เที่ยวภาคกลางถูกดีมีจริงตอบโจทย์ดึงกำลังซื้อ
ปาฏิหาริย์ที่จะดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าประเทศไทยในปีนี้ให้ได้ 14 ล้านคน ตามคำประกาศของ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ คงเป็นจริงได้ยากหากสถานการณ์การเมืองของประเทศไทยยังคุกรุ่นอยู่ตลอดเวลา กระแสข่าวการนัดชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดง และการประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคงของภาครัฐ ยิ่งตอกย้ำให้นักท่องเที่ยว และเอเยนต์ทัวร์ที่เฝ้ามองประเทศไทยอย่างใกล้ชิด เกิดความลังเลที่จะเดินทางเข้ามาเที่ยวประเทศไทยในไฮซีซันปลายปีนี้
****หวังคนไทยฟื้นท่องเที่ยว***
นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.กระทรวงการคลัง กล่าวว่า 12 เดือนที่ผ่านมา ประเทศไทยเผชิญกับอุปสรรคมากมายที่เข้ามากระทบต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยว ทั้งภาวะเศรษฐกิจโลกและสถานการณ์ทางการเมืองภายในประเทศ ทำให้รัฐบาลต้องหันมาให้ความสำคัญกับการกระตุ้นตลาดคนไทยให้เดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ เพราะเป็นหนทางเดียวที่จะทำให้รัฐบาลบรรลุวัตถุประสงค์ของการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในคราวนี้ได้ คำพูดดังกล่าวสะท้อนได้ชัดเจนว่าปลายปีนี้คงไม่มีปาฎิหารย์ให้เราเห็น มีแต่คนไทยเท่านั้นที่จะช่วยกู้วิกฤตครั้งนี้ได้
ในเวลานี้ตลาดคนไทย คือ เป้าหมายหลัก และเป็นความหวังสุดท้าย ของการกระตุ้นการจับจ่ายให้เกิดมีขึ้น โดยรัฐบาลหวังให้ท่องเที่ยวเป็นฟันเฟืองหลักของการกระจายเม็ดเงินหมุนเวียนภายในประเทศ
***กระหน่ำเปิดตัวหนังสือคู่มือท่องเที่ยว*****
การสร้างกระแสให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ ปัจจัยสำคัญคือการนำเสนอแหล่งท่องเที่ยวพร้อมกิจกรรม เพื่อจูงใจให้เกิดการเดินทาง ซึ่งเห็นได้ว่าในปีนี้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) มีการจัดกิจกรรมน้อยใหญ่กว่า 300 กิจกรรมตลอดทั้งปีกระจายอยู่ทุกจังหวัดทั่วประเทศ อาทิ เทศกาลแห่เทียนพรรษา เทศกาลแข่งเรือ ประเพณีผีตาโขน งานบุญบั้งไฟ เทศกาลเย็นทั่วหล้ามหาสงกรานต์ เป็นต้น
นอกจากนั้น ยังทยอยเปิดตัวหนังสือคู่มือเดินทางท่องเที่ยวในรูปแบบต่างๆ ให้นักท่องเที่ยวได้เลือกตามสไตล์ของตัวเอง เช่น หนังสือคู่มือบินไป บินกลับขับรถเที่ยว, คู่มือเส้นทางท่องเที่ยว 12 เดือน 7 ดาว 9 ตะวัน และล่าสุด หนังสือคู่มือเดินทาง “เที่ยวภาคกลาง ถูก ดี มีจริง”
ในแต่ละคู่มือการเดินทางท่องเที่ยวนั้น ททท.ได้นำเสนอทั้งรูปแบบเดินทางท่องเที่ยวเอง หรือให้บริษัทนำเที่ยวนำไปต่อยอด จัดเป็นแพกเกจทัวร์ จำหน่ายให้แก่ผู้ที่สนใจเดินทางในแต่ละเส้นทาง
**ถูกดีมีจริงตอบโจทย์คนไทย****
จุดเด่นของคู่มือ”เที่ยวภาคกลาง ถูก ดี มีจริง “คือ เรื่องของค่าใช้จ่ายของการเดินทางแต่ละทริปสามารถควบคุมได้ในราคา 800-2,000 บาทต่อคน หากเดินทางตามคู่มือ เห็นตัวเลขค่าใช้จ่ายแล้ว แน่นอนว่า อดไม่ได้ที่จะต้องพลิกดูรายละเอียดที่ ททท.ได้นำเสนอไว้ในหนังสือคู่มือเล่มนี้ ซึ่งจะนำแหล่งท่องเที่ยวใน 22 จังหวัดภาคกลาง รวม 38 เส้นทาง เช่น ฉะเชิงเทรา นครนายก ปราจีนบุรี สิงห์บุรี หัวหิน สุพรรณบุรี อยุธยา กาญจนบุรี เป็นต้น เหมาะกับสภาพเศรษฐกิจได้เป็นอย่างดี เพราะหากจะชวนคนไทยเที่ยวให้ได้ทั้งประเทศแล้ว ราคาถือเป็นเรื่องสำคัญที่จะเข้ามาจูงใจให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวได้มากที่สุดในภาวะเศรษฐกิจที่ยังลุ่มๆดอนๆ เช่นนี้
