นาฬิกา Breguet จัดงานต้อนรับสื่อมวลชนและแขกผู้มีเกียรติ ในงาน The Collection of “TOURBILLON” Breguet’s Legacy since 1801 ด้วยบรรยากาศแบบเป็นกันเองสไตล์ฝรั่งเศส
เมื่อวันที่ 20 – 21 สิงหาคมที่ผ่านมา THE SWATCH GROUP TRADING (THAILAND) นำโดย คุณคริสตอฟ วิเกอรี่ (Country Manager of THE SWATCH GROUP TRADING (THAILAND) & Breguet’s Brand Manager) และ คุณกฤตยา เลาหพงศ์ชนะ (Breguet’s Sales & Marketing Manager) ได้รับเกียรติจากสื่อมวลชนและแขกผู้มีเกียรติในงาน The Collection of “TOURBILLON” Breguet’s Legacy since 1801 ซึ่งงานในครั้งนี้ได้จัดเพื่อให้สื่อมวลชนและแขกผู้มีเกียรติได้สัมผัสกับ นาฬิกาคอลเลคชั่นทูร์บิญอง อย่างใกล้ชิด ภายใต้บรรยากาศสบายๆ เป็นกันเอง ณ ห้อง 303 เดอะเรสซิเดนท์ โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ
เนื่องจาก มร.อับราฮัม หลุยส์ เบรเกต์ ผู้ก่อตั้งแบรนด์นาฬิกา Breguet แบรนด์ดังของโลก ที่มีบทบาทอย่างมากกับทั้งประวัติศาสตร์ยุโรปและนาฬิกา เป็นผู้คิดค้นกลไกและฟังก์ชั่นใหม่ๆ ให้กับวงการนาฬิกา จนทำให้โลกของเครื่องบอกเวลาได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิงนับตั้งแต่ศตวรรษที่ 18 เป็นต้นมา 1ในกลไกที่คิดค้นนั้นก็คือ “กลไกทูร์บิญอง” ซึ่งเป็นการคิดค้นในปี ค.ศ.1801 เพื่อแก้ปัญหาการเดินเวลาไม่เที่ยงตรงเพียงพออันสืบเนื่องมาจากแรงโน้มถ่วงของโลก เนื่องจากการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ ให้โลกเรือนเวลา ผสมผสานกับดีไซน์ และ การผลิตอันปราณีต นาฬิกาเบรเกต์จึงเป็นที่ไว้วางใจสูงสุดจนมีโอกาสเป็นส่วนร่วมในการออกรบ ของท่านนายพล นโปเลียน โบนาพาร์ท หรือ แม้กระทั่งเป็นที่ปรารถนาของ พระนางเจ้ามารี อังตวาเน็ต ,พระเจ้าหลุยส์ที่16, พระเจ้าซาร์ แห่งรัสเซีย, กษัตริย์เฮนรี่ และ บุคคลสำคัญในราชวงศ์อีกมากมาย สมกับคำร่ำลือที่ว่า Breguet คือ King of Watch และ Watch of Kings
ทั้งนี้ไฮไลต์ของงานคือ นาฬิกาพกรุ่น 1907 มูลค่ากว่า 30 ล้านบาท, นาฬิการุ่น Double Tourbillon ( นวัตกรรมใหม่แห่งกลไกทูร์บิญอง) มูลค่ากว่า 14 ล้านบาท และนาฬิการุ่น Tradition Tourbillon Fusee (ที่เพิ่มกลไกโซ่เข้ากับกลไกทูร์บิญอง) มูลค่ากว่า 6 ล้านบาท มากไปกว่านั้น ทาง Breguet ได้นำนาฬิกาทูร์บิญองกว่า 20 เรือน มูลค่ากว่า 150 ล้านบาทมาให้สื่อมวลชนและแขกผู้มีเกียรติได้รับชมและสัมผัสถึงกลไกอันน่ามหัศจรรย์นี้
ประสบการณ์รับชม และ สัมผัสเรือนเวลาอันหายาก ท่ามกลางบทสนทนา และ เสียงหัวเราะ ในบรรยากาศอันอบอุ่น ทำให้ผู้รักนาฬิกาได้ดื่มด่ำ และ เพลิดเพลินในบรรยากาศแบบเป็นกันเองตลอดคืน
