โอสถสภา แตกแบรนด์ “โอเล่ ซีมิกซ์” ลงตลาดน้ำผลไม้ 25% หวังโพซิชันนิงยึดหัวหาดฐานลูกค้ากลุ่มเด็ก ด้านตลาดลูกอมปีหน้าวูบโตเป็นเลขหลักเดียว หลังปัจจัยลบวิกฤตเศรษฐกิจกระทบตลาด ล่าสุด เดือน ต.ค.ยอดขายสินค้าสแนกลดลง ลั่นปีหน้าลุยตลาดอย่างรัดกุม
แหล่งข่าวจาก บริษัท โอสถสภา จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องดื่มชูกำลัง M-150 เปิดเผยว่า บริษัทได้เปิดตัว “โอเล่ ซีมิกซ์” น้ำผลไม้ 25% ลงสู่ตลาด เนื่องจากพบว่า แนวโน้มกระแสสุขภาพมาแรง พฤติกรรมของผู้บริโภคใส่ใจในเรื่องของสุขภาพมากขึ้น ส่งผลให้ตลาดน้ำผลไม้มูลค่า 6,000 ล้านบาท มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะตลาดน้ำผลไม้ 25% มูลค่า 2,500 ล้านบาท ซึ่งพบว่ายังมีช่องว่างทางการตลาด โดยปัจจุบันยังไม่มีผู้ประกอบการเจาะตลาดน้ำผลไม้สำหรับเด็กอย่างจริงจัง
สำหรับผลไม้ โอเล่ ซีมิกซ์ เจาะกลุ่มเป้าหมายเด็กอายุตั้งแต่ 6-12 ปี ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายเดียวกับลูกอมโอเล่ โดยนำร่องรสชาติเดียว คือ น้ำผลไม้รวม ขนาด 220 มล.ราคา 7 บาท โดยได้เริ่มวางจำหน่ายผ่านช่องทางร้านค้าสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น ระยะเวลา 3 เดือน หลังจากนั้นจะพิจารณาวางจำหน่ายให้ครอบคลุมทุกช่องทางทั้งโมเดิร์นเทรด เทรดิชันนัลเทรด และตามช่องทางโรงเรียน ต้นปีหน้านี้ ล่าสุด ได้โฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางโทรทัศน์ในช่วงรายการเด็ก และ ณ จุดขาย เพื่อสร้างการรับรู้ในวงกว้าง
ทั้งนี้ การแตกไลน์จากลูกอมสู่ตลาดน้ำผลไม้ นับว่า เป็นการรุกตลาดน้ำผลไม้ครั้งแรกของบริษัท ซึ่งกลุ่มเครื่องดื่มของบริษัท โอสถสภา เป็นผู้ดูแลและดำเนินการตลาด โดยแยกการทำตลาดกับกลุ่มลูกอมอย่างชัดเจน แหล่งข่าวกล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ผ่านมา โอเล่มีฐานลูกค้าจากตลาดลูกอมอยู่แล้ว ปัจจุบันรั้งอันดับ 3 ของตลาดลูกอมชนิดแข็งรองจากฮาร์ทบีท และมีฮอลล์เป็นผู้นำจากตลาดมูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท ซึ่งปีนี้ตลาดไม่เติบโต ขณะที่ส่วนตลาดลูกอมชนิดนิ่มมูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท ซึ่งปีนี้มีอัตราการเติบเกิน 20%
สำหรับการเคลื่อนไหวของลูกอมโอเล่ในช่วงที่ผ่านมา เปิดตัว โอเล่ เลิฟ รูปหัวใจ เน้นวางช่องทางโมเดิร์นเทรด ตามด้วยโอเล่ แซบ เจาะกลุ่มเป้าหมายเด็กที่มีความเป็นตัวของตัวเอง และปลายปี 2550 เปิดตัว โอเล่ บิวตี้ ลูกอมผสมคอลลาเจน ซูการ์ฟรี เจาะกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจในเรื่องของสุขภาพ เพื่อให้สอดคล้องกับเทรนด์ของตลาด ส่งผลให้โอเล่ปีนี้มีอัตราการเติบโตไม่ต่ำกว่า 10%
ภาวะตลาดลูกอมมูลค่า 4,000 ล้านบาท ในสิ้นปีคาดว่ามีอัตราการเติบโต 10% ส่วนปีหน้าคาดว่าตลาดจะมีอัตราการเติบโตเป็นตัวเลขหลักเดียว เนื่องจากวิกฤตเศรษฐกิจโลก และภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศที่ถดถอย โดยในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา เป็นช่วงที่ประเทศไทยเกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง น้ำท่วมหนัก ตลาดลูกอมถึงกับติดลบด้วยซ้ำ
ดังนั้น แผนการตลาดปีหน้าในส่วนของลูกอมของบริษัท จะมีความระมัดระวังมากขึ้นและชะลอการเปิดตัวสินค้าใหม่ ซึ่งต้องพิจารณาจากสถานการณ์การตลาดเป็นระยะ และปรับตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง ขณะนี้สภาพตลาดลูกอมและสินค้ากลุ่มอื่นๆ โดยเฉพาะกลุ่มขนมขบเคี้ยวเริ่มได้รับผลกระทบยอดขายลดลง
