กรุงเทพโพลล์ เผย คนกรุง 48% ห่วงสถานการณ์บ้านเมือง-ไม่ไว้วางใจม็อบเสื้อแดง แต่เชื่อรัฐคุมสถานการณ์ได้ หวั่นการใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง กระทบ ศก.-การลงทุน เชื่อมีกลุ่มฉวยโอกาสสร้างสถานการณ์ จนท.รัฐใช้อำนาจเกินขอบเขต ลิดรอนสิทธิเสรีภาพของประชาชน พร้อมระบุ สิ่งที่ต้องการให้ “มาร์ค” ทำมากที่สุดในตอนนี้ คือ เดินหน้าแก้ปัญหา ศก.และปากท้องประชาชน ยุบสภา แก้ปัญหาทุจริตคอร์รัปชัน-ความขัดแย้งในรัฐบาล และแก้เกม “พ.ต.ท.ทักษิณ-กลุ่ม นปช.”
ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ (กรุงเทพโพลล์) เผยผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนในเขต กรุงเทพฯ จำนวน 1,027 คน เมื่อวันที่ 26-27 สิงหาคม 2552 เกี่ยวกับ พ.ร.บ.ความมั่นคง กับการชุมนุมของกลุ่ม นปช.ที่รัฐบาลประกาศใช้ พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงในราชอาณาจักรในพื้นที่เขตดุสิต ระหว่างวันที่ 29 สิงหาคม 2552 ถึงวันที่ 1 กันยายน 2552 ที่กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) จะจัดชุมนุมใหญ่ในวันที่ 30 สิงหาคม 2552
โดยผลสำรวจความรู้สึกต่อสถานการณ์ทางการเมืองไทยในปัจจุบัน พบว่า 48.4% มีความเป็นห่วงมาก รองลงมา มีความเป็นห่วงค่อนข้างมาก มีเพียง 4% ที่มองสถานการณ์ไม่น่าเป็นห่วงเลย และเมื่อเปรียบเทียบผลดีและผลเสียจากการที่รัฐบาลประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง ในพื้นที่เขตดุสิต ในช่วงการชุมนุมของกลุ่ม นปช.ส่วนใหญ่ 40.5% ไม่แน่ใจ แต่ ความเห็น 37.8% เชื่อว่า จะส่งผลเสียมากกว่า และ 21.7% เชื่อว่า จะส่งผลดีมากกว่า
ส่วนเรื่องที่ประชาชนเป็นห่วงมากที่สุดจากการนัดชุมนุมของกลุ่ม นปช.และการประกาศใช้ พ.ร.บ. ความมั่นคง ในครั้งนี้ คือ ผลกระทบต่อเศรษฐกิจและการลงทุนของไทย การฉวยโอกาสสร้างสถานการณ์โดยผู้ไม่หวังดี การจราจรติดขัด การใช้อำนาจเกินขอบเขตของเจ้าหน้าที่ผู้ควบคุม และอื่นๆ อาทิ การลิดรอนสิทธิเสรีภาพของประชาชน และการเสียเลือดเนื้อของคนไทยด้วยกัน
ขณะที่ความเชื่อมั่นต่อความสามารถของรัฐบาล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการควบคุมสถานการณ์ การชุมนุมของกลุ่ม นปช.ไม่ให้ยืดเยื้อบานปลาย ส่วนใหญ่ 35.8% เชื่อว่า จะสามารถควบคุมได้ แต่อีก 31.7% ไม่เชื่อว่าจะสามารถควบคุมได้ และไม่แน่ใจ 32.5%
สิ่งที่ต้องการให้นายกรัฐมนตรี ทำมากที่สุดในขณะนี้ คือ เดินหน้าแก้ปัญหาเศรษฐกิจและปากท้องของประชาชน ยุบสภา แก้ปัญหาความขัดแย้งในรัฐบาล แก้ปัญหาการทุจริตคอร์รัปชัน แก้เกม พ.ต.ท.ทักษิณ และกลุ่ม นปช.ปรับคณะรัฐมนตรี และ อื่นๆ เช่น สร้างความสามัคคีของคนในชาติ แก้ปัญหาภาคใต้ แก้ปัญหาเยาวชน
สำหรับความเชื่อมั่นเกี่ยวกับระยะเวลาในการอยู่บริหารประเทศของรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ ส่วนใหญ่ 58.2% เชื่อว่า รัฐบาลจะอยู่ได้เกิน 1 ปี (แต่เมื่อเปรียบเทียบกับผลสำรวจเมื่อเดือน มิถุนายน 2552 พบว่า ความเชื่อมั่นว่ารัฐบาลจะอยู่ได้เกิน 1 ปี ลดลง 6.3%) ส่วน 48.8% เชื่อว่า รัฐบาลจะอยู่ไม่ครบ 1 ปี เนื่องจากผลงานไม่เป็นที่ยอมรับของประชาชน ความขัดแย้งกับพรรคร่วมรัฐบาล ความขัดแย้งภายในพรรคประชาธิปัตย์ การชุมนุมเคลื่อนไหวของกลุ่ม นปช.ปัญหาการทุจริตคอร์รัปชัน และ อื่นๆ เช่น นายกฯ ไม่เด็ดขาด
