ASTVผู้จัดการรายวัน – ผู้เสียหายที่ตกเป็นเหยื่อโจรใส่สูท “ศิวัช ภูธนแสงทอง” ตีแผ่ข้อมูลลูกค้าที่หลงเชื่อสร้างบ้านตั้งแต่ปี 50 เลยมา เสียหายคิดเป็นมูลค่ารวมเกือบ 200 ล้านบาท แฉแหลกพฤติกรรมโคตรโกง ถ่วงเวลาหยุดงานก่อสร้าง บีบลูกค้าบอกเลิกสัญญาเอง แถมเลี่ยงภาษี ล่าสุด สรรพากรไล่บี้เก็บภาษี 2 บริษัทในเครือ ด้านนายกสมาคมรับสร้างบ้านโผล่โดยไม่ได้รับเชิญ ยึดเวทีชี้แจงผู้เดือดร้อน ลูกค้าสวนกลับตั้งสมาคมเพื่ออะไร
หลังจากที่ ASTVผู้จัดการรายวัน ได้เปิดโปงการฉ้อโกงของบริษัทในเครือภูธนแสงทอง ที่มีนายศิวัช ภูธนแสงทอง เป็นเจ้าของธุรกิจในเครือ ล่าสุด วานนี้ (14) เครือข่ายผู้ได้รับความเดือดร้อนจากบริษัทรับสร้างในเครือบริษัท ภูธนแสงทอง ได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าวชี้ให้เห็นถึงพฤติกรรมโคตรโกงของภูธนแสงทอง
นายปัณณ์ อภินันอภิบุตร ตัวแทนเครือข่าย กล่าวถึงพฤติกรรมที่ส่อเจตนาไม่ต้องการปลูกสร้างบ้านลูกค้าให้แล้วเสร็จตามสัญญา ว่า จากข้อมูลที่จัดเก็บจากลูกค้าที่ได้จ้างบริษัทดังกล่าวให้สร้างบ้านให้จำนวน 30 ราย ปัจจุบันไม่มีรายใดที่ได้รับการส่งมอบบ้านจากบริษัทในเครือภูธนแสงทอง แม้บางรายจะทำสัญญาก่อสร้างบ้านมานานกว่า 2 ปีแล้วก็ตาม
ทั้งนี้ จากการเก็บข้อมูลการรับงานของบริษัทดังกล่าวในช่วงปี 2550 ซึ่งบริษัท ภูธนแสงทองยังเป็นสมาชิกในสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน และได้ออกบูทร่วมกับสมาคมในงานมหกรรมรับสร้างบ้านประจำปี 2550 พบว่า มีลูกค้าจองและทำสัญญาสร้างบ้านในงานจำนวน 30 ราย ราคาเฉลี่ยต่อหลัง 3 ล้านบาท คิดเป็นมูลค่ากว่า 90 ล้านบาท นอกจากนี้ ในช่วงที่ผ่านมายังมีการทำสัญญากับลูกค้ารายใหม่เพิ่มอีกจำนวนมาก ทำให้ประมาณการว่าในช่วง 2 ปีที่ผ่านมามีการเซ็นสัญญาก่อสร้างบ้านแล้วไม่ต่ำกว่า 100-200 ล้านบาท ซึ่งในจำนวนนี้ เท่าที่มีการตรวจสอบในระยะ 2 ปี ยังไม่มีลูกค้ารายใด ได้รับมอบบ้านจากทางบริษัทเลยแม้แต่รายเดียว
ถ่วงเวลาหยุดงานก่อสร้าง บีบลูกค้าบอกเลิกสัญญาเอง
นายปัณณ์ กล่าวถึงกลวิธีที่บริษัท ภูธนแสงทอง จะเลี่ยงไม่สร้างบ้านให้เสร็จตามกำหนดว่า จะพยายามถ่วงเวลาการก่อสร้างให้ล่าช้า เพื่อต้องการให้ลูกค้าบอกเลิกสัญญาเอง ซึ่งทางบริษัทจะไม่ต้องรับผิดชอบตามที่ระบุไว้สัญญา ในขณะเดียวกัน ทางบริษัทจะได้เปรียบเรื่องการเงิน เพราะมีการเบิกค่างวดล่วงหน้าอย่างสม่ำเสมอจากผู้เสียหายก่อนจะทิ้งงาน และปล่อยให้ลูกค้าคอยติดตามให้บริษัทเข้ามาก่อสร้างต่อ
