“เล็นโซ่ วีล” มั่นใจเศรษฐกิจฟื้นตัว เล็งขยายตลาดส่งออก ยึดหัวหาดยุโรปตะวันออกและตะวันตก โกยยอดขายปีหน้าโต 15%
นางชลลดา วีรพร กรรมการ บริษัท เล็นโซ่ วีล จำกัด ผู้ผลิตล้อแม็กซ์ ยี่ห้อ เล็นโซ่ เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนที่จะขยายตลาดส่งออก เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจโดยรวมในโลกกำลังปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้น โดยเฉพาะในอเมริกาและยุโรปที่เริ่มเห็นสัญญาณฟื้นตัวของเศรษฐกิจ โดยปีหน้ามีแผนจะขยายตลาดส่งออกไปยังยุโรปตะวันออกและตะวันตก ปาเลสไตน์ เม็กซิโก ตุรกี อาร์เจนติน่า รวมถึงเพิ่มยอดส่งออกไปยังประเทศที่ส่งออกอยู่แล้วด้วย
ปัจจุบันบริษัทส่งออกไปมากกว่า 50 ประเทศทั่วโลก เช่น อเมริกา ยุโรป ญี่ปุ่น ตะวันออกกลาง ดูไบ อิหร่าน ออสเตรเลีย และอินเดีย มีตลาดหลักอยู่ที่ยุโรป และเยอรมัน คิดเป็นสัดส่วน 40% อเมริกา 20% ตะวันออกลาง 10% ส่วนที่เหลือกระจายไปในหลายประเทศ เช่น อาฟริกาใต้ ออสเตรเลีย ออสเตรีย รัสเซีย และมาเลเซีย ซึ่งเล็นโซ่ วีลเป็นผู้นำตลาดในเอเชีย ยกเว้น ญี่ปุ่น การส่งออกจะส่งออกทั้งแบรนด์ เล็นโซ่ และรับจ้างผลิต(OEM) ให้แบรนด์ชั้นนำระดับโลก ทั้งในอเมริกา และเยอรมัน
สำหรับแผนขยายตลาดส่งออกนั้น บริษัทจะเน้นไปงานแสดงสินค้าระดับโลก ล่าสุดไปออกงานพร้อมกับกรมส่งเสริมการส่งออกที่เยอรมัน ตลาดตอบรับดี เพราะไปพร้อมกับรัฐบาลไทย อีกทั้งยังมีรางวัล PM Export Award 2002 ประเภท Thai-Owned Brand และรางวัล PM Export Award 2006 ประเภทสินค้าที่มีการออกแบบดี ช่วยการันตีว่าสินค้าของเล็นโซ่ วีล ผลิตได้มาตรฐานสากล แต่การออกงานครั้งต่อไปจะได้รับความน่าเชื่อถือจากต่างประเทศมากยิ่งขึ้น เพราะปีนี้บริษัทได้รับรางวัล PM Export Award ประเภทผู้ส่งออกไทยดีเด่น ในกลุ่มผู้ส่งออก 500-1,000 ล้านบาท เพิ่มอีก 1 รางวัลด้วย
“ยอดส่งออกที่เติบโตขึ้นทุกปี เป็นเพราะสินค้าของบริษัทได้มาตรฐานระดับสากล ตรงกับความต้องการขอลูกค้า มีแบบลายใหม่ทุกเดือน ๆ ละ 3-4 ลาย ทำให้มีลายให้เลือกมากกว่า 100 ลาย”
บริษัทมีแผนลงทุนโรงงานแห่งที่ 2 ในนิคมอุตสาหกรรมเวลล์โกล์ว ด้วยงบลงทุนกว่า 180 ล้านบาทไม่รวมค่าที่ดิน คาดว่ากลางปีหน้า โรงงานจะก่อสร้างเสร็จ และเริ่มเดินเครื่องผลิตล้อแม็กซ์ได้ในช่วงปลายปี มีกำลังการผลิตปีละ 100,000 วง ซึ่งจะเพียงพอต่อความต้องการทั้งในและต่างประเทศ โรงงานปัจจุบันมีกำลังการผลิตที่ปีละ 300,000 วง ไม่เพียงพอต่อความต้องการ ทำให้ผลิตสินค้าไม่ทันส่งมอบมากถึง 7-8 เดือน และเมื่อโรงงานแห่งใหม่เดินเครื่องผลิตจะทำให้บริษัทแก้ปัญหาผลิตล้อแม็กซ์ไม่ทันส่งมอบได้
ส่วนผลประกอบการปีนี้คาดว่าจะมียอดขายประมาณ 1,000 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อนเพียง 3% เนื่องจากเศรษฐกิจตกต่ำ รวมทั้งการแข่งขันสูง คู่แข่งใช้กลยุทธ์ดั๊มพ์ราคา ทำให้คู้ค้าหลายรายหันไปเลือกซื้อสินค้าราคาถูกแทน แต่ขณะนี้สถานการณ์ต่าง ๆ เริ่มดีขึ้น เพราะคู้ค้าเริ่มเห็นแล้วว่าสินค้าราคาถูก มีคุณภาพสู้สินค้าของเล็นโซ่ไม่ได้ จึงทำให้หันกลับมาซื้อสินค้าของเล็นโซ่เพิ่มขึ้น ทำให้คาดว่าปีหน้ายอดขายจะเติบโตขึ้นประมาณ 13-15%
