คิง ฟิชเชอร์ ฉวยจังหวะเศรษฐกิจฟื้นตัว ขยายไลน์สู่อาหารปรุงสุกพร้อมรับประทาน เล็งขยายตลาดส่งออก เจาะตลาดยุโรปตะวันออกกลาง รัสเซีย จีน และอินเดีย ตั้งเป้าโกยยอดขายปีหน้า13,000 ล้านบาท
นายณัฐ อ่อนศรี กรรมการบริหาร บริษัท คิง ฟิชเชอร์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายอาหารกระป๋อง อาหารถุง และอาหารแช่แข็ง ภายใต้แบรนด์ คิงฟิช ท็อป แคท และท็อปด็อก เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนจะขยายไลน์สินค้าอาหารมากขึ้น จากที่ปัจจุบันผลิตอาหารกระป๋อง อาหารแช่แข็งของคน สุนัข แมว และนกเท่านั้น โดยจะผลิตอาหารปรุงสุกพร้อมรับประทาน (Ready to Eat) เช่น ต้มยำกุ้งแช่แข็ง ขณะนี้อยู่ระหว่างพัฒนารสชาดอาหารร่วมกับพันธมิตร คาดว่าจะทำตลาดได้ในต้นปีหน้า ซึ่งจะส่งออกไปยังยุโรปและอเมริกา
นอกจากขยายไลน์สินค้าแล้ว บริษัทยังเน้นพัฒนาสินค้าที่มีนวัตกรรมระดับไฮเอนด์ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม เพราะสินค้าระดับไฮเอนด์ ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจไม่มากนัก ขณะเดียวกัน ยังมีแผนจะซื้อเครื่องจักรเพิ่ม เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตอาหารกระป๋องประมาณ 30% ของกำลังการผลิตที่ 60,000 ตันต่อปี คาดว่าจะเดินเครื่องผลิตได้ในกลางปีหน้า
นายณัฐ กล่าวว่า สภาพเศรษฐกิจโดยรวมของโลกมีแนวโน้มดีขึ้น บริษัทจึงมีแผนขยายตลาดทั้งในและต่างประเทศ โดยในต่างประเทศจะขยายไปในยุโรปตะวันออกกลาง อินเดีย รัสเซีย และจีน ซึ่งมีแผนจะไปออกงานแสดงสินค้าร่วมกับกรมส่งเสริมการส่งออกที่รัสเซีย และอินเดียด้วย จากปัจจุบันที่ส่งออกประมาณ 40-50 ประเทศทั่วโลก มีตลาดหลักอยู่ที่ยุโรป คิดเป็นสัดส่วน 30% ญี่ปุ่น 30% อเมริกา 27-28% ส่วนที่เหลือกว่า 10% ส่งออกไปยังเอเชียและอัฟริกา
ทั้งนี้ การบุกตลาดต่างประเทศนอกจากคุณภาพสินค้าที่ได้มาตรฐานสากลเป็นหัวหอกบุกตลาดแล้ว รางวัล PM Export Award ที่ได้รับจากกรมส่งเสริมการส่งออกในปีนี้ ในกลุ่ม Best Exporter ที่มีมูลค่าส่งออกมากกว่า 5,000 ล้านบาท จะทำให้ลูกค้ามีความเชื่อมั่นในบริษัท รวมถึงช่วยสร้างแบรนด์ให้บริษัทเป็นที่รู้จักและยอมรับในตลาดโลกมากขึ้น
สำหรับผลประกอบการในปีนี้ จะมียอดขาย 12,000 ล้านบาท หรือเติบโตขึ้นกว่า 10% จากปีก่อนที่มียอดขาย 10,300 ล้านบาท ซึ่งยอดขายกว่า 90% มาจากตลาดส่งออก ส่วนที่เหลือราว 10% มาจากในประเทศ มีกำลังการผลิตที่ปีละ 12,000 ตัน แบ่งเป็นอาหารแช่แข็ง 60,000 ตัน และอาหารกระป๋อง 60,000 ตัน และตั้งเป้ายอดขายปีหน้าไว้ที่ 13,000 ล้านบาท