แขกผู้มีเกียรติ
คุณธนสาร วิจิตรกาญจน์,คุณคริสตอฟ วิเกอรี่,คุณรวิช เทิดวงศ์,ท่านพงศ์ สารสิน,คุณโกษา พงศ์สุพัฒน์,คุณกฤษดา นันตาลิก,คุณภาคภูมิ หัศบำเรอ,คุณชัชวาล พหลโยธิน
คุณรวิช เทิดวงศ์,คุณสุทิน จิรมณีกุล,คุณคริสตอฟ วิเกอรี่,ท่านพงศ์ สารสิน,คุณโกษา พงศ์สุพัฒน์,คุณกฤษดา นันตาลิก,คุณชัชวาล พหลโยธิน
ท่านพงศ์ สารสิน,คุณสุทิน จิรมณีกุล
ท่านพงศ์ สารสิน
คุณก้องเกียรติ โอภาสวงการ
คุณภัทร จึงกานต์กุล
ดร.ปราโมทย์ เหรียญเจริญสุข
คุณจักรกฤต เบเนเตทตี้
คุณจักรกฤต เบเนเตทตี้,คุณกฤตยา เลาหพงศ์ชนะ
คุณมลชยา เตชะไพบูลย์
คุณมลชยา เตชะไพบูลย์,คุณซีริล เบอร์แมน
คุณซีริล เบอร์แมน,คุณมลชยา เตชะไพบูลย์,คุณวิภา เอี่ยมอมรพันธ์,คุณธนพ เอี่ยมอมรพันธ์
คุณยุพิน ส่งทวีผล,คุณเชษฐา ส่งทวีผล
คุณวิภา เอี่ยมอมรพันธ์,คุณธนพ เอี่ยมอมรพันธ์
คุณชัยยศ เอี่ยมอมรพันธ์,คุณบรรณพร เอี่ยมอมรพันธ์
คุณณัฐภัทร จิรมณีกุล,คุณสุทิน จิรมณีกุล
คุณณัฐภัทร จิรมณีกุล,คุณสุทิน จิรมณีกุล,คุณกฤตยา เลาหพงศ์ชนะ
คุณชัยยศ เอี่ยมอมรพันธ์,คุณบรรณพร เอี่ยมอมรพันธ์,คุณคริสตอฟ วิเกอรี่
คุณธนพ เอี่ยมอมรพันธ์,คุณวิภา เอี่ยมอมรพันธ์,คุณคริสตอฟ วิเกอรี่,คุณบรรณพร เอี่ยมอมรพันธ์,คุณชัยยศ เอี่ยมอมรพันธ์
คุณพัฒนพงษ์ ธนวิสุทธิ์,คุณปรียามล ธนวิสุทธิ์
คุณธนสาร วิจิตรกาญจน์,คุณชัชวาล พหลโยธิน,คุณรวิช เทิดวงศ์
ผู้บริหาร
คุณคริสตอฟ วิเกอรี่,คุณกฤตยา เลาหพงศ์ชนะ
บรรยากาศในงาน
สื่อมวลชน
คอลเล็กชั่นนาฬิกา
POCKET WATCH 1907(Hi-light)
Double Tourbillon(Hi-light)
Double Tourbillon(Hi-light)
Double Tourbillon(Hi-light)
Tradition Tourbillon Fusee(Hi-light)
Tradition Tourbillon Fusee(Hi-light)
POCKET WATCH 1907: Tourbillon and Grand Strike
นาฬิกาพก 1907 : ทูร์บิญอง และกล ไกการตีเวลา
1907/BA/12
นับจากศตวรรษที่ 18 เป็นต้นมา โลกของเครื่องบอกเวลาได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง จากจินตนาการ และความทุ่มเทในการคิดค้นเพื่อประดิษฐ์นวัตกรรมใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเครื่องบอกเวลาในแง่มุมต่างๆ ของ อับราฮัม-หลุยส์ เบรเกต์ (Abraham-Louis Breguet) อันก่อให้เกิดคุณูปการแก่อุตสาหกรรมเครื่องบอกเวลาต่อมาจวบจนทุกวันนี้อย่างประเมินค่าไม่ได้ และผลงานของเขาเหล่านี้ได้เป็นตัวจุดประกาย และ เป็นบันไดให้กับศิลปินรุ่นหลังในการสร้างสรรค์ผลงานชิ้นใหม่ๆ ออกสู่ตลาดในแต่ละปี