ปกติแล้วคนไทยจะรู้จักแหล่งท่องเที่ยวภาคกลางน้อยมาก ซึ่งคู่มือเล่มนี้จะเป็นไกด์บุ๊คท่องเที่ยวภาคกลางได้ตลอดทั้งปีแบบสบายกระเป๋า เพราะมีให้เลือกถึง 38 เส้นทางทั้งแบบเช้าไปเย็นกลับ หรือเลือกที่จะพักแบบ 1 คืน หรือ 2 คืน ก็มีนำเสนอไว้พร้อมสรรพ มีแผนที่บอกเส้นทางทำให้การเลือกขับรถเดินทางเองมีความสะดวกสบายขึ้น มีการนำเสนอร้านอาหาร และ ร้านของที่ระลึก โรงแรมที่พัก
**จับตารายได้ในประเทศเบียดแซงต่างประเทศ****
หลายวิกฤตที่เกิดขึ้นและกระทบต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยว เป็นการตอกย้ำได้ชัดเจนว่าการสนับสนุนให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ เป็นสิ่งสำคัญ จะเห็นได้ว่า ระยะ 1-2 ปีที่ผ่านมา การกำหนดรายได้ท่องเที่ยว ตลาดในประเทศเริ่มจะไล่ทันรายได้จากตลาดต่างประเทศแล้ว อย่างปี 2552 หากไม่ได้นักท่องเที่ยว 14 ล้านคนตามที่หวัง รายได้ก็คงไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้จะได้ 5 แสนล้านบาทแน่นอน
ขณะที่ตลาดในประเทศ ที่ ททท.ตั้งไว้ว่า จะเกิดการเดินทางท่องเที่ยวกว่า 87 ล้านคนครั้ง สร้างรายได้หมุนเวียนในประเทศ 4 แสนล้านบาท แม้จะไม่ใช่เงินตราต่างประเทศ แต่ก็ทำให้เศรษฐกิจเกิดการหมุนเวียน ซึ่งหากการเมืองของประเทศยังไม่จบสิ้น รายได้จากตลาดในประเทศอาจเบียดแซงรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างประเทศในเร็วๆ นี้ ก็อาจเป็นได้ เพราะปี 2553 ททท.ตั้งเป้ารายได้จากตลาดในประเทศไว้ที่ 4.3 แสนล้านบาท ต่างประเทศ 5.3 แสนล้านบาท
ปาฏิหาริย์ที่จะดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าประเทศไทยในปีนี้ให้ได้ 14 ล้านคน ตามคำประกาศของ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ คงเป็นจริงได้ยากหากสถานการณ์การเมืองของประเทศไทยยังคุกรุ่นอยู่ตลอดเวลา กระแสข่าวการนัดชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดง และการประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคงของภาครัฐ ยิ่งตอกย้ำให้นักท่องเที่ยว และเอเยนต์ทัวร์ที่เฝ้ามองประเทศไทยอย่างใกล้ชิด เกิดความลังเลที่จะเดินทางเข้ามาเที่ยวประเทศไทยในไฮซีซันปลายปีนี้
****หวังคนไทยฟื้นท่องเที่ยว***
นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.กระทรวงการคลัง กล่าวว่า 12 เดือนที่ผ่านมา ประเทศไทยเผชิญกับอุปสรรคมากมายที่เข้ามากระทบต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยว ทั้งภาวะเศรษฐกิจโลกและสถานการณ์ทางการเมืองภายในประเทศ ทำให้รัฐบาลต้องหันมาให้ความสำคัญกับการกระตุ้นตลาดคนไทยให้เดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ เพราะเป็นหนทางเดียวที่จะทำให้รัฐบาลบรรลุวัตถุประสงค์ของการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในคราวนี้ได้ คำพูดดังกล่าวสะท้อนได้ชัดเจนว่าปลายปีนี้คงไม่มีปาฎิหารย์ให้เราเห็น มีแต่คนไทยเท่านั้นที่จะช่วยกู้วิกฤตครั้งนี้ได้
ในเวลานี้ตลาดคนไทย คือ เป้าหมายหลัก และเป็นความหวังสุดท้าย ของการกระตุ้นการจับจ่ายให้เกิดมีขึ้น โดยรัฐบาลหวังให้ท่องเที่ยวเป็นฟันเฟืองหลักของการกระจายเม็ดเงินหมุนเวียนภายในประเทศ
