xs
xsm
sm
md
lg

“ศศิธารา”รื้อกองทุนฯท่องเที่ยว ไร้ผลงาน-หวั่นซ้ำรอยชวด400ล.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“ศศิธารา” สั่งรื้อการทำงานของคณะกรรมการกองทุนเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว ตั้ง คณะอนุกรรมการ 2 ชุด ทำงานเชิงรุก ทั้งด้านยุทธศาสตร์ การตลาดและการประชาสัมพันธ์ สร้างการรับรู้ในวงกว้าง เหตุชวดเงินงบประมาณปี 2553 จากรัฐบาลวงเงิน 400 ล้านบาท เพราะไม่มีผลงานเป็นรูปธรรม

นางสาวศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะประธานคณะกรรมการกองทุนเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย เปิดเผยว่า ที่ประชุมมีมติตั้งอนุกรรมการ 2 ชุด เพื่อแบ่งหน้าที่การทำงานให้รวดเร็วขึ้น ได้แก่ 1.คณะอนุกรรมการวางแผนยุทธศาสตร์ในภาพรวม และ 2.คณะอนุกรรมการวางแผนกลยุทธ์การตลาดและการประชาสัมพันธ์ โดยแต่งตั้งให้นายกงกฤช หิรัญกิจ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(สทท.) เป็นประธาน

ทั้งนี้สาเหตุที่ต้องมาจัดระเบียบแบ่งการทำงานของคณะกรรมการกองทุนฯ เพื่อต้องการให้การทำงานรุกหน้าไปได้อย่างเป็นระบบและเป็นรูปธรรมโดยเร็ว เนื่องจากในปีงบประมาณ 2553 กองทุนฯไม่ได้รับการจัดสรรงบประมาณ จากที่ยื่นขอไป 400 ล้านบาท โดยรัฐบาลอ้างว่า ไม่มีผลงานเป็นรูปธรรม ซึ่งก็เป็นความจริง เพราะ

ตั้งแต่รับมอบภาระการดูแลกองทุนฯมาจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) รวม 2 ปี ปรากฏว่ามีผู้ยื่นเรื่องขอใช้เงินจากกองทุนฯนี้เพียง 9 โครงการ สะท้อนให้เห็นว่า ผู้ที่อยู่ในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวอาจยังไม่รู้ว่ามีกองทุนนี้อยู่ หรือ ไม่รู้ว่ากองทุนนี้สามารถจัดสรรเงินให้แก่ผู้ใดได้บ้าง เราจึงต้องหันมาทำงานเชิงรุกมากขึ้น

“ตั้งแต่เราได้รับมอบหมายให้ดูแลกองทุน ก็ได้ดำเนินการแก้ไขกฎระเบียบต่างๆ เพื่อให้คนในอุสาหกรรมท่องเที่ยว สามารถเข้าถึงเงินของกองทุนได้ง่ายขึ้น โปร่งใส ตรวจสอบได้ โดยทำไปพร้อมๆกับการเปิดรับผู้ที่สนใจขอรับเงินกองทุนนี้ ซึ่งจะมีทั้งแบบเสียดอกเบี้ย และ แบบให้เปล่า แกลับมีสนใจน้อย เราจึงต้องปรับการทำงานให้เป็นเชิงรุก เพื่อปีงบประมาณ 2554 เราจะได้รับเงินจัดสรรจากรัฐบาลเหมือนเดิม โดยขณะนี้กองทุนมีเงินคงเหลืออยู่ 400 ล้านบาท เท่าเดิม เพราะปีงบประมาณ 2553 เราไม่ได้”

สำหรับภารกิจหลักของคณะอนุกรรมการวางแผนกลยุทธการตลาดและการประชาสัมพันธ์ คือต้องการให้เชิญประชุมสมาชิก สทท. ให้ความรู้เรื่องภารกิจหน้าที่ของกองทุนฯตลอดจนเงื่อนไขการขอรับเงินจากกองทุนดังกล่าว ให้ผู้ประกอบการได้รับรู้กันทั่วถึง นอกจากนั้นจะขอความร่วมมือจากกระทรวงมหาดไทย ขอประชุมแบบเทเลคอนเฟอร์เรนจ์กับผู้ว่าราชการทุกจังหวัด และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ให้ทุกฝ่ายได้รับทราบถึงโครงการของกองทุนฯด้วย

อย่างไรก็ตาม การทำงานของกองทุน เราต้องการเป็นทางเลือกหนึ่งให้แก่ภาคเอกชน ที่ต้องการเงินไปเสริมสภาพคล่องให้แก่ธุรกิจ เพราะภาพลักษณ์เก่าของกองทุนฯนี้ เอกชนจะเข้าใจว่าจะสมสนับสนุนแต่โครงการเพื่อการพัฒนา แต่แท้จริงแล้ว กองทุนให้บริการแก่ผู้องการไปทำประโยชน์ ทั้งด้าน การตลาด การพัฒนา ส่งเสริม และ วิจัย โดยคณะกรรมการจะมีการประชุมเพื่อพิจารณาเอกสารที่เอกชนยื่นขอปีละ 4 ครั้ง หรือ ไตรมาสละ 1 8รั้ง แต่หากมีผู้ต้องการมากกว่านั้นก็สามารถเรียกประชุมให้ถี่ขึ้นได้
กำลังโหลดความคิดเห็น