กลไกและฟังก์ชันใหม่ๆ ที่ Breguet ได้คิดค้นขึ้นมานั้นหลากหลาย มีมากมายครอบคลุมในทุกๆ มิติของเครื่องบอกเวลาตั้งแต่ระบบที่เกี่ยวข้องกับการเพิ่มประสิทธิภาพในเชิงเทคนิคเพื่อปรับปรุงคุณภาพของการรักษาเวลา เช่น กลไกทูร์บิญอง (Tourbillon) และระบบกันกระเทือน (La Pare-chute) หรือเพื่อเป็นการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานเพื่อให้ผู้ใช้สามารถใช้งานได้ง่ายขึ้น เช่น ระบบไขลานผ่านทางเม็ดมะยม (The Keyless Winding) ซึ่งแต่เดิมนาฬิกาจะต้องไขด้วยกุญแจขึ้นลาน และระบบขึ้นลานอัตโนมัติ (Self-winding) หรือเพื่อเป็นการเสริมคุณสมบัติของตัวนาฬิกาให้สามารถใช้งานได้หลากหลายหน้าที่ เช่น ระบบปฏิทินถาวร (Perpetual Calendar) ระบบจับเวลา (Chronograph) ระบบตีบอกเวลา (Gong Spring) กลไกแสดงสมการของเวลา (Equation of Time) ระบบสัมผัสสำหรับดูเวลาในที่มืดและผู้ที่มีปัญหาทางด้านสายตา (Tact Watch) หรือนาฬิกาตั้งโต๊ะที่สามารถปรับตั้งนาฬิกาพกให้แสดงเวลาที่ถูกต้อง (Sympathique Clock) นวัตกรรมเหล่านี้เราสามารถพบเห็นได้โดยทั่วไปในเครื่องบอกเวลาปัจจุบัน โดยทุกๆคน จะคุ้นเคยจนไม่ทราบ หรือลืมเลือนไปแล้วว่าทั้งหมดนี้มาจากความคิดความสามารถของ Abraham-Louis Breguet
นาฬิกาพกรุ่นนี้ประดิษฐ์ขึ้นใหม่โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อรวมเอาผลงานต่างๆ จากการคิดค้นของ Abraham-Louis Breguet เข้าไว้ด้วยกันเพื่อให้เป็นหนึ่งคอลเลคชั่น Grande Complication และ เป็นการรักษาไว้ซึ่งวัฒนธรรมการประดิษฐ์เครื่องบอกเวลาแบบดั้งเดิม รูปลักษณ์ของนาฬิกาเรือนนี้จะออกในแนวคลาสสิค เรียบง่าย แต่งามสง่า
ตัวเรือนผลิตจากทอง 18K มีเส้นผ่านศูนย์กลางเท่ากับ 56.5 มิลลิเมตร ตัวเรือนเป็นแบบ 3 ชิ้นแบบ ‘ฮันเตอร์’ (Hunter Style) มีฝาปิดด้านหน้าและด้านหลัง โดยแกะเป็นลวดลาย ด้วยมือ ซึ่งค่อนข้างยากมากเนื่องจากความโค้งของตัวฝาทั้งสองด้าน ช่างที่จะประดิษฐ์งานชิ้นนี้ให้สำเร็จลุล่วงลงได้จะต้องเป็นผู้ที่มีความชำนาญทางด้านการแกะสลักตัวเรือน และรู้ถึงเคล็ดลับในการทำงานในรูปแบบนี้ ซึ่งในโรงงาน Breguet มีช่างเพียงคนเดียวที่สามารถทำงานชิ้นนี้ได้ ส่วนฝาหลังด้านใน เป็นแผ่นคริสตัลแซพไฟร์เพื่อให้ผู้ที่เป็นเจ้าของ ได้ชื่นชมกลไกอันสวยงามที่อยู่ด้านใน ด้านข้างของตัวเรือนเซาะเป็นร่องลายลูกตั้ง (Fluted Finish) ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเอกลักษณ์ของ Breguet
