ภาคใต้เชื้อเพลิง เดินหน้าขยายปั๊มน้ำมันพีทีให้ครบ 400 แห่งทั่วประเทศภายใน 2-3 ปีข้างหน้า ส่งผลให้ยอดขายน้ำมันทะลุ 500 ล้านลิตรต่อปี
นายพิทักษ์ รัชกิจประการ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ภาคใต้เชื้อเพลิง จำกัด ซึ่งเป็นผู้ค้าปลีกน้ำมันรายย่อยภายใต้แบรนด์ “พีที” เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าหมายการขยายสถานีบริการน้ำมันให้ครบ 400 แห่งทั่วประเทศและมียอดขายน้ำมันรวม 500 ล้านลิตร ภายใน 2-3 ปีข้างหน้า แม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากวิกฤตการเงินโลก โดยในส่วนของการขยายสถานีบริการน้ำมันจะใช้รูปแบบแฟรนไชส์ หรือการเช่าแทนการลงทุนสร้างใหม่ เพราะใช้เงินสูง แต่หากใช้วิธีการนี้ จะมีต้นทุนเพียง 5 แสนบาทต่อแห่ง และมีเป้าหมายเปิดปั๊มตามถนนสายรอง หรือถนนในชุมชนเป็นหลัก ทำให้ไม่ต้องแข่งขันกับผู้ค้ารายใหญ่
ส่วนเป้าหมายยอดขายน้ำมันในปีนี้ คาดว่า จะอยู่ที่ 400 ล้านลิตร เพิ่มขึ้น 50 ล้านลิตรจากปีก่อนที่มียอดขาย 350 ล้านลิตร เนื่องจากได้มีการขยายจำนวนปั๊มน้ำมันเพิ่มขึ้น ทำให้ผลการดำเนินงานดีขึ้น
“จากยอดขายน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้นในปีนี้ ทำให้รายได้บริษัทปรับเพิ่มขึ้นจาก 7-8 พันล้านบาท เป็น 8-9 พันล้านบาท ทั้งๆ ที่ราคาน้ำมันต่ำกว่าปีก่อนเล็กน้อย โดดว่าจะมีกำไรเพิ่มขึ้น 10-20 ล้านบาท โดยภาระหนี้ของบริษัทปรับลดลงเหลือเพียง 200-300 ล้านบาทจากเดิมที่มีหนี้สูงนับพันล้านบาท คาดว่า 5 ปีข้างหน้าจะคืนหนี้ได้หมด” นายพิทักษ์ กล่าว
สำหรับแผนการลงทุนใหม่ บริษัทยังไม่มีแผนลงทุนโครงการพลังงานทางเลือกเหมือนค่ายน้ำมันอื่นๆ เนื่องจากเป็นผู้ค้าน้ำมันขนาดเล็ก ารลงทุนจำเป็นต้องรอบคอบ หากจะตัดสินใจลงทุนคงจะใช้เวลา 3-5 ปีข้างหน้า ขณะเดียวกัน ไม่สนใจที่จะทำปั๊มแอลพีจีสำหรับยานยนต์และปั๊มเอ็นจีวี เนื่องจากลงทุนมากอีก ขณะที่การทำปั๊มแอลพีจี ถือเป็นการใช้ก๊าซผิดประเภท ทำให้ประเทศชาติต้องสูญเสียเงินตราต่างประเทศ เพราะต้องนำเข้าจากต่างประเทศในราคาสูงแต่ขายราคาถูก อีกทั้งนโยบายภาครัฐยังไม่มีความชัดเจนว่าจะปล่อยลอยตัวหรือไม่ ขณะที่สถาบันการเงินแทบจะไม่ปล่อยสินเชื่อทำปั๊มน้ำมันเพราะมีความเสี่ยงสูง กว่าธุรกิจอื่น เว้นแต่เป็นผู้ค้าน้ำมันรายใหญ่อย่าง ปตท.