นายณัฐ อ่อนศรี กรรมการบริหาร บริษัท คิง ฟิชเชอร์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายอาหารกระป๋อง อาหารถุง และอาหารแช่แข็ง ภายใต้แบรนด์ คิงฟิช ท็อป แคท และท็อปด็อก เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนจะขยายไลน์สินค้าอาหารมากขึ้น จากที่ปัจจุบันผลิตอาหารกระป๋อง อาหารแช่แข็งของคน สุนัข แมว และนกเท่านั้น โดยจะผลิตอาหารปรุงสุกพร้อมรับประทาน (Ready to Eat) เช่น ต้มยำกุ้งแช่แข็ง ขณะนี้อยู่ระหว่างพัฒนารสชาดอาหารร่วมกับพันธมิตร คาดว่าจะทำตลาดได้ในต้นปีหน้า ซึ่งจะส่งออกไปยังยุโรปและอเมริกา
นอกจากขยายไลน์สินค้าแล้ว บริษัทยังเน้นพัฒนาสินค้าที่มีนวัตกรรมระดับไฮเอนด์ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม เพราะสินค้าระดับไฮเอนด์ ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจไม่มากนัก ขณะเดียวกัน ยังมีแผนจะซื้อเครื่องจักรเพิ่ม เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตอาหารกระป๋องประมาณ 30% ของกำลังการผลิตที่ 60,000 ตันต่อปี คาดว่าจะเดินเครื่องผลิตได้ในกลางปีหน้า
นายณัฐ กล่าวว่า สภาพเศรษฐกิจโดยรวมของโลกมีแนวโน้มดีขึ้น บริษัทจึงมีแผนขยายตลาดทั้งในและต่างประเทศ โดยในต่างประเทศจะขยายไปในยุโรปตะวันออกกลาง อินเดีย รัสเซีย และจีน ซึ่งมีแผนจะไปออกงานแสดงสินค้าร่วมกับกรมส่งเสริมการส่งออกที่รัสเซีย และอินเดียด้วย จากปัจจุบันที่ส่งออกประมาณ 40-50 ประเทศทั่วโลก มีตลาดหลักอยู่ที่ยุโรป คิดเป็นสัดส่วน 30% ญี่ปุ่น 30% อเมริกา 27-28% ส่วนที่เหลือกว่า 10% ส่งออกไปยังเอเชียและอัฟริกา
ทั้งนี้ การบุกตลาดต่างประเทศนอกจากคุณภาพสินค้าที่ได้มาตรฐานสากลเป็นหัวหอกบุกตลาดแล้ว รางวัล PM Export Award ที่ได้รับจากกรมส่งเสริมการส่งออกในปีนี้ ในกลุ่ม Best Exporter ที่มีมูลค่าส่งออกมากกว่า 5,000 ล้านบาท จะทำให้ลูกค้ามีความเชื่อมั่นในบริษัท รวมถึงช่วยสร้างแบรนด์ให้บริษัทเป็นที่รู้จักและยอมรับในตลาดโลกมากขึ้น
สำหรับผลประกอบการในปีนี้ จะมียอดขาย 12,000 ล้านบาท หรือเติบโตขึ้นกว่า 10% จากปีก่อนที่มียอดขาย 10,300 ล้านบาท ซึ่งยอดขายกว่า 90% มาจากตลาดส่งออก ส่วนที่เหลือราว 10% มาจากในประเทศ มีกำลังการผลิตที่ปีละ 12,000 ตัน แบ่งเป็นอาหารแช่แข็ง 60,000 ตัน และอาหารกระป๋อง 60,000 ตัน และตั้งเป้ายอดขายปีหน้าไว้ที่ 13,000 ล้านบาท
