ทีวีบูรพาปรับทิศเอาตัวรอด ชูกิจกรรม “ซีเอสอาร์” ทำแพกเกจขายโฆษณาง่ายขึ้น แย้มปีหน้าผุดรายการใหม่อีก 2 รายการ ในนามทีวีบูรพาและ บ้านบันดาลใจ สิ้นปีหวังประคองรายได้ 100 ล้านบาทเท่าปีก่อน ส่วนปีหน้าเชื่อสถานการณ์ดีขึ้น ขอโตอีก 10%
นายสุทธิพงษ์ ธรรมวุฒิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทีวีบูรพา จำกัด เปิดเผยว่า แนวโน้มรายได้จากรายการทีวีทั้ง 3 รายการ คือ คนฅ้นคน กบนอกกะลา และคิดข้ามเมฆ ช่วงครึ่งปีหลังน่าจะดีขึ้น หลังจากที่การเมืองเริ่มนิ่ง ขณะที่ช่วงต้นปีไม่ค่อยดีนัก โดยรายได้จากรายการทีวีทั้ง 3 รายการ ในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา คนฅ้นคนเติบโตขึ้น 10% กบนอกกะลาเติบโตได้เกือบ 10%
ส่วนคิดข้ามเมฆเพิ่งออกอากาศได้ไม่นานจึงยังมีรายได้ที่น้อยอยู่ รวมแล้วรายการทีวียังสร้างรายได้อยู่ในสัดส่วนที่ปราณ 85% อีก 10% มาจากบาย โปรดักส์ต่างๆ เช่น หนังสือ และอีก 5% มาจากการรับจ้างผลิตรายการ โดยปีนี้หวังรายได้ทรงตัวเท่าปีก่อนที่ 100 ล้านบาท
โดยในส่วนของการรับจ้างผลิตนั้น ในนามบริษัทในเครือ คือ บ้านบันดาลใจ กำลังผลิตรายการให้กับ สสส. อยู่ 2 รายการ คือ วัยใสหัวใจกระโดดเชือก และนักสื่อสารน้อย ซึ่งบ้านบันดาลใจรับผิดชอบเฉพาะส่วนโปรดักส์ชั่นเท่านั้น ส่วนจะออกอากาศช่องใดนั้น ขึ้นอยู่กับทาง สสส. นอกจากนี้ยังรับจ้างผลิตให้ สสส. อีก 1โปรเจกต์ คือ “ปฏิบัติการเชียงใหม่เอี่ยม”ให้คุณภาพชีวิตดีขึ้นใน 3 ด้าน คือ ขยะ น้ำ และอาหาร ซึ่งจะออกอากาศในช่วงเดือน ต.ค.นี้
นายสุทธิพงษ์ กล่าวต่อว่า แผนการดำเนินธุรกิจในปี2553 ในนามทีวีบูรพา มองว่าจะมีการเพิ่มรายการใหม่อีก 1 รายการ และในนามบ้านบันดาลใจอีก 1 รายการ โดยสนใจรูปแบบรายการประเภทรายการภาคการเกษตร หรือเกษตรพอเพียง รายการเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และรายการที่เกี่ยวข้องกับอาชีพ การงาน ซึ่งมองว่าหากเพิ่มรายการใหม่เข้ามาแล้ว ต้นทุนการผลิตน่าจะเพิ่มอีก 7% ดังนั้นเป้าปีหน้าอย่างน้อยควรที่จะเติบโตที่ 5-10% จาก เป้า 100 ล้านบาทในปีนี้ เพื่อให้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายได้
อย่างไรก็ตาม แผนการทำรายการเพื่อให้อยู่ได้ ส่วนหนึ่งคือเรื่องของการขายโฆษณา ทั้งนี้กระแสกิจกรรมซีเอสอาร์ค่อนข้างแรง ลูกค้าที่ซื้อโฆษณาเรียกร้องให้มีตรงนี้ด้วย ดังนั้นบริษัทจึงได้มีการนำเรื่องกิจกรรมซีเอสอาร์มาเป็นส่วนหนึ่งของรายการด้วย ซึ่งมองว่าช่วยให้การขายโฆษณาง่ายขึ้น แม้ว่ารายได้จากการต่อยอดครั้งนี้จะไม่สูงมาก แต่ช่วยให้การจัดทำแพกเกจการขายโฆษณาง่ายขึ้น
ขณะเดียวกันบริษัทได้มีการรับพนักงานเพิ่มประมาณ 3-4 คน ต่อ หนึ่งรายการ ให้เข้ามาช่วยดูเรื่องกิจกรรมซีเอสอาร์ โดยล่าสุดในรายการกบนอกกะลาได้ร่วมกับทางโมเดิร์นไนน์ทีวี บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.)กระทรวงศึกษาธิการ จัดทำโครงการ “กบจูเนียร์”สรรหาผลงานสารคดีสั้นหรือคลิปวิดีโอของเยาวชนระดับมัธยมศึกษาใน 4 ภูมิภาคทั่วประเทศ ชิงทุนการศึกษารวมกว่า 2 แสนบาทพร้อมเผยแพร่ผลงานในรายการ กบนอกกะลา