นางชลลดา วีรพร กรรมการ บริษัท เล็นโซ่ วีล จำกัด ผู้ผลิตล้อแม็กซ์ ยี่ห้อ เล็นโซ่ เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนที่จะขยายตลาดส่งออก เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจโดยรวมในโลกกำลังปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้น โดยเฉพาะในอเมริกาและยุโรปที่เริ่มเห็นสัญญาณฟื้นตัวของเศรษฐกิจ โดยปีหน้ามีแผนจะขยายตลาดส่งออกไปยังยุโรปตะวันออกและตะวันตก ปาเลสไตน์ เม็กซิโก ตุรกี อาร์เจนติน่า รวมถึงเพิ่มยอดส่งออกไปยังประเทศที่ส่งออกอยู่แล้วด้วย
ปัจจุบันบริษัทส่งออกไปมากกว่า 50 ประเทศทั่วโลก เช่น อเมริกา ยุโรป ญี่ปุ่น ตะวันออกกลาง ดูไบ อิหร่าน ออสเตรเลีย และอินเดีย มีตลาดหลักอยู่ที่ยุโรป และเยอรมัน คิดเป็นสัดส่วน 40% อเมริกา 20% ตะวันออกลาง 10% ส่วนที่เหลือกระจายไปในหลายประเทศ เช่น อาฟริกาใต้ ออสเตรเลีย ออสเตรีย รัสเซีย และมาเลเซีย ซึ่งเล็นโซ่ วีลเป็นผู้นำตลาดในเอเชีย ยกเว้น ญี่ปุ่น การส่งออกจะส่งออกทั้งแบรนด์ เล็นโซ่ และรับจ้างผลิต(OEM) ให้แบรนด์ชั้นนำระดับโลก ทั้งในอเมริกา และเยอรมัน
สำหรับแผนขยายตลาดส่งออกนั้น บริษัทจะเน้นไปงานแสดงสินค้าระดับโลก ล่าสุดไปออกงานพร้อมกับกรมส่งเสริมการส่งออกที่เยอรมัน ตลาดตอบรับดี เพราะไปพร้อมกับรัฐบาลไทย อีกทั้งยังมีรางวัล PM Export Award 2002 ประเภท Thai-Owned Brand และรางวัล PM Export Award 2006 ประเภทสินค้าที่มีการออกแบบดี ช่วยการันตีว่าสินค้าของเล็นโซ่ วีล ผลิตได้มาตรฐานสากล แต่การออกงานครั้งต่อไปจะได้รับความน่าเชื่อถือจากต่างประเทศมากยิ่งขึ้น เพราะปีนี้บริษัทได้รับรางวัล PM Export Award ประเภทผู้ส่งออกไทยดีเด่น ในกลุ่มผู้ส่งออก 500-1,000 ล้านบาท เพิ่มอีก 1 รางวัลด้วย
“ยอดส่งออกที่เติบโตขึ้นทุกปี เป็นเพราะสินค้าของบริษัทได้มาตรฐานระดับสากล ตรงกับความต้องการขอลูกค้า มีแบบลายใหม่ทุกเดือน ๆ ละ 3-4 ลาย ทำให้มีลายให้เลือกมากกว่า 100 ลาย”
บริษัทมีแผนลงทุนโรงงานแห่งที่ 2 ในนิคมอุตสาหกรรมเวลล์โกล์ว ด้วยงบลงทุนกว่า 180 ล้านบาทไม่รวมค่าที่ดิน คาดว่ากลางปีหน้า โรงงานจะก่อสร้างเสร็จ และเริ่มเดินเครื่องผลิตล้อแม็กซ์ได้ในช่วงปลายปี มีกำลังการผลิตปีละ 100,000 วง ซึ่งจะเพียงพอต่อความต้องการทั้งในและต่างประเทศ โรงงานปัจจุบันมีกำลังการผลิตที่ปีละ 300,000 วง ไม่เพียงพอต่อความต้องการ ทำให้ผลิตสินค้าไม่ทันส่งมอบมากถึง 7-8 เดือน และเมื่อโรงงานแห่งใหม่เดินเครื่องผลิตจะทำให้บริษัทแก้ปัญหาผลิตล้อแม็กซ์ไม่ทันส่งมอบได้
ส่วนผลประกอบการปีนี้คาดว่าจะมียอดขายประมาณ 1,000 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อนเพียง 3% เนื่องจากเศรษฐกิจตกต่ำ รวมทั้งการแข่งขันสูง คู่แข่งใช้กลยุทธ์ดั๊มพ์ราคา ทำให้คู้ค้าหลายรายหันไปเลือกซื้อสินค้าราคาถูกแทน แต่ขณะนี้สถานการณ์ต่าง ๆ เริ่มดีขึ้น เพราะคู้ค้าเริ่มเห็นแล้วว่าสินค้าราคาถูก มีคุณภาพสู้สินค้าของเล็นโซ่ไม่ได้ จึงทำให้หันกลับมาซื้อสินค้าของเล็นโซ่เพิ่มขึ้น ทำให้คาดว่าปีหน้ายอดขายจะเติบโตขึ้นประมาณ 13-15%
