ประชาพิจารณ์ 3G รอบ 2 ยังวุ่นไม่จบ ขาใหญ่ค้านแนวคิดแปรสัญญาสัมปทานโทรมือถือรายเดิม ก่อนเข้าร่วมประมูลใบอนุญาต 3G อ้างทำให้เกิดความล่าช้า-เสียโอกาสการแข่งขันด้านการแข่งขัน “เอไอเอส” สับขาบอกไม่เกี่ยวกัน ยันไม่มีลักไก่โอนลูกค้าแน่ เพราะทำได้ยาก “ทรู” แนะทำคู่ขนานกันไป ทั้งการเปิดประมูลใบอนุญาต 3G และการเจรจาแปรสัญญาสัมปทานให้เอกชนเป็นผู้เช่าโครงข่าย ส่วนค่าย “ดีแทค” ไม่อยากให้การประมูลล้มเหลว ขณะที่ กทช.ปลื้มเสียงเรียกร้องให้เปิดประมูลโดยรวดเร็ว
นายศุภชัย เจียรวนนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE กล่าวในการประชุมรับฟังความคิดเห็นสาธารณะร่างสรุปข้อสนเทศ (IM) การจัดสรรคลื่นความถี่ INT หรือ 3G & beyond ครั้งที่ 2 โดยระบุว่า การผลักดันให้มีการออกใบอนุญาตให้บริการ 3G ทำให้เกิดแนวคิดแปรสัญญาสัมปทาน ซึ่งทรู เห็นว่า ควรจะดำเนินการคู่ขนานกันไปก็จะเป็นการดี แต่ไม่ควรจะรอการแปรสัญญาก่อน เพราะจะทำให้การประมูลล่าช้าออกไป
การแปรสัญญาสัมปทานทำได้ตามกฎหมาย พ.ร.บ.โทรคมนาคมแห่งชาติ ที่ระบุไว้ว่า ถ้าคู่สัญญาทั้งสองฝ่ายยินยอมก็สามารถยกเลิกสัญญาได้ โดยอาจจะปรับเปลี่ยนมาให้เอกชนกลับไปเป็นผู้เช่าโครงข่าย และมีสิทธิขอรับใบอนุญาต 3G ซึ่งจุดนี้จะทำให้เป็นการเปิดเสรีอย่างเป็นธรรมและทำให้มีการแข่งขันอย่างเท่าเทียมกัน ขณะที่ประชาชนก็จะมีทางเลือกมากขึ้น
“ผมคิดว่าเราควรจะเดินขนานกันไป เพราะในที่สุดแล้วยังไงก็ต้องหาทางออกกันได้ คิดว่าการแปรสัญญาสัมปทานกับ 3G ถ้าเร่งให้เกิดขึ้นเร็วได้ ก็เท่ากับเปิดเสรีให้เอกชนแข่งขันกัน กทช.ก็จะได้ประโยชน์”
นายสมประสงค์ บุญยะชัย ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SHIN กล่าวในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ในบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC โดยระบุว่า ประเด็นที่มีความกังวลว่าหากเปิดให้ใบอนุญาต 3G แล้วผู้ให้บริการรายเดิมจะโอนลูกค้าจาก 2G ไป 3G ทั้งหมดนั้น ไม่ใช่เรื่องที่จะทำกันได้ง่าย
การที่ลูกค้าจะย้ายไปใช้บริการ 3G หรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของลูกค้า แต่ก็เป็นโอกาสที่ดีที่ลูกค้าจะเลือกสิ่งที่ดีที่สมควรจะได้รับ นอกจากนั้น ในเชิงเทคนิคการโอนลูกค้าก็ไม่ได้ทำได้ง่ายเพราะต้องค่อยๆ ทำ ประกอบกับโครงข่าย 3G ก็ต้องใช้เวลาในการลงทุน
“ลูกค้าไม่ใช่ตึกแถวหรือรถกระบะ ลูกค้ามีชีวิตจิตใจ การโอนลูกค้าไม่ว่าจะทำได้เลย แต่ขึ้นกับลูกค้าเองจะเป็นผู้ตัดสินใจเป็นผู้เลือก”
นายสมประสงค์ ยังมองว่า กทช.ได้ดำเนินการเรื่องนี้มาอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรมเพราะหลายฝ่ายจับตาดูอยู่ และการที่ประเทศจะมีการให้บริการ 3G ก็เป็นเรื่องที่สมควร เพราะขณะนี้ประเทศไทยจำเป็นต้องมีการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อให้ทัดเทียมกับหลายประเทศที่ปัจจุบันมากกว่า 100 ประเทศทั่วโลกใช้ระบบ 3G ไปแล้ว ดังนั้น เราต้องตระหนักถึงความจำเป็นในการนำ 3Gเข้ามาเพื่อการแข่งขันด้านกิจการโทรคมนาคม
อย่างไรก็ตาม มองว่าการแปรสัญญาสัมปทานไม่เกี่ยวข้องกับการให้ใบอนุญาต 3G
