮอนด้าทุกรุ่นของผู้บริโภคชาวไทย ล่าสุดฮอนด้าจึงปรับเป้าหมายการขายตลอดทั้งปีเพิ่มเป็น 90,000 คัน”
ในส่วนของภาพรวมตลาดรถยนต์ไทยในปีนี้ เดิมเมื่อต้นปีฮอนด้าคาดว่าจะต่ำกว่า 5 แสนคัน แต่จากสัญญาณบวกของตลาด ทำให้ประเมินว่าตลาดรถยนต์ทุกประเภทจนถึงสิ้นปีนี้ น่าจะมีมากกว่า 5 แสนคัน โดยมีรถยนต์นั่งที่ช่วยผลักดันยอดขายให้ตลาดรถยนต์ไทยกลับมาฟื้นตัวอย่างชัดเจน
นายฟูจิโมโตกล่าวว่า เพื่อตอบสนองทิศทางตลาดรถยนต์นั่งที่เติบโตต่อเนื่อง ทำให้บริษัทฯ ได้แนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ “ฮอนด้า ฟรีด” รถยนต์นั่งอเนกประสงค์ประเภทใหม่สู่ตลาด โดยเป็นการนำเข้าจากโรงงานผลิตในประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งมีกำหนดเปิดตัวสู่สาธารณและรับสั่งจองในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2009 ต้นเดือนธันวาคมนี้เป็นต้นไป
“ฮอนด้า ฟรีด เป็นรถอเนกประสงค์แบบเอ็มยูวี(MUV) ซึ่งเรานำเข้ามาเพื่อเปิดตลาดรถประเภทใหม่ในไทย โดยมีความโดดเด่นที่เป็นรถใช้งานอเนกประสงค์ สำหรับครอบครัวคนรุ่นใหม่ ภายในกว้างขวางสะดวกสบาย สามารถนั่งได้ 7 คน แต่ตัวถังมีขนาดกะทัดรัดและคล่องตัว ขณะเดียวกันก็ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง จึงตอบสนองการใช้งานกับกิจกรรมของครอบครัวและการเดินทางในเมืองได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้เบื้องต้นฮอนด้าตั้งเป้าหมายการขายรุ่นฟรีดในปีแรกไว้ที่ 5,000 คัน”
นายฟูจิโมโตกล่าวว่า สำหรับรถล็อตแรกจะเริ่มนำเข้ามาในต้นเดือนมกราคม 2553 และจะเริ่มส่งมอบรถให้กับลูกค้าในช่วงปลายเดือน เพื่อเข้าสู่กรอบข้อตกลงการค้าเสรีในอาเซียน หรืออาฟต้า(AFTA) ซึ่งภาษีนำเข้ารถยนต์ในภูมิภาคอาเซียนจากเดิมมีอัตรา 5% จะลดลงเป็น 0% นับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2553 ซึ่งราคาจำหน่ายของฮอนด้า ฟรีด ที่เปิดออกมาครอบคลุมอัตราภาษีใหม่แล้ว
สำหรับฮอนด้า ฟรีด ติดตั้งเครื่องยนต์ i-VTEC 1.5 ลิตร ขนาด 118 แรงม้า ระบบเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด ซึ่งใช้เครื่องยนต์บล็อกเดียวกับฮอนด้า แจ๊ซ และสามารถใช้ได้กับน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 ประตูสองข้างเป็นแบบเปิดสไลด์ด้านข้างอัตโนมัติ มีให้เลือกทั้งหมด 4 รุ่น ได้แก่ รุ่น S ราคาจำหน่าย 894,500 บาท รุ่น E ราคา 974,000 แสนบาท รุ่น E Sport ราคา 1,014,500 บาท และรุ่น E Navi Sport ราคาจำหน่าย 1,074,500 บาท
นายอาซึชิ ฟูจิโมโต ประธานบริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล(ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า แม้ปัจจุบันสภาวะเศรษฐกิจยังไม่ค่อยราบรื่นมากนัก แต่ฮอนด้ามีพื้นฐานทางธุรกิจที่แข็งแกร่งทั้งในประเทศไทยและเอเชีย ทำให้ฮอนด้าในภูมิภาคนี้มีสัญญาณการฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะตลาดรถยนต์นั่ง หรือเก๋งในไทย ที่เติบโตมากกว่า 23% ในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
