4 ทุ่มคืนนี้ "อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" จะเดินทางไปร่วมประชุมผู้นำลุ่มน้ำโขงที่ประเทศญี่ปุ่น 3 วันรวด 5-7 พ.ย. "ปณิธาน วัฒนายากร" รองเลขานายกฯ บอกวาระหลัก ไทยจะสอบถามการพัฒนาแบบพอเพียงที่ญี่ปุ่นพยายามที่จะเข้ามาเป็นเจ้าภาพในการจัดการบริหารน้ำ บริการทรัพยากรในลุ่มน้ำโขง...
ในทางกลับกันในฐานะที่ไทยเป็นประธานอาเซียน นายกฯก็จะรายงานการจัดทำแผนตามยุทธศาสตร์ของอาเซียน ที่ลืมไม่ได้เพราะเป็นที่สนใจของญี่ปุ่นก็คือนายกรัฐมนตรีจะรายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับกรณีปัญหาที่เกิดขึ้นกับ "โครงการมาบตาพุด" นายกฯ จะบอกญี่ปุ่นว่าไทยกำลังเดินหน้าแก้ไขปัญหา โดยวางแนวทางในการปฏิบัติตามมาตรา 67 วรรค 2 และการตั้งคณะกรรมการ 4 ฝ่าย เข้ามาช่วยดูใน 76 โครงการ "ขอให้โชคดี"...
พูดถึง "มาบตาพุด" นอกจากเป็นความรับผิดชอบของรัฐบาลโดยตรง แต่ทุกรัฐบาลละเลย ไม่เว้นโอบามาร์ค ทำงานช้า ขาดความกระตือรือล้น ที่สำคัญ "คุมรัฐมนตรีนอกพรรค ปชป.ไม่ได้" นักลงทุนต่างชาติเริ่มขาดความเชื่อมั่น ส่วนเอกชนเองก็ต้องดิ้นรนประชุมกันถี่ยิบภายใต้ "กกร." เรียกร้องให้ "รีบจบ" ก่อนความเสียหายจะลาม "ดุสิต นนทะนาคร" ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ยืนยันตอนนี้นักลงทุนต่างชาติสอบถามความชัดเจนเรื่องมาบตาพุดมากที่สุด "ดุสิต" เห็นด้วยกับข้อเสนอจัดตั้งคณะกรรมการอิสระ 4 ฝ่าย เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า เป็นกรรมการ 4 ฝ่าย ที่ "ภาคประชาชน" เป็นผู้เสนอ ไม่ใช่รัฐบาล!!!...
เช่นกัน "กานต์ ตระกูลฮุน" บิ๊กปูนซิเมนต์ไทย ก็เห็นด้วย "เป็นปัญหาของประเทศที่ทุกภาคส่วนควรหันหน้าเข้าหากัน" "กานต์" บอกด้วยว่าพัฒนาความเข้มงวดด้านสิ่งแวดล้อมของโรงงานอุตสาหกรรมทุกแห่งในประเทศให้ได้มาตรฐานอย่างแท้จริง ทำให้โครงการต่างๆ ที่ไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนสามารถดำเนินการต่อไปได้...
ฟังเอกชนแล้วน่าชื่นชม ผิดกับคนของรัฐบาล ทั้งกระทรวงอุตสาหกรรมและกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม "ชาญชัย ชัยรุ่งเรือง-สุวิทย์ คุณกิตติ" 2 รัฐมนตรีที่ไม่ทำหน้าที่กรณีมาบตาพุด รวมทั้งหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ถ้ารัฐมนตรีและส่วนราชการลงไปแก้ปัญหา สามารถทำได้ทันที ไม่จำเป็นต้องตั้งมาบตาพุดเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ หรือตั้งกรรมการร่วม 4 ฝ่าย น่าเวทนา...
ไปกันที่รถไฟไทย อีกผลงานความอัปยศของนักการเมือง "โสภณ ซาเล้ง" สมุน "เนวิน" เล่นเกมการเมืองโดยเอาประชาชนเป็นข้ออ้าง ตามก๊อปปี้ลูกพี่ไม่มีเพี้ยน แต่พนักงานรัฐวิสาหกิจเอ็กซเรย์แล้ว "รับไม่ได้" เมื่อวานนี้ (3 พ.ย.) กลุ่มสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ หรือ สรส. นำโดย "วิไลวรรณ แซ่เตีย" จึงนำสมาชิกกว่า 200 คน มาประท้วงหน้าทำเนียบ ยื่นหนังสือถึงนายกฯ ให้ลงมาแก้ปัญหาเอง เพราะเห็นว่ารัฐมนตรีและผู้ว่าฯ "ใช้อำนาจไม่เป็นธรรม" "วิไลวรรณ" เรียกร้องให้นายกฯ ปลด "โสภณ" และ ผู้ว่าฯ ข้อหาบริหารงานไร้ประสิทธิภาพ!