ขณะที่ นายวิเชียร เมฆตระการ หัวหน้าคณะผู้บริหาร ADVANC คาดหวังว่า กทช.จะสามารถเปิดประมูลได้ภายในไตรมาส 1 ปี 2553 ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นแผนลงทุนของบริษัทในระยะ 3 ปีข้างหน้า (2553-2555) ก็จะใช้เงินประมาณ 4.5 หมื่นล้านบาท แต่ถ้าไม่เกิดการประมูลก็อาจจะใช้เงินลงทุนเพียง 20% ของวงเงินดังกล่าวเท่านั้น
ส่วนการแปรสัญญาสัมปทานนั้น บริษัทก็พร้อมจะพูดคุยอยู่แล้ว และเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องของคู่สัญญา ไม่เกี่ยวกับการประมูลใบอนุญาต 3G ในครั้งนี้
ด้าน นายทอเร่ จอห์นเซ่น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็สคอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ DTAC มั่นใจว่าหากมีผู้ได้รับใบอนุญาตให้บริการ 3G ในประเทศไทยประมาณ 3-4 รายก็จะช่วยเปิดโอกาสธุรกิจโมบายบรอดแบนด์ ซึ่งจะเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และจะเป็นประโยชน์ให้กับประเทศ รัฐบาลเองก็จะได้มีรายได้จากการเปิดประมูล 3G พร้อมหวังว่า ประเทศไทยจะไม่ล้มเหลวในการประมูล 3G และขอชื่นชมว่า กทช.ได้ทำดีมาแล้ว
**กทช.คาดปี 53 เปิดประมูลได้
ศาสตราจารย์ เศรษฐพร คูศรีพิทักษ์ กรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) กล่าวภายหลังการเปิดประชุมรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ ร่างสรุปข้อสนเทศการจัดสรรคลื่นความถี่ 3G ครั้งที่ 2 ว่า กทช.ยืนยันว่า การเปิดประมูลคลื่น 3G ใหม่จะต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน ซึ่งคาดว่าหากการประชาพิจารณ์หลักเกณฑ์ต่างๆ ของการประมูลครั้งนี้เสร็จสิ้นและเป็นครั้งสุดท้าย โดยไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ เพิ่มเติม คาดว่า จะสามารถเปิดให้ประมูลคลื่นความถี่ 3G ได้ภายในไตรมาสแรก ปี 2553
ด้านภาคประชาชนและองค์กรคุ้มครองสิทธิประชาชนจากทุกภูมิภาคทั่วประเทศ ที่เข้าร่วมแสดงความคิดเห็นในหลักเกณฑ์ประมูลในครั้งนี้ ได้เสนอข้อคิดเห็นในด้านต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับสิทธิผู้บริโภคในหลายเรื่อง เช่น เรียกร้องให้ กทช.ดำเนินการเปิดประมูลคลื่นอย่างโปร่งใสมากที่สุด เปิดบริการ 3G ให้ครอบคลุมทั่วประเทศ โดยเฉพาะพื้นที่ห่างไกลในชนบทที่ปัจจุบันยังไม่มีแม้แต่โทรศัพท์และอินเทอร์เน็ตใช้ รวมทั้งให้ผู้ด้อยโอกาสทางสังคม เช่น ผู้พิการ ได้มีสิทธิ์ในการเข้าถึงเทคโนโลยีครั้งนี้เช่นเดียวกับคนปกติ และเรียกร้องให้ กทช. จัดการกับสิทธิของผู้บริโภคและการคุ้มครองผู้บริโภคในการใช้บริการโทรคมนาคมอย่างเด็ดขาดและจริงจัง อาทิ ปัญหาเอสเอ็มเอสขยะรบกวน, การเก็บค่าบริการผิดพลาดหรือเกินค่าใช้จ่ายตามจริง, การโทรข้ามเครือข่ายทำได้ยาก และการคงสิทธิเลขหมายเดิมให้สามารถใช้ได้ทุกเครือข่าย
นอกจากนี้ ก่อนการเปิดให้บริการ 3G อย่างเป็นรูปธรรมทั่วประเทศ ทางองค์กรภาคประชาชนยังขอให้ กทช. ชี้แจงและเผยแพร่ถึงประโยชน์ คุณสมบัติตลอดจนการนำไปใช้ในด้านต่างๆ ให้เกิดประโยชน์ได้จริงแก่ประชาชนทั่วไป เนื่องจากปัจจุบันประชาชนอาจจะรู้จักเพียงแค่คำว่า 3G แต่ไม่รู้ถึงการนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ พร้อมฝากให้ กทช.นำข้อเรียกร้องและข้อเสนอแนะจากภาคประชาชนไปดำเนินการเพื่อให้การเปิดบริการ 3G สามารถสนองความต้องการและเกิดการใช้งานที่เกิดประโยชน์อย่างแท้จริง