ยักษ์ใหญ่ ‘โตโยต้า’ ไม่รอคำตอบรัฐบาลเรื่องลดภาษีนำเข้าชิ้นส่วน “คัมรี่ ไฮบริด” เดินหน้าขายพร้อมเปิดราคาบี้คู่แข่งทั้งฮอนด้า แอคคอร์ด และนิสสัน เทียน่า เริ่มต้น 1.599-1.779 ล้านบาท แพงกว่าเบนซินปกติรุ่นเดิม 70,000 – 100,000 บาท ตั้งเป้า 5 เดือนฟัน 4,000 คัน
วานนี้ (27 ก.ค.) บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดตัวรถยนต์นั่งขนาดกลางรุ่นใหม่ คัมรี่ ไฮบริด อย่างเป็นทางการ หลังปูพรมโฆษณาประชาสัมพันธ์ก่อนหน้า 2-3 เดือน ทั้งนี้ไทยยังถือเป็นประเทศแรกในเอเชีย ที่ขึ้นไลน์การผลิตรถยนต์ไฮบริดของโตโยต้านอกเหนือจากประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย
นายเคียวอิจิ ทานาดะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด หรือ“ทีเอ็มที” เปิดเผยว่า ที่ผ่านมา 47 ปีของทีเอ็มที มีระดับผลการดำเนินงานเทียบเท่ากับ โตโยต้า อเมริกา และถือเป็นฐานการผลิตรถยนต์ที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของโตโยต้า ดังนั้นการที่ โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ป ประเทศญี่ปุ่น จะเลือกให้ไทยผลิตรถยนต์ไฮบริด เป็นประเทศแรกในเอเชีย หรือขึ้นไลน์ผลิตคัมรี่ ไฮบริด พร้อมทำตลาดเป็นประเทศที่สามของโลกจึงไม่ใช่เรื่องแปลก
สำหรับ คัมรี ไฮบริด เป็นรถยนต์ลูกผสม ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า ซึ่งจะผสานการทำงานให้รถประหยัดน้ำมัน พร้อมลดการปล่อยไอเสียเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม และด้วยคุณสมบัติดังกล่าว บริษัทมั่นใจว่า คัมรี ไฮบริด จะเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์หลัก ที่จะเข้ามากระตุ้นตลาดรถยนต์นั่งขนาดกลาง โดยบริษัทตั้งเป้าหมายการขายตั้งแต่ช่วงเดือนสิงหาคม ไปจนถึงเดือนธันวาคมไว้ประมาณ 4,000 คัน
“คัมรี่ ไฮบริดจะลงโชว์รูม ทั่วประเทศ พร้อมส่งมอบได้ตั้งแต่ 7 สิงหาคมเป็นต้นไป และในปัจจุบันมียอดจองเกือบๆ 1,000 คันแล้ว ทั้งนี้หลังการเปิดตัว มีราคาอย่างเป็นทางการ คาดว่าจะได้การตอบรับที่ดี และทำให้ลูกค้าตัดสินใจได้ง่ายขึ้น อย่างไรก็ตามราคานี้จะเป็นราคาช่วงแนะนำไปจนถึงสิ้นปี 2552 เท่านั้น ซึ่งในปีหน้าอาจต้องมีการปรับเพิ่มราคา”นายทานาดะ กล่าว
คัมรี่ ไฮบริด แบ่งเป็น 3 รุ่นย่อย โดยราคาในรุ่น HV เล่น CD 6 แผ่น เปิดที่ 1.599 ล้านบาท แพงกว่ารุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 2.4V เดิม 7 หมื่นบาท (1.529 ล้านบาท) ขณะที่รุ่น HV DVD 1.659 ล้านบาท แพงกว่าเดิม 9 หมื่นบาท และรุ่นท็อป HV DVD Navigator 1.779 ล้านบาท ราคาสูงกว่าเดิม 1.679 ล้านบาท