แหล่งข่าวจาก บริษัท โอสถสภา จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องดื่มชูกำลัง M-150 เปิดเผยว่า บริษัทได้เปิดตัว “โอเล่ ซีมิกซ์” น้ำผลไม้ 25% ลงสู่ตลาด เนื่องจากพบว่า แนวโน้มกระแสสุขภาพมาแรง พฤติกรรมของผู้บริโภคใส่ใจในเรื่องของสุขภาพมากขึ้น ส่งผลให้ตลาดน้ำผลไม้มูลค่า 6,000 ล้านบาท มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะตลาดน้ำผลไม้ 25% มูลค่า 2,500 ล้านบาท ซึ่งพบว่ายังมีช่องว่างทางการตลาด โดยปัจจุบันยังไม่มีผู้ประกอบการเจาะตลาดน้ำผลไม้สำหรับเด็กอย่างจริงจัง
สำหรับผลไม้ โอเล่ ซีมิกซ์ เจาะกลุ่มเป้าหมายเด็กอายุตั้งแต่ 6-12 ปี ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายเดียวกับลูกอมโอเล่ โดยนำร่องรสชาติเดียว คือ น้ำผลไม้รวม ขนาด 220 มล.ราคา 7 บาท โดยได้เริ่มวางจำหน่ายผ่านช่องทางร้านค้าสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น ระยะเวลา 3 เดือน หลังจากนั้นจะพิจารณาวางจำหน่ายให้ครอบคลุมทุกช่องทางทั้งโมเดิร์นเทรด เทรดิชันนัลเทรด และตามช่องทางโรงเรียน ต้นปีหน้านี้ ล่าสุด ได้โฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางโทรทัศน์ในช่วงรายการเด็ก และ ณ จุดขาย เพื่อสร้างการรับรู้ในวงกว้าง
ทั้งนี้ การแตกไลน์จากลูกอมสู่ตลาดน้ำผลไม้ นับว่า เป็นการรุกตลาดน้ำผลไม้ครั้งแรกของบริษัท ซึ่งกลุ่มเครื่องดื่มของบริษัท โอสถสภา เป็นผู้ดูแลและดำเนินการตลาด โดยแยกการทำตลาดกับกลุ่มลูกอมอย่างชัดเจน แหล่งข่าวกล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ผ่านมา โอเล่มีฐานลูกค้าจากตลาดลูกอมอยู่แล้ว ปัจจุบันรั้งอันดับ 3 ของตลาดลูกอมชนิดแข็งรองจากฮาร์ทบีท และมีฮอลล์เป็นผู้นำจากตลาดมูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท ซึ่งปีนี้ตลาดไม่เติบโต ขณะที่ส่วนตลาดลูกอมชนิดนิ่มมูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท ซึ่งปีนี้มีอัตราการเติบเกิน 20%
สำหรับการเคลื่อนไหวของลูกอมโอเล่ในช่วงที่ผ่านมา เปิดตัว โอเล่ เลิฟ รูปหัวใจ เน้นวางช่องทางโมเดิร์นเทรด ตามด้วยโอเล่ แซบ เจาะกลุ่มเป้าหมายเด็กที่มีความเป็นตัวของตัวเอง และปลายปี 2550 เปิดตัว โอเล่ บิวตี้ ลูกอมผสมคอลลาเจน ซูการ์ฟรี เจาะกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจในเรื่องของสุขภาพ เพื่อให้สอดคล้องกับเทรนด์ของตลาด ส่งผลให้โอเล่ปีนี้มีอัตราการเติบโตไม่ต่ำกว่า 10%
ภาวะตลาดลูกอมมูลค่า 4,000 ล้านบาท ในสิ้นปีคาดว่ามีอัตราการเติบโต 10% ส่วนปีหน้าคาดว่าตลาดจะมีอัตราการเติบโตเป็นตัวเลขหลักเดียว เนื่องจากวิกฤตเศรษฐกิจโลก และภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศที่ถดถอย โดยในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา เป็นช่วงที่ประเทศไทยเกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง น้ำท่วมหนัก ตลาดลูกอมถึงกับติดลบด้วยซ้ำ
ดังนั้น แผนการตลาดปีหน้าในส่วนของลูกอมของบริษัท จะมีความระมัดระวังมากขึ้นและชะลอการเปิดตัวสินค้าใหม่ ซึ่งต้องพิจารณาจากสถานการณ์การตลาดเป็นระยะ และปรับตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง ขณะนี้สภาพตลาดลูกอมและสินค้ากลุ่มอื่นๆ โดยเฉพาะกลุ่มขนมขบเคี้ยวเริ่มได้รับผลกระทบยอดขายลดลง