xs
xsm
sm
md
lg

รร.ไทยงามหน้า แข่งตัดราคากันเอง THAภาค ตอ.รับต่ำสุดรอบ20ปี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ส.โรงแรมหน้าแตก งาน WTM ลอนดอน ผู้ประกอบการกลัวไม่ได้ลูกค้าแข่งตัดราคากันเอง “ประกิจ” ยอมรับเป็นความผิดพลาด เหตุไม่ได้หารือก่อนเดินทาง ระบุ สาเหตุหลักมาจากโรงแรมโอเวอร์ซัปพลาย ผู้ประกอบการต้องหนีตายด้วยสงครามราคา วอนผู้เกี่ยวข้องหันมาควบคุมใบอนุญาต ขณะที่กลุ่มโรงแรมภาคตะวันออก ยอมรับธุรกิจแย่สุดในรอบ 20 ปี ต้องหันพึงตลาด อินเดียและตะวันออกกลาง แต่อัตราเข้าพักไฮซีซั่นปีนี้แค่ 50% ลดจากปีก่อน 20%

นายประกิจ ชินอมรพงษ์ นายกสมาคมโรงแรมไทย (ทีเอชเอ) เปิดเผยว่า จากการเข้าร่วมงานเวิลด์ ทราเวล มาร์ท 2009 (WTM) ที่ลอนดอน ประเทศอังกฤษ ซึ่งมีผู้ประกอบการภาคเอกชนเข้าร่วมงานกว่า 100 ราย โดยเป็นกลุ่มโรงแรมกว่า 90 ราย ซึ่งทั้งหมดพบว่า ใช้กลยุทธ์จัดโปรโมชันลดราคาค่าทัวร์และค่าห้องพัก จนทำให้อัตราค่าที่พักและทัวร์ของประเทศไทยมีราคาเฉลี่ยต่ำกว่าประเทศอื่นๆ ที่ไปร่วมงาน ทั้งที่ความจริงประเทศไทยเป็นเดสติเนชั่นที่นักท่องเที่ยวต่างชาติชื่นชอบและต้องการเดินทางเข้ามาอยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องจัดโปรโมชั่นลดราคากันมากมาย ซึ่งอาจทำให้โครงสร้างราคาเสียก็เป็นได้

“โรงแรม 4 ดาวบางแห่งที่เชียงใหม่ ลดราคาห้องพักเหลือ คืนละ 800 บาท รวมอาหารเช้า หากเดินทางมาช่วงโลว์ซีซั่นบางรายจะใช้โปรโมชันซื้อ 1 แถม 1 หรือ จ่าย 3 คืน ได้พัก 4 คืน เป็นต้น ทำให้ผู้ประกอบการที่เดินทางไปด้วยกันจำต้องลดราคาลงบ้าง เพราะเกรงจะขายไม่ได้ ทั้งที่ถ้ายืนยันราคาเดิมก็น่าจะขายได้อยู่แล้ว เพราะสินค้าเป็นที่ต้องการของนักท่องเที่ยว”

อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า ปัญหาการตัดราคากันเองเช่นนี้ เป็นความผิดของสมาคม ที่ไม่ได้เรียกประชุมสมาชิกเพื่อกำหนดแนวทางร่วมกันก่อนเดินทาง ซึ่งครั้งต่อไปจะไม่ให้เกิดปัญหาเช่นนี้อีกเด็ดขาด ซึ่งการที่โรงแรมต้องขายตัดราคาส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะจำนวนโรงแรมใหม่ๆที่เกิดขึ้นในช่วงปลายปีที่ผ่านมาถึงปีนี้ มีจำนวนมากรวมกับของเดิม น่าจะถึง 4 แสนห้องทั่วประเทศ ยังไม่รวมเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ เกสต์เฮาส์ และคอนโดมิเนียมซึ่งน่าจะมีอีกกว่าเท่าตัว บางพื้นที่ถึงขั้นโอเวอร์ซัพพลายไปแล้ว เช่น เชียงใหม่ พัทยา

ปัจจุบันโรงแรมในเขตกรุงเทพฯมีอัตราเข้าพักประมาณ 50% เชียงใหม่ 40% ทั้งที่เป็นช่วงเริ่มต้นไฮซีซั่นแล้ว จากปีก่อนจะประมาณ 70-75% และ ในจังหวัดท่องเที่ยวจะสูงถึง 85-90% ในช่วงไฮซีซัน แต่ปีนี้คงไม่ได้แน่นอน จากปัญหานี้สมาคมจึงต้องการให้รัฐบาลหันมาควบคุมการก่อสร้างอาคารและการขออนุญาตสร้างโรงแรม โดยใช้ตัวเลขจริงที่เกิดขึ้นประเมินสถานการณ์เพื่อเพิ่มในพื้นที่ขาดและคุมในพื้นที่ที่หนาแน่น และควรเปิดเผยตัวเลขต่อผู้สนใจประกอบธุรกิจ เพื่อใจประกอบการตัดสินใจลงทุน

ทางด้าน นางรุ่งทิพย์ สุขศรีการ อุปนายกสมาคมโรงแรมไทย ภาคตะวันออก กล่าวว่า สถานการณ์โรงแรมที่พัทยา เกิดการแข่งขันสูงมาก เนื่องจากที่พักโอเวอร์ซัพพลายแล้ว โดยปี 2551-2552 เฉพาะโรงแรมระดับหรูเปิดตัว 3-4 แห่ง รวมกว่า 2,000 ห้อง เช่น เซ็นทารา เดอะซายน์ และ ฮอลิเดย์อินน์

“ตอนนี้ธุรกิจโรงแรมที่พัทยาซบเซามากสุดในรอบ 20 ปี ซึ่งเป็นผลกระทบจากเศรษฐกิจโลก การเมืองในประเทศ และ การแข่งขันในธุรกิจที่รุนแรง แม้ขณะนี้สถานการณ์นักท่องเที่ยวเริ่มดีขึ้นแล้ว แต่ก็ยังไม่เท่ากับทุกปี โดยมีอัตราเข้าพักเฉลี่ย 40-50%โดยรัสเซีย ตะวันออกกลาง และ อินเดีย เป็นกลุ่มหลัก ลดลงจากปี 50 ช่วงนี้อัตราเข้าพักอยู่ที่ 70% ส่วนราคาห้องพักเทียบปีก่อนจะลดลงราว 20% เหลือราคาคืนละ 700 -2,000 บาท บางรายทำธุรกิจเพื่อให้มีเงินหมุนเวียนมาจ่ายพนักงาน แต่ไม่เหลือกำไร”

อย่างไรก็ตาม แม้เศรษฐกิจโลกเริ่มฟื้นตัว แต่สำหรับภาคท่องเที่ยวจะฟื้นช้ากว่า 2-3 เดือนเพราะนักท่องเที่ยวต้องนำเงินที่มีอยู่ไปใช้สิ่งที่จำเป็นก่อนท่องเที่ยว จึงคาดว่าปลายปี 2553 จึงจะเห็นการฟื้นตัวของธุรกิจท่องเที่ยว แต่ทั้งนี้ปัจจุบันสำคัญ คือ สถานการณ์การเมืองภายในประเทศ หากเกิดวุ่นวายนักท่องเที่ยวก็จะไม่เดินทางมา
กำลังโหลดความคิดเห็น