อย่างไรก็ตามราคาที่เปิดมาถือว่าค่อนข้างประหลาดใจ เพราะก่อนหน้านี้ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด กำลังอยู่ระหว่างการเจรจากับกระทรวงการคลัง เพื่อขอลดภาษีนำเข้าชิ้นส่วนอีก 7 รายการ ให้ลดลงเหลือ 0% จากเดิมที่เก็บ 20-30% และจนถึงวันที่เปิดตัวรถวานนี้ยังไม่มีข้อสรุปจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ในประเด็นนี้นายวุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทยังไม่ได้คำตอบจากรัฐบาลว่า จะได้ลดภาษีชิ้นส่วนอีก 7 รายการที่ไม่สามารถผลิตในประเทศได้หรือไม่ แต่ในเมื่อถึงเวลาต้องเปิดตัวรถยนต์ บริษัทก็ต้องแจ้งราคาให้ลูกค้าทราบ
“ราคาดังกล่าว เราได้คิดเผื่อการที่รัฐบาลจะลดภาษีชิ้นส่วนให้ไปแล้ว แต่ไม่ว่าจะได้ลดภาษีหรือไม่ ก็จะขายราคานี้ไปถึงสิ้นปี ซึ่งเราไม่ถือว่าการตั้งราคาขายช่วงนี้เป็นการแบกภาระ แต่ในเมื่อเราแสดงเจตนาชัดเจนแล้ว รัฐบาลน่าจะต้องให้การสนันสนุน”
นายวุฒิกร กล่าวว่า ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา คัมรี่ ทุกรุ่นขายเฉลี่ย 400-500 คัน แต่หลังการเปิดตัวคัมรี่ ไฮบริด และการไมเนอร์เชนจ์รุ่นเครื่องยนต์เบนซินปกติแล้ว จะได้การตอบรับเป็นอย่างดี โดยบริษัทตั้งเป้าผลิตรวมทุกรุ่นไว้ 1,300 คันต่อเดือน และในจำนวนนี้เป็น คัมรี่ ไฮบริดถึง 900 คัน
“คัมรี ไฮบริด มาพร้อมแนวคิด “Intelligent Leader” เน้นกลุ่มลูกค้าที่นำสมัย หรือกลุ่มที่เคยใช้ รถยนต์ขนาดใหญ่หรือพวกรถยุโรป ขณะเดียวกันยังเจาะฐานลูกค้าคัมรี่เก่า รวมถึงการขายล็อตใหญ่ (Fleet) ซึ่งจากแผนงานทำหมดจะทำให้เรารักษาความเป็นผู้นำในเซกเมนท์รถยนต์นั่นขนาดกลางต่อไป” วุฒิกร กล่าวสรุป
วานนี้ (27 ก.ค.) บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดตัวรถยนต์นั่งขนาดกลางรุ่นใหม่ คัมรี่ ไฮบริด อย่างเป็นทางการ หลังปูพรมโฆษณาประชาสัมพันธ์ก่อนหน้า 2-3 เดือน ทั้งนี้ไทยยังถือเป็นประเทศแรกในเอเชีย ที่ขึ้นไลน์การผลิตรถยนต์ไฮบริดของโตโยต้านอกเหนือจากประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย
นายเคียวอิจิ ทานาดะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด หรือ“ทีเอ็มที” เปิดเผยว่า ที่ผ่านมา 47 ปีของทีเอ็มที มีระดับผลการดำเนินงานเทียบเท่ากับ โตโยต้า อเมริกา และถือเป็นฐานการผลิตรถยนต์ที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของโตโยต้า ดังนั้นการที่ โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ป ประเทศญี่ปุ่น จะเลือกให้ไทยผลิตรถยนต์ไฮบริด เป็นประเทศแรกในเอเชีย หรือขึ้นไลน์ผลิตคัมรี่ ไฮบริด พร้อมทำตลาดเป็นประเทศที่สามของโลกจึงไม่ใช่เรื่องแปลก
