เอดีบีแบงก์ เผยรายงาน ศก.กลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ในเอเชียตะวันออก เริ่มเห็นสัญญาณฟื้นตัวแล้ว พร้อมคาดการขยายตัวเป็นแบบอีกษร “วี” รับแรงหนุนจากมาตรการกระตุ้น ศก.มากกว่าปัจจัยต่างประเทศ “จีน-เกาหลีใต้-อินโดฯ” ยังโตได้ 3% แนวโน้มปี 53 โตได้ถึง 6%
ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (เอดีบี) เปิดเผยในรายงานวันนี้ (23 กรกฎาคม 2552) โดยระบุว่า เศรษฐกิจในกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ในเอเชียตะวันออกเริ่มฟื้นตัวแล้ว โดยคาดว่าลักษณะการขยายตัวจะเป็นลักษณะตัวอักษรรูปตัว V โดยมีตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ขยายตัวขึ้นเพราะได้รับแรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมากกว่าที่จะได้รับปัจจัยบวกจากดีมานด์ในต่างประเทศ
นายจอง หวา ลี หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ ประจำเอดีบี และหัวหน้าสำนักงานบูรณาการทางเศรษฐกิจแห่งภูมิภาค กล่าวว่า มีข่าวดีที่เศรษฐกิจประเทศเอเชียตะวันออกผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว และพบสัญญาณว่ากำลังฟื้นตัวขึ้นจากภาวะถดถอย เนื่องจากตัวเลขการค้าปลีกและคำสั่งซื้อจากภาคอุตสาหกรรมสูงขึ้น โดยประเมินว่าเศรษฐกิจเอเชียจะฟื้นตัวเป็นรูป V โดยปี 2553 อัตราการขยายตัวจะกลับมาเป็นบวกหลังจากถดถอยอย่างแรงในปีนี้ โดยมีประเทศจีนเป็นผู้นำหลังจากใช้นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจได้ผล ทำให้จีดีพีปีหน้าจะโตได้ 8% จากที่ปีนี้โตเพียง 7% ซึ่งต่ำสุดในรอบ 20 ปี
ขณะที่อาเซียน 4 ประเทศ ได้แก่ ไทย อินโดนีเซีย มาเลเซีย และฟิลิปปินส์ จะมีอัตราการเติบโตที่แตกต่างกัน โดยไทยเศรษฐกิจปีนี้จะติดลบร้อยละ 2 ปี 2553 ขยายตัวร้อยละ 3 ซึ่งเป็นการคาดการณ์เมื่อเดือนมีนาคม 2552 และจะมีการปรับคาดการณ์ใหม่เดือนกันยายน 2552 นี้
อย่างไรก็ตาม อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย ถือว่าฟื้นตัวช้ากว่าประเทศอินโดนีเซีย ที่ปี 2553 จะมีอัตราการขยายตัว 5% มาเลเซีย 4.5% และฟิลิปินส์ 3.5% เนื่องจากไทยพึ่งพาการส่งออกในสัดส่วนที่มาก ประกอบกับขนาดของเศรษฐกิจในประเทศน้อยกว่าประเทศอื่นๆ ซึ่งการฟื้นตัวครั้งนี้ ก็จะต้องพึ่งพิงเศรษฐกิจในประเทศเป็นหลัก
นอกจากนี้เอดีบียังมีความเป็นห่วงปัญหาคนยากจน ที่ปัจจุบันตัวเลขอยู่ที่ 60 ล้านคนในเอเชีย และหากปีหน้าเศรษฐกิจไม่ฟื้น จำนวนคนยากคนจนก็จะเพิ่มเป็น 100 ล้านคน พร้อมแนะนำให้ธนาคารกลางในเอเชียเพิ่มมาตรการสกัดกั้นความเสี่ยงต่างๆ ที่จะส่งผลกระทบต่ออัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจด้วย พร้อมระบุว่า เศรษฐกิจในประเทศเอเชียตะวันออก รวมถึงจีน เกาหลีใต้ และอินโดนีเซีย อาจขยายตัวมากกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้ว่าจะขยายตัวเพียง 3% และคาดว่า ในปีหน้าเศรษฐกิจในประเทศกลุ่มนี้จะขยายตัว 6%
“ธนาคารกลางในเอเชียได้ใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นวงเงินรวมกว่า 9.50 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งทำให้เศรษฐกิจของประเทศเหล่านี้รอดพ้นจากผลกระทบของวิกฤตเศรษฐกิจโลกได้ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้อาจทำให้เศรษฐกิจในเอเชียตะวันออก สามารถดีดตัวขึ้นในลักษณะรูปตัว V หรือ วีเชฟได้”
เอดีบียังกล่าวด้วยว่า กลุ่มผู้ส่งออกในเอเชียยังคงพึ่งพาคำสั่งซื้อจากสหรัฐ ญี่ปุ่น และยุโรป อย่างไรก็ตาม เอดีบีคาดว่ายอดส่งออกของเอเชียจะยังคงซบเซา จนกกว่าเศรษฐกิจกลุ่มชาติมหาอำนาจทางเศรษฐกิจจะฟื้นตัวขึ้น โดยคาดว่ายอดส่งออกของจีนจะลดลง แต่อาจจะลดลงในอัตราที่ช้าลงในช่วงครึ่งหลังของปีนี้