หน้าปัดผลิตจากทอง 18K เช่นเดียวกับตัวเรือน แต่ผ่านกระบวนการทำสีให้หน้าปัดเป็นสีเงิน และขึ้นลวดลายด้วยมือหรือ ‘กิโยเช’ (Guilloche) ที่เป็นเอกลักษณ์และเป็นสัญลักษณ์ของ Breguet โดยในแต่ละส่วนจะใช้แพทเทิร์นที่แตกต่างกันออกไป เข็มทุกเข็มล้วนเป็นรูปทรงตามแบบฉบับดั้งเดิมของ Breguet ซึ่งผ่านกระบวนการขึ้นรูปขัดแต่งและเผาเพื่อทำให้เป็นสีน้ำเงินด้วยมือ รูปแบบการแสดงเวลาของนาฬิกาเรือนนี้เป็นแบบ ‘เรกูเลเตอร์’ (Regulator) โดยชุดของเข็มชั่วโมงจะอยู่เยื้องไปในตำแหน่ง 12 นาฬิกา เข็มนาทีอยู่กลางหน้าปัด ส่วนเข็มวินาทีจะอยู่บนจักรกลอกทูร์บิญองที่อยู่บริเวณตำแหน่งระหว่าง 4-5 นาฬิกา ส่วนหน้าปัดระหว่างตำแหน่ง 7-8 นาฬิกา เจาะเป็นช่องไว้ 2 ช่องเพื่อโชว์ค้อนตีบอกเวลา 2 อันของกลไก ‘Grand Strike’ สามารถสำรองพลังงานได้ยาวนาน 50 ชั่วโมง
กลไกที่ทำหน้าที่ควบคุมเวลาแบบทูร์บิญองแบบหมุนรอบตัวเอง 1 รอบในเวลา 1 นาที (One-minute Tourbillon) โครงสร้างของระบบทูร์บิญองนี้มีลักษณะที่แตกต่างไปจากทูร์บิญองที่มีอยู่ในท้องตลาดหรือแม้กระทั่งทูร์บิญองที่ Breguet ประดิษฐ์ไว้ในนาฬิกาคอลเลกชั่นต่างๆ ของตน คือตัวชุดของระบบจักรกลอกจะยึดเข้ากับแท่นเครื่องด้วยแขนเพียงข้างเดียว แทนที่จะเป็น 2 ข้างดังที่นิยมปฏิบัติกัน กลไกทั้งชุดนี้ประกอบขึ้นจากชิ้นส่วนทั้งหมดกว่า 680 ชิ้น ระบบพลังงานสำรองเป็นแบบไขลานด้วยมือผ่านเม็ดมะยม ระบบไขลานด้วยมือนี้เป็นแบบขึ้นลานได้ 2 ทิศทาง โดยการหมุนเม็ดมะยมในทางหนึ่งจะไปขึ้นลานเพื่อเป็นพลังงานสำรองให้กับกลไก แต่หากหมุนไปอีกทางหนึ่งจะไปขึ้นลานสำหรับระบบตีบอกเวลา กลไกการตีเวลาที่บรรจุอยู่ในนาฬิกาพกเรือนนี้ได้รับการออกแบบใหม่หมด โดยแทนที่จะอยู่ด้านข้างของตัวเครื่องดังที่นิยมปฏิบัติกันมา ทางทีมงานฝ่ายเทคนิคกลับออกแบบให้กลไกที่ตีเวลา คือค้อน 2 อัน อยู่ด้านบนของแท่นเครื่องฝั่งหน้าปัด ซึ่งในเชิงเทคนิคแล้วยุ่งยากกว่ากันมาก กลไกที่ตั้งใจคิดค้นขึ้นใหม่นี้เป็นไปเพื่อยืนยันถึงความตั้งใจของแบรนด์ที่จะดำรงไว้ซึ่งวัฒนธรรมในการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ ที่เป็นวิถีการทำงานที่สร้างชื่อเสียงให้กับ Breguet มากว่า 200 ปี
จากการรวมเอากลไกที่เป็นนวัตกรรมของ Bregruet ไม่ว่าจะเป็นกลไกทูร์บิญอง ระบบไขลานโดยผ่านแกนไข และระบบกันกระเทือน เข้าไว้ด้วยกันกับนวัตกรรมที่คิดค้นใหม่ในยุค 200 ปีหลังการจากไปของ Abraham-Louis Breguet คือกลไกตีบอกเวลา ‘Grand Strike’ ทำให้ผลงานนาฬิกาพก Breguet 1907 Tourbillon & Grand Strike เรือนนี้กลายเป็นเครื่องบอกเวลาสำหรับนักสะสมที่ต้องการผลงานที่รวมเอานวัตกรรมด้านต่างๆ ที่สะท้อนให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่นี้จากอดีตไปสู่อนาคตภายใต้ชื่อ Breguet
ตัวเรือนทองคำ 18 กะรัต พร้อมสายโซ่ ราคา 30,107,000 บาท