สำหรับ คัมรี ไฮบริด เป็นรถยนต์ลูกผสม ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า ซึ่งจะผสานการทำงานให้รถประหยัดน้ำมัน พร้อมลดการปล่อยไอเสียเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม และด้วยคุณสมบัติดังกล่าว บริษัทมั่นใจว่า คัมรี ไฮบริด จะเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์หลัก ที่จะเข้ามากระตุ้นตลาดรถยนต์นั่งขนาดกลาง โดยบริษัทตั้งเป้าหมายการขายตั้งแต่ช่วงเดือนสิงหาคม ไปจนถึงเดือนธันวาคมไว้ประมาณ 4,000 คัน
“คัมรี่ ไฮบริดจะลงโชว์รูม ทั่วประเทศ พร้อมส่งมอบได้ตั้งแต่ 7 สิงหาคมเป็นต้นไป และในปัจจุบันมียอดจองเกือบๆ 1,000 คันแล้ว ทั้งนี้หลังการเปิดตัว มีราคาอย่างเป็นทางการ คาดว่าจะได้การตอบรับที่ดี และทำให้ลูกค้าตัดสินใจได้ง่ายขึ้น อย่างไรก็ตามราคานี้จะเป็นราคาช่วงแนะนำไปจนถึงสิ้นปี 2552 เท่านั้น ซึ่งในปีหน้าอาจต้องมีการปรับเพิ่มราคา”นายทานาดะ กล่าว
คัมรี่ ไฮบริด แบ่งเป็น 3 รุ่นย่อย โดยราคาในรุ่น HV เล่น CD 6 แผ่น เปิดที่ 1.599 ล้านบาท แพงกว่ารุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 2.4V เดิม 7 หมื่นบาท (1.529 ล้านบาท) ขณะที่รุ่น HV DVD 1.659 ล้านบาท แพงกว่าเดิม 9 หมื่นบาท และรุ่นท็อป HV DVD Navigator 1.779 ล้านบาท ราคาสูงกว่าเดิม 1.679 ล้านบาท
อย่างไรก็ตามราคาที่เปิดมาถือว่าค่อนข้างประหลาดใจ เพราะก่อนหน้านี้ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด กำลังอยู่ระหว่างการเจรจากับกระทรวงการคลัง เพื่อขอลดภาษีนำเข้าชิ้นส่วนอีก 7 รายการ ให้ลดลงเหลือ 0% จากเดิมที่เก็บ 20-30% และจนถึงวันที่เปิดตัวรถวานนี้ยังไม่มีข้อสรุปจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ในประเด็นนี้นายวุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทยังไม่ได้คำตอบจากรัฐบาลว่า จะได้ลดภาษีชิ้นส่วนอีก 7 รายการที่ไม่สามารถผลิตในประเทศได้หรือไม่ แต่ในเมื่อถึงเวลาต้องเปิดตัวรถยนต์ บริษัทก็ต้องแจ้งราคาให้ลูกค้าทราบ
“ราคาดังกล่าว เราได้คิดเผื่อการที่รัฐบาลจะลดภาษีชิ้นส่วนให้ไปแล้ว แต่ไม่ว่าจะได้ลดภาษีหรือไม่ ก็จะขายราคานี้ไปถึงสิ้นปี ซึ่งเราไม่ถือว่าการตั้งราคาขายช่วงนี้เป็นการแบกภาระ แต่ในเมื่อเราแสดงเจตนาชัดเจนแล้ว รัฐบาลน่าจะต้องให้การสนันสนุน”
นายวุฒิกร กล่าวว่า ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา คัมรี่ ทุกรุ่นขายเฉลี่ย 400-500 คัน แต่หลังการเปิดตัวคัมรี่ ไฮบริด และการไมเนอร์เชนจ์รุ่นเครื่องยนต์เบนซินปกติแล้ว จะได้การตอบรับเป็นอย่างดี โดยบริษัทตั้งเป้าผลิตรวมทุกรุ่นไว้ 1,300 คันต่อเดือน และในจำนวนนี้เป็น คัมรี่ ไฮบริดถึง 900 คัน
“คัมรี ไฮบริด มาพร้อมแนวคิด “Intelligent Leader” เน้นกลุ่มลูกค้าที่นำสมัย หรือกลุ่มที่เคยใช้ รถยนต์ขนาดใหญ่หรือพวกรถยุโรป ขณะเดียวกันยังเจาะฐานลูกค้าคัมรี่เก่า รวมถึงการขายล็อตใหญ่ (Fleet) ซึ่งจากแผนงานทำหมดจะทำให้เรารักษาความเป็นผู้นำในเซกเมนท์รถยนต์นั่นขนาดกลางต่อไป” วุฒิกร กล่าวสรุป
