xs
xsm
sm
md
lg

“ธาริษา” สั่งเกาะติดสถานการณ์ค่าเงินบาท ฮึ่มใส่นักเก็งกำไร

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ธาริษา วัฒนเกส
ผู้ว่าการ ธปท.สั่งเกาะติดสถานการณ์ค่าเงินบาท เพื่อไม่ให้ผันผวนมาก และเกาะกลุ่มในภูมิภาค มั่นใจ ยังไม่ต้องใช้มาตรการพิเศษคุมเงินไหลเข้า-ออก พร้อมระบุ ธปท.ไม่ได้ส่งสัญญาณว่าไม่ให้มีการเก็งกำไร แต่ไม่ต้องการให้มีการคาดหมายว่า เงินบาทจะเป็นไปในทิศทางใด

นางธาริษา วัฒนเกส ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวถึงสถานการณ์ค่าเงินบาทที่ผันผวนในขณะนี้ โดยระบุว่า เกิดจากราคาทองคำที่ปรับสูงขึ้นในช่วงนี้ ส่งผลให้มีนักลงทุนในประเทศนำเงินบาทไปซื้อทองคำในต่างประเทศกันมาก ประกอบกับในช่วงนี้มีเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ไหลเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทย เป็นปัจจัยที่ยิ่งกดดันให้เงินบาทแข็งค่าขึ้นอีก นอกจากนี้ ยังมีมาตรการสนับสนุนเงินทุนไหลออกไปต่างประเทศ ทำให้มีเงินไหลออกประเทศมากขึ้น อาทิ การลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศ

โดยช่วงเช้าวันนี้ ค่าเงินบาทอยู่ที่ 33.33-33.35 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ดังนั้น ธปท.จึงต้องติดตามค่าเงินบาทในช่วงนี้อย่างใกล้ชิด ดูแลภาวะเงินทุนไหลเข้า-ออกประเทศ ไม่ให้เงินบาทมีความผันผวนมาก และแข็งค่ามากกว่าประเทศในภูมิภาค

สำหรับราคาทองคำเช้านี้ ราคายังไม่เปลี่ยนแปลงจากปลายสัปดาห์ที่แล้ว โดยวันนี้ทองคำแท่งขายออกบาทละ 16,500 บาท ทองรูปพรรณ ขายออกบาทละ 16,900 บาท ขณะที่ราคาทองคำในตลาดโลกปรับขึ้นอีก 4-5 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์ มาอยู่ที่ 1,050 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์

ผู้ว่าการ ธปท.ยังมองว่า เงินบาทที่แข็งค่าขึ้นในช่วงนี้เป็นไปในทิศทางเดียวกับค่าเงินในภูมิภาค ซึ่งเป็นผลจากเงินดอลลาร์อ่อนค่า และการเก็งกำไรทองคำ ซึ่งกลายเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความผันผวนต่อค่าเงินในระยะนี้ เนื่องจากขณะนี้ทองคำไม่ใช่เป็นเพียงการลงทุนเพื่อเก็บออม แต่เป็นผลิตภัณฑ์ทางการเงินประเภทหนึ่ง จึงทำให้ราคาทองคำผันผวนและเป็นปัจจัยให้เงินบาทผันผวนและแข็งค่าขึ้น ซึ่ง ธปท.ก็ได้ติดตามดูแลเพื่อไม่ให้เงินบาทผันผวนมากเกินไป

“เราก็เข้าไปดูแล หากเห็นว่าเงินบาทมีความผันผวนมากเกินไป เพื่อไม่ให้กระทบผู้ส่งออกผู้นำเข้าที่ต้องทำธุรกิจ ต้องดูแลไม่ให้มีความผันผวนมาก แต่เงินบาทที่แข็งค่าตอนนี้ยังเกาะกลุ่มกับภูมิภาค ที่ผ่านมา ดอลลาร์อ่อนทำให้ค่าเงินในภูมิภาครวมถึงเงินบาทแข็งค่า ตอนนี้ทุกประเทศช่วยกันดูแลอยู่”

ช่วงที่ผ่านมา มีเงินเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทยถึง 60,000 ล้านบาทเนื่องจากเศรษฐกิจโลกดีขึ้น นักลงทุนเริ่มมั่นใจเข้ามาลงทุนในภูมิภาคมากขึ้น ประกอบกับ มีเงินไหลเข้ามาลงทุนโดยตรง (FDI) ใกล้เคียงจากปี 2551 ไม่ได้ลดลงไปแม้จะมีวิกฤตเศรษฐกิจโลก อีกทั้งไทยยังเกินดุลชำระเงิน และดุลการค้า เนื่องจากการส่งออกหดตัวน้อยลง และการนำเข้าก็ยังไม่เห็นสัญญาณการฟื้นตัว จึงเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อค่าเงินบาทด้วย

อย่างไรก็ตาม ผู้ว่าการ ธปท.ระบุว่า ผู้ส่งออกและผู้นำเข้าไม่ควรคาดหมายทิศทางค่าเงิน เนื่องจากแนวโน้มค่าเงินบาทยังมีความผันผวนและท้ายสุดอาจกลายเป็นความเสี่ยงได้ หากค่าเงินไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ ดังนั้น วิธีที่ดีที่สุดคือการป้องกันความเสี่ยงของอัตราแลกเปลี่ยน

“เราไม่ได้ส่งสัญญาณว่าไม่ให้มีการเก็งกำไร แต่ไม่ต้องการให้มีการคาดหมายว่าเงินบาทจะเป็นไปในทิศทางใด ไม่ใช่เรื่องที่ทำได้ง่าย หากไม่เป็นไปตามที่คาดจะเป็นความเสี่ยงได้ ผู้ส่งออกและนำเข้าจึงอย่าคาดหมายทิศทางเงินบาท”
กำลังโหลดความคิดเห็น