ทั้งนี้ บริษัทได้วางเป้าหมายการเติบโตของพีทีจะเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไปตามแนวทางพระราชดำรัสเศรษฐกิจพอเพียง จะไม่มีการลงทุนขนาดใหญ่เพื่อไม่ให้กระทบกับสภาพคล่องทางการเงิน เพราะราคาน้ำมันมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นในปีหน้า ทำให้ต้องมีวงเงินในการสั่งซื้อน้ำมันเพิ่มขึ้น
นายพิทักษ์ รัชกิจประการ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ภาคใต้เชื้อเพลิง จำกัด ซึ่งเป็นผู้ค้าปลีกน้ำมันรายย่อยภายใต้แบรนด์ “พีที” เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าหมายการขยายสถานีบริการน้ำมันให้ครบ 400 แห่งทั่วประเทศและมียอดขายน้ำมันรวม 500 ล้านลิตร ภายใน 2-3 ปีข้างหน้า แม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากวิกฤตการเงินโลก โดยในส่วนของการขยายสถานีบริการน้ำมันจะใช้รูปแบบแฟรนไชส์ หรือการเช่าแทนการลงทุนสร้างใหม่ เพราะใช้เงินสูง แต่หากใช้วิธีการนี้ จะมีต้นทุนเพียง 5 แสนบาทต่อแห่ง และมีเป้าหมายเปิดปั๊มตามถนนสายรอง หรือถนนในชุมชนเป็นหลัก ทำให้ไม่ต้องแข่งขันกับผู้ค้ารายใหญ่
ส่วนเป้าหมายยอดขายน้ำมันในปีนี้ คาดว่า จะอยู่ที่ 400 ล้านลิตร เพิ่มขึ้น 50 ล้านลิตรจากปีก่อนที่มียอดขาย 350 ล้านลิตร เนื่องจากได้มีการขยายจำนวนปั๊มน้ำมันเพิ่มขึ้น ทำให้ผลการดำเนินงานดีขึ้น
“จากยอดขายน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้นในปีนี้ ทำให้รายได้บริษัทปรับเพิ่มขึ้นจาก 7-8 พันล้านบาท เป็น 8-9 พันล้านบาท ทั้งๆ ที่ราคาน้ำมันต่ำกว่าปีก่อนเล็กน้อย โดดว่าจะมีกำไรเพิ่มขึ้น 10-20 ล้านบาท โดยภาระหนี้ของบริษัทปรับลดลงเหลือเพียง 200-300 ล้านบาทจากเดิมที่มีหนี้สูงนับพันล้านบาท คาดว่า 5 ปีข้างหน้าจะคืนหนี้ได้หมด” นายพิทักษ์ กล่าว
สำหรับแผนการลงทุนใหม่ บริษัทยังไม่มีแผนลงทุนโครงการพลังงานทางเลือกเหมือนค่ายน้ำมันอื่นๆ เนื่องจากเป็นผู้ค้าน้ำมันขนาดเล็ก ารลงทุนจำเป็นต้องรอบคอบ หากจะตัดสินใจลงทุนคงจะใช้เวลา 3-5 ปีข้างหน้า ขณะเดียวกัน ไม่สนใจที่จะทำปั๊มแอลพีจีสำหรับยานยนต์และปั๊มเอ็นจีวี เนื่องจากลงทุนมากอีก ขณะที่การทำปั๊มแอลพีจี ถือเป็นการใช้ก๊าซผิดประเภท ทำให้ประเทศชาติต้องสูญเสียเงินตราต่างประเทศ เพราะต้องนำเข้าจากต่างประเทศในราคาสูงแต่ขายราคาถูก อีกทั้งนโยบายภาครัฐยังไม่มีความชัดเจนว่าจะปล่อยลอยตัวหรือไม่ ขณะที่สถาบันการเงินแทบจะไม่ปล่อยสินเชื่อทำปั๊มน้ำมันเพราะมีความเสี่ยงสูง กว่าธุรกิจอื่น เว้นแต่เป็นผู้ค้าน้ำมันรายใหญ่อย่าง ปตท.
ทั้งนี้ บริษัทได้วางเป้าหมายการเติบโตของพีทีจะเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไปตามแนวทางพระราชดำรัสเศรษฐกิจพอเพียง จะไม่มีการลงทุนขนาดใหญ่เพื่อไม่ให้กระทบกับสภาพคล่องทางการเงิน เพราะราคาน้ำมันมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นในปีหน้า ทำให้ต้องมีวงเงินในการสั่งซื้อน้ำมันเพิ่มขึ้น