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 02 610-0200
มีวางจำหน่ายที่ Frank’s Watch Boutique สยามพารากอน ชั้น M และ เอมโพเรียม ชั้น G
BREGUET : Classique 5347 Grande Complication : Double Tourbillon
เบรเกต์ : คลาสสิค แกรนด์ คอมพลิเคชั่น 5347 : ดับเบิล ทูร์บิญอง
5347BR119ZU
นี่คือผลลัพธ์อันน่าตื่นตาของความพากเพียรพยายามพัฒนาอย่างยาวนานหลายปี Breguet Double Tourbillon คือนาฬิการะบบกลไกไขลานซึ่งติดตั้งกรงทูร์บิญองคู่ โดยหมุนอยู่บนแกนเข็มชั่วโมง แม้จะทำงานโดยอิสระจากกัน แต่กรงทูร์บิญองทั้งสอง ก็ทำงานสัมพันธ์กันด้วยเฟืองปรับสมดุล และ ต่างก็ถูกติดตั้งอยู่บนจานหมุนกลางหน้าปัด ซึ่งมีวงรอบการหมุนรอบละ 12 ชั่วโมง ซึ่งกลไกปรับสมดุลนี้ ทำหน้าที่ควบคุมอัตราการหมุนโดยเฉลี่ยของกรงทูร์บิญองทั้งสอง ให้สัมพันธ์กับจานหมุน และกลไกแสดงเวลา ดังนั้นอัตราการเดินของนาฬิกา จึงเท่ากับอัตราการหมุนโดยเฉลี่ยของกรงทูร์บิญองทั้งสอง ทำให้กลไกของนาฬิกามีความเที่ยงตรงเป็นสองเท่าของแบบปกติทั่วไป โดยสะพานเชื่อมระหว่างกรงทูร์บิญองทั้งสอง ทำหน้าที่เสมือนเข็มชี้บอกชั่วโมงไปด้วยโดยปริยาย ส่วนการอ่านค่านาทีนั้นใช้เข็มนาทีแบบปกติที่อยู่กลางหน้าปัด เป็นผลงานชิ้นเอกซึ่งเต็มเปี่ยมทั้งความงดงามและเทคนิค ตัวเรือนทองชมพูขนาด 44 มม. ของนาฬิกาเรือนนี้บรรจุชิ้นส่วนกว่า 570 ชิ้นซึ่งล้วนแล้วแต่ได้รับการประกอบด้วยความอุตสาหะจากช่างประดิษฐ์นาฬิกาฝีมือเอกของ Breguet การเก็บงานอย่างเนี้ยบไร้ที่ติและลวดลายแกะสลักดีไซน์ใหม่สะดุดตาบนด้านหลังของชุดกลไกยิ่งช่วยเน้นย้ำรูปโฉมอันโดดเด่นของเรือนเวลาชิ้นนี้
นับแต่เปิดตัวเป็นครั้งแรกในงาน Basel ปี 2006 แต่จำนวนผลิตนั้นไม่เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้า โดยนาฬิการะบบกลไกสุดซับซ้อนพร้อมทูร์บิญองคู่รุ่นนี้สามารถส่งมอบให้ลูกค้าผู้สั่งจองได้ในปี 2008 ซึ่งส่วนใหญ่ได้ชำระเงินล่วงหน้าไว้แล้ว และด้วยเหตุที่มีคำสั่งซื้อรายใหม่ ๆ เข้ามาสมทบกับของเดิมที่ยังค้างส่ง จึงต้องมีการเพิ่มกำลังผลิตเพื่อให้ Breguet สามารถจัดส่งรุ่นตัวเรือนทองชมพูนี้ได้ทันปลายปี 2009
ตัวเรือนทองคำชมพู 18 กะรัต พร้อมสายหนังจระเข้ชั้นดี ราคา 14,200,000 บาท
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 02 610-0200
มีวางจำหน่ายที่ Frank’s Watch Boutique สยามพารากอน ชั้น M และ เอมโพเรียม ชั้น G
BREGUET - Tradition 7047 Grande Complication: Fusee Tourbillon
เบรเกต์ - เทรดดิชั่น 7047 แกรนด์ คอมพลิเคชั่น: ฟูเซ ทูร์บิญอง
7047BA119ZU