นายสุทธิพงษ์ ธรรมวุฒิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทีวีบูรพา จำกัด เปิดเผยว่า แนวโน้มรายได้จากรายการทีวีทั้ง 3 รายการ คือ คนฅ้นคน กบนอกกะลา และคิดข้ามเมฆ ช่วงครึ่งปีหลังน่าจะดีขึ้น หลังจากที่การเมืองเริ่มนิ่ง ขณะที่ช่วงต้นปีไม่ค่อยดีนัก โดยรายได้จากรายการทีวีทั้ง 3 รายการ ในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา คนฅ้นคนเติบโตขึ้น 10% กบนอกกะลาเติบโตได้เกือบ 10%
ส่วนคิดข้ามเมฆเพิ่งออกอากาศได้ไม่นานจึงยังมีรายได้ที่น้อยอยู่ รวมแล้วรายการทีวียังสร้างรายได้อยู่ในสัดส่วนที่ปราณ 85% อีก 10% มาจากบาย โปรดักส์ต่างๆ เช่น หนังสือ และอีก 5% มาจากการรับจ้างผลิตรายการ โดยปีนี้หวังรายได้ทรงตัวเท่าปีก่อนที่ 100 ล้านบาท
โดยในส่วนของการรับจ้างผลิตนั้น ในนามบริษัทในเครือ คือ บ้านบันดาลใจ กำลังผลิตรายการให้กับ สสส. อยู่ 2 รายการ คือ วัยใสหัวใจกระโดดเชือก และนักสื่อสารน้อย ซึ่งบ้านบันดาลใจรับผิดชอบเฉพาะส่วนโปรดักส์ชั่นเท่านั้น ส่วนจะออกอากาศช่องใดนั้น ขึ้นอยู่กับทาง สสส. นอกจากนี้ยังรับจ้างผลิตให้ สสส. อีก 1โปรเจกต์ คือ “ปฏิบัติการเชียงใหม่เอี่ยม”ให้คุณภาพชีวิตดีขึ้นใน 3 ด้าน คือ ขยะ น้ำ และอาหาร ซึ่งจะออกอากาศในช่วงเดือน ต.ค.นี้
นายสุทธิพงษ์ กล่าวต่อว่า แผนการดำเนินธุรกิจในปี2553 ในนามทีวีบูรพา มองว่าจะมีการเพิ่มรายการใหม่อีก 1 รายการ และในนามบ้านบันดาลใจอีก 1 รายการ โดยสนใจรูปแบบรายการประเภทรายการภาคการเกษตร หรือเกษตรพอเพียง รายการเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และรายการที่เกี่ยวข้องกับอาชีพ การงาน ซึ่งมองว่าหากเพิ่มรายการใหม่เข้ามาแล้ว ต้นทุนการผลิตน่าจะเพิ่มอีก 7% ดังนั้นเป้าปีหน้าอย่างน้อยควรที่จะเติบโตที่ 5-10% จาก เป้า 100 ล้านบาทในปีนี้ เพื่อให้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายได้
อย่างไรก็ตาม แผนการทำรายการเพื่อให้อยู่ได้ ส่วนหนึ่งคือเรื่องของการขายโฆษณา ทั้งนี้กระแสกิจกรรมซีเอสอาร์ค่อนข้างแรง ลูกค้าที่ซื้อโฆษณาเรียกร้องให้มีตรงนี้ด้วย ดังนั้นบริษัทจึงได้มีการนำเรื่องกิจกรรมซีเอสอาร์มาเป็นส่วนหนึ่งของรายการด้วย ซึ่งมองว่าช่วยให้การขายโฆษณาง่ายขึ้น แม้ว่ารายได้จากการต่อยอดครั้งนี้จะไม่สูงมาก แต่ช่วยให้การจัดทำแพกเกจการขายโฆษณาง่ายขึ้น
ขณะเดียวกันบริษัทได้มีการรับพนักงานเพิ่มประมาณ 3-4 คน ต่อ หนึ่งรายการ ให้เข้ามาช่วยดูเรื่องกิจกรรมซีเอสอาร์ โดยล่าสุดในรายการกบนอกกะลาได้ร่วมกับทางโมเดิร์นไนน์ทีวี บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.)กระทรวงศึกษาธิการ จัดทำโครงการ “กบจูเนียร์”สรรหาผลงานสารคดีสั้นหรือคลิปวิดีโอของเยาวชนระดับมัธยมศึกษาใน 4 ภูมิภาคทั่วประเทศ ชิงทุนการศึกษารวมกว่า 2 แสนบาทพร้อมเผยแพร่ผลงานในรายการ กบนอกกะลา