***กระหน่ำเปิดตัวหนังสือคู่มือท่องเที่ยว*****
การสร้างกระแสให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ ปัจจัยสำคัญคือการนำเสนอแหล่งท่องเที่ยวพร้อมกิจกรรม เพื่อจูงใจให้เกิดการเดินทาง ซึ่งเห็นได้ว่าในปีนี้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) มีการจัดกิจกรรมน้อยใหญ่กว่า 300 กิจกรรมตลอดทั้งปีกระจายอยู่ทุกจังหวัดทั่วประเทศ อาทิ เทศกาลแห่เทียนพรรษา เทศกาลแข่งเรือ ประเพณีผีตาโขน งานบุญบั้งไฟ เทศกาลเย็นทั่วหล้ามหาสงกรานต์ เป็นต้น
นอกจากนั้น ยังทยอยเปิดตัวหนังสือคู่มือเดินทางท่องเที่ยวในรูปแบบต่างๆ ให้นักท่องเที่ยวได้เลือกตามสไตล์ของตัวเอง เช่น หนังสือคู่มือบินไป บินกลับขับรถเที่ยว, คู่มือเส้นทางท่องเที่ยว 12 เดือน 7 ดาว 9 ตะวัน และล่าสุด หนังสือคู่มือเดินทาง “เที่ยวภาคกลาง ถูก ดี มีจริง”
ในแต่ละคู่มือการเดินทางท่องเที่ยวนั้น ททท.ได้นำเสนอทั้งรูปแบบเดินทางท่องเที่ยวเอง หรือให้บริษัทนำเที่ยวนำไปต่อยอด จัดเป็นแพกเกจทัวร์ จำหน่ายให้แก่ผู้ที่สนใจเดินทางในแต่ละเส้นทาง
**ถูกดีมีจริงตอบโจทย์คนไทย****
จุดเด่นของคู่มือ”เที่ยวภาคกลาง ถูก ดี มีจริง “คือ เรื่องของค่าใช้จ่ายของการเดินทางแต่ละทริปสามารถควบคุมได้ในราคา 800-2,000 บาทต่อคน หากเดินทางตามคู่มือ เห็นตัวเลขค่าใช้จ่ายแล้ว แน่นอนว่า อดไม่ได้ที่จะต้องพลิกดูรายละเอียดที่ ททท.ได้นำเสนอไว้ในหนังสือคู่มือเล่มนี้ ซึ่งจะนำแหล่งท่องเที่ยวใน 22 จังหวัดภาคกลาง รวม 38 เส้นทาง เช่น ฉะเชิงเทรา นครนายก ปราจีนบุรี สิงห์บุรี หัวหิน สุพรรณบุรี อยุธยา กาญจนบุรี เป็นต้น เหมาะกับสภาพเศรษฐกิจได้เป็นอย่างดี เพราะหากจะชวนคนไทยเที่ยวให้ได้ทั้งประเทศแล้ว ราคาถือเป็นเรื่องสำคัญที่จะเข้ามาจูงใจให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวได้มากที่สุดในภาวะเศรษฐกิจที่ยังลุ่มๆดอนๆ เช่นนี้
ปกติแล้วคนไทยจะรู้จักแหล่งท่องเที่ยวภาคกลางน้อยมาก ซึ่งคู่มือเล่มนี้จะเป็นไกด์บุ๊คท่องเที่ยวภาคกลางได้ตลอดทั้งปีแบบสบายกระเป๋า เพราะมีให้เลือกถึง 38 เส้นทางทั้งแบบเช้าไปเย็นกลับ หรือเลือกที่จะพักแบบ 1 คืน หรือ 2 คืน ก็มีนำเสนอไว้พร้อมสรรพ มีแผนที่บอกเส้นทางทำให้การเลือกขับรถเดินทางเองมีความสะดวกสบายขึ้น มีการนำเสนอร้านอาหาร และ ร้านของที่ระลึก โรงแรมที่พัก
**จับตารายได้ในประเทศเบียดแซงต่างประเทศ****
หลายวิกฤตที่เกิดขึ้นและกระทบต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยว เป็นการตอกย้ำได้ชัดเจนว่าการสนับสนุนให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ เป็นสิ่งสำคัญ จะเห็นได้ว่า ระยะ 1-2 ปีที่ผ่านมา การกำหนดรายได้ท่องเที่ยว ตลาดในประเทศเริ่มจะไล่ทันรายได้จากตลาดต่างประเทศแล้ว อย่างปี 2552 หากไม่ได้นักท่องเที่ยว 14 ล้านคนตามที่หวัง รายได้ก็คงไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้จะได้ 5 แสนล้านบาทแน่นอน
ขณะที่ตลาดในประเทศ ที่ ททท.ตั้งไว้ว่า จะเกิดการเดินทางท่องเที่ยวกว่า 87 ล้านคนครั้ง สร้างรายได้หมุนเวียนในประเทศ 4 แสนล้านบาท แม้จะไม่ใช่เงินตราต่างประเทศ แต่ก็ทำให้เศรษฐกิจเกิดการหมุนเวียน ซึ่งหากการเมืองของประเทศยังไม่จบสิ้น รายได้จากตลาดในประเทศอาจเบียดแซงรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างประเทศในเร็วๆ นี้ ก็อาจเป็นได้ เพราะปี 2553 ททท.ตั้งเป้ารายได้จากตลาดในประเทศไว้ที่ 4.3 แสนล้านบาท ต่างประเทศ 5.3 แสนล้านบาท