มองทิศทางลมแล้ว หาก สรส.ยังมีการประท้วงต่อเนื่อง "ซาเล้ง" จะจัดม็อบหนุนออกมาอีกกลุ่ม ประกาศสนับสนุนการทำงานของรัฐมนตรีคมนาคมและผู้ว่าฯ รถไฟตามใบสั่งลูกพี่ เพื่อบั่นทอนความน่าเชื่อถือฝ่ายตรงข้าม เรื่องวิชามารล่ะ ถนัดนัก!!!
ในทางกลับกันในฐานะที่ไทยเป็นประธานอาเซียน นายกฯก็จะรายงานการจัดทำแผนตามยุทธศาสตร์ของอาเซียน ที่ลืมไม่ได้เพราะเป็นที่สนใจของญี่ปุ่นก็คือนายกรัฐมนตรีจะรายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับกรณีปัญหาที่เกิดขึ้นกับ "โครงการมาบตาพุด" นายกฯ จะบอกญี่ปุ่นว่าไทยกำลังเดินหน้าแก้ไขปัญหา โดยวางแนวทางในการปฏิบัติตามมาตรา 67 วรรค 2 และการตั้งคณะกรรมการ 4 ฝ่าย เข้ามาช่วยดูใน 76 โครงการ "ขอให้โชคดี"...
พูดถึง "มาบตาพุด" นอกจากเป็นความรับผิดชอบของรัฐบาลโดยตรง แต่ทุกรัฐบาลละเลย ไม่เว้นโอบามาร์ค ทำงานช้า ขาดความกระตือรือล้น ที่สำคัญ "คุมรัฐมนตรีนอกพรรค ปชป.ไม่ได้" นักลงทุนต่างชาติเริ่มขาดความเชื่อมั่น ส่วนเอกชนเองก็ต้องดิ้นรนประชุมกันถี่ยิบภายใต้ "กกร." เรียกร้องให้ "รีบจบ" ก่อนความเสียหายจะลาม "ดุสิต นนทะนาคร" ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ยืนยันตอนนี้นักลงทุนต่างชาติสอบถามความชัดเจนเรื่องมาบตาพุดมากที่สุด "ดุสิต" เห็นด้วยกับข้อเสนอจัดตั้งคณะกรรมการอิสระ 4 ฝ่าย เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า เป็นกรรมการ 4 ฝ่าย ที่ "ภาคประชาชน" เป็นผู้เสนอ ไม่ใช่รัฐบาล!!!...
เช่นกัน "กานต์ ตระกูลฮุน" บิ๊กปูนซิเมนต์ไทย ก็เห็นด้วย "เป็นปัญหาของประเทศที่ทุกภาคส่วนควรหันหน้าเข้าหากัน" "กานต์" บอกด้วยว่าพัฒนาความเข้มงวดด้านสิ่งแวดล้อมของโรงงานอุตสาหกรรมทุกแห่งในประเทศให้ได้มาตรฐานอย่างแท้จริง ทำให้โครงการต่างๆ ที่ไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนสามารถดำเนินการต่อไปได้...
ฟังเอกชนแล้วน่าชื่นชม ผิดกับคนของรัฐบาล ทั้งกระทรวงอุตสาหกรรมและกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม "ชาญชัย ชัยรุ่งเรือง-สุวิทย์ คุณกิตติ" 2 รัฐมนตรีที่ไม่ทำหน้าที่กรณีมาบตาพุด รวมทั้งหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ถ้ารัฐมนตรีและส่วนราชการลงไปแก้ปัญหา สามารถทำได้ทันที ไม่จำเป็นต้องตั้งมาบตาพุดเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ หรือตั้งกรรมการร่วม 4 ฝ่าย น่าเวทนา...
ไปกันที่รถไฟไทย อีกผลงานความอัปยศของนักการเมือง "โสภณ ซาเล้ง" สมุน "เนวิน" เล่นเกมการเมืองโดยเอาประชาชนเป็นข้ออ้าง ตามก๊อปปี้ลูกพี่ไม่มีเพี้ยน แต่พนักงานรัฐวิสาหกิจเอ็กซเรย์แล้ว "รับไม่ได้" เมื่อวานนี้ (3 พ.ย.) กลุ่มสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ หรือ สรส. นำโดย "วิไลวรรณ แซ่เตีย" จึงนำสมาชิกกว่า 200 คน มาประท้วงหน้าทำเนียบ ยื่นหนังสือถึงนายกฯ ให้ลงมาแก้ปัญหาเอง เพราะเห็นว่ารัฐมนตรีและผู้ว่าฯ "ใช้อำนาจไม่เป็นธรรม" "วิไลวรรณ" เรียกร้องให้นายกฯ ปลด "โสภณ" และ ผู้ว่าฯ ข้อหาบริหารงานไร้ประสิทธิภาพ!
มองทิศทางลมแล้ว หาก สรส.ยังมีการประท้วงต่อเนื่อง "ซาเล้ง" จะจัดม็อบหนุนออกมาอีกกลุ่ม ประกาศสนับสนุนการทำงานของรัฐมนตรีคมนาคมและผู้ว่าฯ รถไฟตามใบสั่งลูกพี่ เพื่อบั่นทอนความน่าเชื่อถือฝ่ายตรงข้าม เรื่องวิชามารล่ะ ถนัดนัก!!!