กระทรวงพาณิชย์ จับมือเอสเอ็มอีแบงก์ ปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ เสริมสภาพคล่องผู้ประกอบการอัญมณี ชี้เพื่อสอดรับกับสถานการร์ตลาดส่งออกไตรมาสสุดท้าย จากคำสั่งซื้อทั่วโลกที่เพิ่มสูงขึ้น เผยตลาดหลักอยู่ที่สหรัฐฯ ยุโรป ส่วนตลาดใหม่เจาะกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง อินเดีย และจีน คาดยอดส่งออกสินค้าหมวดอัญมณีและเครื่องประดับไทยจะมีมูลค่าเพิ่มเป็น 500,000 ล้านบาท
นายอลงกรณ์ พลบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานร่วมลงนามโครงการสนับสนุนสินเชื่อสำหรับธุรกิจอัญมณีและเครื่องประดับระหว่างธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์) กับกระทรวงพาณิชย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับอัญมณีและเครื่องประดับ ว่าการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการอัญมณีและเครื่องประดับภายใต้ความร่วมมือของโครงการนี้ เอสเอ็มอีแบงก์จะช่วยเหลือสินเชื่อให้ผู้ประกอบการอัญมณีซึ่งเป็นเอสเอ็มอีให้ได้รับสภาพคล่อง เพื่อนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน ซึ่งสอดรับกับสถานการณ์ตลาดส่งออกไตรมาสสุดท้ายปีนี้ที่ดีขึ้นจากยอดคำสั่งซื้อทั่วโลกที่เพิ่มขึ้นและผู้ประกอบการอัญมณีและเครื่องประดับจะต้องส่งมอบสินค้าปลายปีนี้
ทั้งนี้ตลาดหลักอยู่ที่ ประเทศสหรัฐอเมริกา ยุโรป ญี่ปุ่น และออสเตรเลีย นอกจากนี้ยังมีตลาดใหม่ เช่น ตะวันออกกลาง ยุโรปตะวันออก อินเดีย และจีน โดยจากช่วงต้นปี (2552) ที่ผ่านมาสินค้าหมวดอัญมณีและเครื่องประดับ มียอดส่งออกลดลงเกือบทุกรายการ ยกเว้นเครื่องประดับเทียมหรือเครื่องประดับแฟชั่น ซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 10.03 โดยเพชรส่งออกลดลงร้อยละ 34.55 พลอยส่งออกลดลงร้อยละ 37.78 ไข่มุกส่งออกลดลงร้อยละ 30.98 เครื่องประดับทองลดลงร้อยละ 26.96 เครื่องประดับเงินลดลงร้อยละ 5.04
อย่างไรก็ตามเอสเอ็มอีแบงก์จะพิจารณาปล่อยสินเชื่อให้ผู้ประกอบการที่ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติและประเมินราคามาแล้วจากสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) และ 3 สมาคมหลัก คือ สมาคมผู้ค้าอัญมณีไทยและเครื่องประดับ สมาคมผู้ผลิตอัญมณีและเครื่องประดับไทย และสมาคมผู้ค้าอัญมณีและเครื่องประดับจันทบุรี ซึ่งก่อนหน้านี้รัฐบาลช่วยเหลือธุรกิจอัญมณีและเครื่องประดับด้วยการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มในการนำเข้าพลอยก้อน เพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนวัตถุดิบมาแล้ว
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวต่อว่า สินค้าหมวดอัญมณีและเครื่องประดับมียอดส่งออกปีละประมาณ 250,000 ล้านบาท และเป็นสินค้าที่สร้างมูลค่าเพิ่มสูงเป็นครีเอทีฟอีโคโนมี และคาดว่ายอดส่งออกสินค้าหมวดอัญมณีและเครื่องประดับไทยจะมีมูลค่าเพิ่มเป็น 500,000 ล้านบาทได้ในอนาคต