ฟิทช์ ชี้ การฟื้นตัวของ ศก.ไทย ปลายปีนี้ ขึ้นอยู่กับปัจจัยการเมือง เพราะภาวะถดถอยของเอเชียผ่านไปแล้ว ประธานสภาหอการค้า หวั่นการเมืองยืดเยื้อ อาจส่งผลต่อการค้า-การลงทุน ชี้ พ.ร.บ.ความมั่นคง ไม่จำเป็น หากคนไทยสามัคคี
สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ ฟิทช์ เรทติ้งส์ เปิดเผยคาดการณ์ภาวะเศรษฐกิจไทย โดยประเมินว่า แนวโน้มอาจหดตัวประมาณ 3.1% ในปีนี้ ซึ่งแม้ว่าภาวะถดถอยในภาคการส่งออกของเอเชียได้ผ่านพ้นไปแล้ว แต่คาดว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยอาจได้รับผลกระทบจากวิกฤตการณ์การเมือง
นายเจมส์ แมคคอร์แมค ผู้อำนวยการฝ่ายจัดอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกของฟิชท์ กล่าวในวันนี้ โดยระบุว่า ฟิทช์ประเมินว่าสถานการณ์ทางการเมืองยังไม่คลี่คลายอย่างสมบูรณ์ เราจึงมองว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยจึงยังคงขึ้นอยู่กับปัญหาทางการเมืองภายในประเทศ
นายดุสิต นนทะนาคร ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาล มีแนวโน้มประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง ต่อไปว่า ถ้าคนในประเทศโดยเฉพาะประชาชนมีความสามัคคี เชื่อว่าการประกาศ พ.ร.บ.ดังกล่าวก็ไม่จำเป็น เพราะขณะนี้ต้องยอมรับว่าเศรษฐกิจไทยเปราะบาง หากเกิดความวุ่นวายทางการเมืองจะทำให้นักลงทุนขาดความเชื่อมั่นที่จะเข้ามาลงทุนรวมถึงการค้า
ดังนั้น ถ้าคนไทยมีความสามัคคีก็ไม่จำเป็นต้องชี้แจงนักลงทุน ซึ่งทุกประเทศมีกฎหมายดูแลด้านความมั่นคง แต่ขึ้นอยู่กับความรักและความสามัคคีของคนในชาติ