Breguet 7047 เรือนนี้น่าตื่นตาด้วยกลไก fusee tourbillon (ทูร์บิญองแบบกะสวย) ซึ่งติดตั้งมากับจักรกลไขลานอันมีเทคนิคละเอียดอ่อน โดยกลไกดังกล่าวซึ่งอยู่ตรงข้ามตำแหน่ง 10 นาฬิกาของหน้าปัดนั้นมีเพลาปรับลดแรงเหวี่ยง ซึ่งช่วยในการแสดงค่าพลังงานสำรองของตลับลานขนาดใหญ่ ที่บรรจุขดลานเอาไว้สองขด
ระบบส่งกำลังแบบโซ่-กะสวย (Fusee) นี้ช่วยปรับอัตราการเดินของนาฬิกาให้สม่ำเสมอยิ่งขึ้นไม่ว่าจะถูกขึ้นลานไว้ตึงเพียงใด เนื่องจากลานของนาฬิการะบบกลไกทั่วไปมักจะทำงานผันแปรไปตามความหย่อนตึงของการขึ้นลาน แต่กะสวยทรงกรวยนี้ประกอบด้วยเพลาขับเคลื่อนซึ่งจะส่งกำลังสู่กลไกอย่างต่อเนื่อง ยามที่ลานถูกไขเต็มที่และมีแรงขับสูง โซ่ซึ่งโยงระหว่างตลับลานกับกะสวยจะหมุนพันรอบส่วนที่แคบที่สุดของกะสวย ในทางตรงกันข้าม เมื่อลานมีความหย่อนตัวและกำลังตก โซ่ก็จะเคลื่อนไปพันรอบส่วนที่กว้างที่สุดของกะสวย ระบบขึ้นลานนี้ยังได้รับการปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้นไปอีกโดยใช้ column wheel (คอลัมน์ วีล) ที่มีซี่เฟืองด้านหน้าเพื่อการตอบสนองที่ดีกว่า
ไม่อาจปฏิเสธได้ว่า Tradition 7047 มีดีไซน์ที่ล้ำหน้า แต่ทว่ายังคงความเป็นนาฬิกา Breguet ไว้ในทุกด้าน ภาคแสดงเวลาบนหน้าปัดซึ่งเยื้องศูนย์อยู่ที่ตำแหน่ง 7.30 น. ในลักษณะอสมมาตรนั้นตอกย้ำภาพรวมของดีไซน์ดั้งเดิม ในขณะที่ตัวเลขโรมันแบบโบราณและเข็มชี้ทรง Breguet อันคลาสสิกก็ชวนให้ย้อนคิดถึงบุรุษผู้ก่อตั้ง ส่วนลวดลายแกะสลัก กิโยเช่ อันประณีตตรงใจกลางนั้นแสดงให้เห็นถึงความพิถีพิถันและฝีมือ หน้าปัดซึ่งยึดด้วยสกรูว์สีน้ำเงินสามตัวนั้นก็มีที่มาจากบรรดานาฬิการุ่นประวัติศาสตร์ซึ่งออกแบบโดย Breguet เมื่อหลายศตวรรษมาแล้ว
ความโปร่งใส มีมิติ และ โล่งตา ก่อให้เกิดมาตรฐานความงามอันไร้ที่ติซึ่งนำชีวิตชีวามาสู่กลไกทุกชิ้นของนาฬิกาเรือนนี้ กระจกขอบมนเผยให้เห็นขอบตัวเรือนด้านในได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น การตกแต่งพื้นผิวบางส่วนเป็นลายบุบโดยสุดยอดช่างฝีมือซึ่งหาตัวจับยากนั้นก็ช่วยเสริมให้นาฬิกามีสัมผัสแห่งความร่วมสมัย ในขณะที่แถบโค้งบนหน้าปัดแต่ละข้างในลักษณะสมมาตรนั้นเป็นตัวปรับสมดุลของมิติสายตาได้เป็นอย่างดี พูดได้ว่านาฬิกาเรือนนี้เหมาะที่จะเป็นตัวแทนแห่งคอลเลคชั่นปฏิวัติอันรวมไว้ซึ่งภูมิปัญญาหายากของโลกเวลาก็ว่าได้
ตัวเรือนทองคำ 18 กะรัต พร้อมสายหนังจระเข้ชั้นดี ราคา 6,050,000 บาท
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 02 610-0200
มีวางจำหน่ายที่ Frank’s Watch Boutique สยามพารากอน ชั้น M และ เอมโพเรียม ชั้น G