มาลี ชี้ เทศกาลกินเจตลาดเครื่องดื่มธัญญาพืช 300 ล้านบาท โตพรวด 20% ทัพสินค้าแห่อัดโปรโมชันชิงยอดขาย เท 5 ล้านบาท เดินเกมสร้างตลาดน้ำนมข้าวโพด 120 ล้านบาท ลุยกิจกรรมกินเจเต็มสูบ เน้นให้ความรู้ขยายฐานลูกค้าทุกวัย หวังกลุ่มน้ำนมข้าวโพดและน้ำผลไม้กวาดยอดขายเทศกาลเจ 200 ล้านบาท
นางปทุมรัตน์ เพียรชอบ ผู้อำนวยการใหญ่ สายธุรกิจตราผลิตภัณฑ์ บริษัท มาลีสามพราน จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายน้ำนมข้าวโพดมาลี ไอ-คอร์น เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลกินเจตลาดเครื่องดื่มธัญพืชมูลค่า 300 ล้านบาท มีอัตราการเติบโต 20% เมื่อเทียบกับภาพรวมตลาดทั้งปีเติบโต 10% ส่งผลให้การแข่งขันช่วงกินเจมีความรุนแรงจากการที่ผู้ประกอบการต้องการฉกฉวยโอกาสในช่วงฤดูกาลจำหน่ายของเครื่องดื่มธัญญาพืช ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจเริ่มมีสัญญาดีขึ้น เพื่อกระตุ้นยอดขายก่อนสิ้นปี หลังจากในช่วงต้นปีที่ผ่านมาภาวะเศรษฐกิจถดถอย
สำหรับกลยุทธ์การตลาดเครื่องดื่มธัญญาพืชในช่วงเทศกาลกินเจแข่งขันการทำโปรโมชัน และจัดกิจกรรมตามงานเทศกาลกินเจจังหวัดใหญ่ๆ อาทิ จ.ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี และโรงเจต่างๆ ส่วนการทำตลาดน้ำนมข้าวโพดมาลี ไอ-คอร์น ปีนี้ได้ทุ่มงบ 5 ล้านบาท บริษัทมุ่งเน้นการให้ความรู้ถึงประโยชน์ของน้ำนมข้าวโพด รวมถึงการจัดกิจกรรมอย่างครบวงจร ตามโรงเจ อาทิ จ.ภูเก็ต เชียงใหม่นครปฐม สุราษฎร์ธานี กรุงเทพฯ อีกทั้งบริษัทยังได้ปรับปรุง 4 รสชาติ ได้แก่ สูตรออริจินัล งาดำ และ ช็อกโกแลต เป็นต้น
นางปทุมรัตน์ กล่าวว่า ปีนี้บริษัทดำเนินการตลาดเชิงรุกในช่วงเทศกาลกินเจ เพื่อกระตุ้นให้เกิดการทดลองชิม และเป็นโอกาสเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้โดตรง ตลอดจนการขยายฐานลูกค้าใหม่ๆ มากขึ้น เนื่องจากในช่วงกินเจมีผู้บริโภคหลากหลายกลุ่ม จากปัจจุบันกลุ่มเป้าหมายมาลี ไอ-คอร์น อายุ 25 ปีขึ้นไป และกลุ่มที่ห่วงใยสุขภาพ และประการสำคัญผลักดันให้ตลาดน้ำนมข้าวโพดมูลค่า 120 ล้านบาท ในช่วงเทศกาลกินเจมีอัตราการเติบโตเท่าตัว จากการเติบโตทั้งปี 5%
อย่างไรก็ตาม เพื่อรองรับกับการแข่งขัน บริษัทได้จัดโปรโมชัน เมื่อซื้อสินค้าแบรนด์มาลีครบ 129 บาท รับแก้วมัค มีให้เลือก 4 แบบ 4 สไตล์ พร้อมกันนี้ ยังได้วางแผนขยายช่องทางร้านค้าสะดวกซื้อ ร้านมินิมาร์ท และช่องทางใหม่ๆ ทั้งกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ทั้งนี้ จากการดำเนินการตลาดเชิงรุก บริษัทตั้งเป้ามียอดขายในช่วงเทศกาลกินเจ กลุ่มน้ำนมข้าวโพดมาลี ไอ-คอร์นและน้ำผลไม้มาลี 200 ล้านบาท โดยปัจจุบันมาลี ไอ-คอร์น เป็นผู้นำตลาดน้ำนมข้าวโพดครองส่วนแบ่ง 30% จากการเติบโต 5% มาอย่างต่อเนื่อง และคาดว่า ปีหน้าเพิ่มเป็น 35-40% ส่วนเนเจอร์ อัพ มีส่วนแบ่ง 10%
สำหรับสภาพตลาดน้ำผลไม้มูลค่า 8,200 ล้านบาท เติบโต 7% โดยตลาดเริ่มฟื้นตัวดีขึ้นในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา โดยเฉพาะตลาดน้ำผลไม้พรีเมียมมูลค่า 2,800 ล้านบาท ซึ่งปีนี้ติดลบ 3% ระดับกลาง 600 ล้านบาท เติบโต 10% ซูเปอร์อีโคโนมี 1,400 ล้านบาท เติบโต 20% และระดับล่าง 2,700 ล้านบาท เติบโต 10% สำหรับผลประกอบการทั้งปีบริษัทตั้งเป้าเติบโต 5% หรือมีรายได้ 1,800-2,000 ล้านบาท แบ่งเป็น กลุ่มน้ำผลไม้ 55% ที่เหลือนอกเหนือจากกลุ่มน้ำผลไม้ 45%