“เมื่อเดือนกรฏาคมที่ผ่านมา ฮอนด้าได้ปรับเป้าหมายการขายปีนี้ในไทยจาก 80,000 คัน เพิ่มเป็น 84,000 คัน แต่จากสัญญาณตลาดที่ฟื้นตัวชัดเจน ในช่วงไตรมาสสุดท้ายปีนี้ และการตอบรับผลิตภัณฑ์ฮอนด้าทุกรุ่นของผู้บริโภคชาวไทย ล่าสุดฮอนด้าจึงปรับเป้าหมายการขายตลอดทั้งปีเพิ่มเป็น 90,000 คัน”
ในส่วนของภาพรวมตลาดรถยนต์ไทยในปีนี้ เดิมเมื่อต้นปีฮอนด้าคาดว่าจะต่ำกว่า 5 แสนคัน แต่จากสัญญาณบวกของตลาด ทำให้ประเมินว่าตลาดรถยนต์ทุกประเภทจนถึงสิ้นปีนี้ น่าจะมีมากกว่า 5 แสนคัน โดยมีรถยนต์นั่งที่ช่วยผลักดันยอดขายให้ตลาดรถยนต์ไทยกลับมาฟื้นตัวอย่างชัดเจน
นายฟูจิโมโตกล่าวว่า เพื่อตอบสนองทิศทางตลาดรถยนต์นั่งที่เติบโตต่อเนื่อง ทำให้บริษัทฯ ได้แนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ “ฮอนด้า ฟรีด” รถยนต์นั่งอเนกประสงค์ประเภทใหม่สู่ตลาด โดยเป็นการนำเข้าจากโรงงานผลิตในประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งมีกำหนดเปิดตัวสู่สาธารณและรับสั่งจองในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2009 ต้นเดือนธันวาคมนี้เป็นต้นไป
“ฮอนด้า ฟรีด เป็นรถอเนกประสงค์แบบเอ็มยูวี(MUV) ซึ่งเรานำเข้ามาเพื่อเปิดตลาดรถประเภทใหม่ในไทย โดยมีความโดดเด่นที่เป็นรถใช้งานอเนกประสงค์ สำหรับครอบครัวคนรุ่นใหม่ ภายในกว้างขวางสะดวกสบาย สามารถนั่งได้ 7 คน แต่ตัวถังมีขนาดกะทัดรัดและคล่องตัว ขณะเดียวกันก็ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง จึงตอบสนองการใช้งานกับกิจกรรมของครอบครัวและการเดินทางในเมืองได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้เบื้องต้นฮอนด้าตั้งเป้าหมายการขายรุ่นฟรีดในปีแรกไว้ที่ 5,000 คัน”
นายฟูจิโมโตกล่าวว่า สำหรับรถล็อตแรกจะเริ่มนำเข้ามาในต้นเดือนมกราคม 2553 และจะเริ่มส่งมอบรถให้กับลูกค้าในช่วงปลายเดือน เพื่อเข้าสู่กรอบข้อตกลงการค้าเสรีในอาเซียน หรืออาฟต้า(AFTA) ซึ่งภาษีนำเข้ารถยนต์ในภูมิภาคอาเซียนจากเดิมมีอัตรา 5% จะลดลงเป็น 0% นับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2553 ซึ่งราคาจำหน่ายของฮอนด้า ฟรีด ที่เปิดออกมาครอบคลุมอัตราภาษีใหม่แล้ว
สำหรับฮอนด้า ฟรีด ติดตั้งเครื่องยนต์ i-VTEC 1.5 ลิตร ขนาด 118 แรงม้า ระบบเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด ซึ่งใช้เครื่องยนต์บล็อกเดียวกับฮอนด้า แจ๊ซ และสามารถใช้ได้กับน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 ประตูสองข้างเป็นแบบเปิดสไลด์ด้านข้างอัตโนมัติ มีให้เลือกทั้งหมด 4 รุ่น ได้แก่ รุ่น S ราคาจำหน่าย 894,500 บาท รุ่น E ราคา 974,000 แสนบาท รุ่น E Sport ราคา 1,014,500 บาท และรุ่น E Navi Sport ราคาจำหน่าย 1,074,500 บาท