นางปทุมรัตน์ เพียรชอบ ผู้อำนวยการใหญ่ สายธุรกิจตราผลิตภัณฑ์ บริษัท มาลีสามพราน จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายน้ำนมข้าวโพดมาลี ไอ-คอร์น เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลกินเจตลาดเครื่องดื่มธัญพืชมูลค่า 300 ล้านบาท มีอัตราการเติบโต 20% เมื่อเทียบกับภาพรวมตลาดทั้งปีเติบโต 10% ส่งผลให้การแข่งขันช่วงกินเจมีความรุนแรงจากการที่ผู้ประกอบการต้องการฉกฉวยโอกาสในช่วงฤดูกาลจำหน่ายของเครื่องดื่มธัญญาพืช ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจเริ่มมีสัญญาดีขึ้น เพื่อกระตุ้นยอดขายก่อนสิ้นปี หลังจากในช่วงต้นปีที่ผ่านมาภาวะเศรษฐกิจถดถอย
สำหรับกลยุทธ์การตลาดเครื่องดื่มธัญญาพืชในช่วงเทศกาลกินเจแข่งขันการทำโปรโมชัน และจัดกิจกรรมตามงานเทศกาลกินเจจังหวัดใหญ่ๆ อาทิ จ.ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี และโรงเจต่างๆ ส่วนการทำตลาดน้ำนมข้าวโพดมาลี ไอ-คอร์น ปีนี้ได้ทุ่มงบ 5 ล้านบาท บริษัทมุ่งเน้นการให้ความรู้ถึงประโยชน์ของน้ำนมข้าวโพด รวมถึงการจัดกิจกรรมอย่างครบวงจร ตามโรงเจ อาทิ จ.ภูเก็ต เชียงใหม่นครปฐม สุราษฎร์ธานี กรุงเทพฯ อีกทั้งบริษัทยังได้ปรับปรุง 4 รสชาติ ได้แก่ สูตรออริจินัล งาดำ และ ช็อกโกแลต เป็นต้น
นางปทุมรัตน์ กล่าวว่า ปีนี้บริษัทดำเนินการตลาดเชิงรุกในช่วงเทศกาลกินเจ เพื่อกระตุ้นให้เกิดการทดลองชิม และเป็นโอกาสเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้โดตรง ตลอดจนการขยายฐานลูกค้าใหม่ๆ มากขึ้น เนื่องจากในช่วงกินเจมีผู้บริโภคหลากหลายกลุ่ม จากปัจจุบันกลุ่มเป้าหมายมาลี ไอ-คอร์น อายุ 25 ปีขึ้นไป และกลุ่มที่ห่วงใยสุขภาพ และประการสำคัญผลักดันให้ตลาดน้ำนมข้าวโพดมูลค่า 120 ล้านบาท ในช่วงเทศกาลกินเจมีอัตราการเติบโตเท่าตัว จากการเติบโตทั้งปี 5%
อย่างไรก็ตาม เพื่อรองรับกับการแข่งขัน บริษัทได้จัดโปรโมชัน เมื่อซื้อสินค้าแบรนด์มาลีครบ 129 บาท รับแก้วมัค มีให้เลือก 4 แบบ 4 สไตล์ พร้อมกันนี้ ยังได้วางแผนขยายช่องทางร้านค้าสะดวกซื้อ ร้านมินิมาร์ท และช่องทางใหม่ๆ ทั้งกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ทั้งนี้ จากการดำเนินการตลาดเชิงรุก บริษัทตั้งเป้ามียอดขายในช่วงเทศกาลกินเจ กลุ่มน้ำนมข้าวโพดมาลี ไอ-คอร์นและน้ำผลไม้มาลี 200 ล้านบาท โดยปัจจุบันมาลี ไอ-คอร์น เป็นผู้นำตลาดน้ำนมข้าวโพดครองส่วนแบ่ง 30% จากการเติบโต 5% มาอย่างต่อเนื่อง และคาดว่า ปีหน้าเพิ่มเป็น 35-40% ส่วนเนเจอร์ อัพ มีส่วนแบ่ง 10%
สำหรับสภาพตลาดน้ำผลไม้มูลค่า 8,200 ล้านบาท เติบโต 7% โดยตลาดเริ่มฟื้นตัวดีขึ้นในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา โดยเฉพาะตลาดน้ำผลไม้พรีเมียมมูลค่า 2,800 ล้านบาท ซึ่งปีนี้ติดลบ 3% ระดับกลาง 600 ล้านบาท เติบโต 10% ซูเปอร์อีโคโนมี 1,400 ล้านบาท เติบโต 20% และระดับล่าง 2,700 ล้านบาท เติบโต 10% สำหรับผลประกอบการทั้งปีบริษัทตั้งเป้าเติบโต 5% หรือมีรายได้ 1,800-2,000 ล้านบาท แบ่งเป็น กลุ่มน้ำผลไม้ 55% ที่เหลือนอกเหนือจากกลุ่มน้ำผลไม้ 45%