นอกจากนี้ การก่อสร้างโครงสร้างต่างๆ โดยส่วนมากจะพยายามก่อสร้างไม่ได้มาตรฐาน ไม่มีวิศวกร หรือโฟร์แมน อยู่ในระหว่างการคุมงาน ทำให้งานก่อสร้างไม่ได้ตามแบบที่ลูกค้าต้องการ สุดท้ายลูกค้าต้องสั่งรื้อหรือทุบโครงสร้าง เพื่อทำการก่อสร้างใหม่ ทำให้ต้องใช้เวลาในการก่อสร้างเพิ่มขึ้น โดยบริษัทจะเสนอให้ลูกค้าปรับแบบเพื่อใช้เป็นข้ออ้างว่า เกิดความล่าช้าจากการปรับแบบการก่อสร้างบ้านใหม่
“กลวิธีในการเร่งลูกค้าตัดสินใจคือ มอบส่วนลดเยอะๆ หากมีการปรับแบบก็จะมอบของแถมต่างๆ ให้ในขณะที่สัญญาต่างๆ ที่ร่างไว้ จะมีช่องโหว่ทางกฎหมาย ทำให้ไม่สามารถเอาผิดกับบริษัทได้”
นอกจากลูกค้าสร้างบ้านแล้ว กลุ่มผู้รับเหมาช่วงก็เป็นอีกกลุ่มที่ได้รับความเดือดร้อน จากการถูกหลอกให้เข้ามารับงานก่อสร้างบ้านให้ลูกค้า แต่ไม่ยออมจ่ายเงินให้แก่ผู้รับเหมาช่วงตามที่มีการตกลงกันไว้ เนื่องจากไม่มีการทำสัญญาร่วมกัน ทำให้ผู้รับเหมาช่วงไม่สามารถเอาผิดได้ เช่นเดียวกับ ผู้จำหน่ายวัสดุก่อสร้าง
เผยกลเม็ดโกงแบบครบวงจร เลี่ยงจ่ายภาษีกรมสรรพากร
นายกิจธนา วังรุ่งเรืองกิจ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอส.ซี เข็มเจาะ แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด กล่าวว่า จากการฉ้อโกงลูกค้าแล้ว บริษัท ภูธนแสงทอง ได้ทำการฉ้อโกงกลุ่มผู้ค้าวัสดุก่อสร้าง โดย นายศิวัช ภูธนแสงทอง กรรมการผู้จัดการบริษัท เพรสซิเด้นท์ โฮม จำกัด (ก่อตั้งบริษัทเมื่อเดือน มี.ค.51) เข้ามาว่าจ้างให้บริษัทของตน เข้าไปตอกเสาเข็มให้แก่ลูกค้า มูลค่า 1.2 ล้านบาท แบ่งจ่ายเช็คออกเป็น 3 งวด โดยเป็นเช็คจริง แต่ไปขึ้นเงินแล้วจะมีคำสั่งอายัดเช็ค ไม่ให้ทางธนาคารจ่ายเงินในภายหลัง ซึ่งปัจจุบันทางบริษัทพยายามถ่วงถามหนี้ แต่ทางบริษัท เพรสซิเด้นท์ฯ ยังคงเลี่ยงที่จะชำระเงินแก่ผู้รับเหมา
การว่าจ้างให้บริษัทตอกเสาเข็มให้บ้านลูกค้านั้น จะเร่งรัดทางผู้รับเหมา เพื่อให้ลูกค้าเกิดความเชื่อมั่นในช่วงแรก เพื่อให้สามารถเบิกเงินค่าก่อสร้างในงวดถัดๆ ไปได้ โดยในระยะแรก จะจ่ายค่าตอกเสาเข็มให้ แต่พอถึงงวดถัดๆไป ทางบริษัทจะเริ่มค้างค่างาน หรือผ่อนผันออกไปจนกว่าจะตอกเสาเข็มให้ลูกค้าครบทุกราย จึงจ่ายเป็นเช็ค เพื่อให้สามารถอายัดเงินไม่จ่ายได้
“ในส่วนของกลุ่มซัปพลายเออร์ ที่ได้รับการเจรจาว่า จะเปลี่ยนเช็คใหม่ให้ หลังจากถูกสั่งอายัดเช็คแล้วหรือทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันแล้ว นายศิวัช จะสั่งจ่ายเช็คให้อีกใบ แต่หากซัปพลายเออร์ไม่สังเกตจะไม่ทราบว่า เช็คดังกล่าวนั้นจะถูกออกโดยพนักงาน หรือมีการแอบอ้างชื่อผู้อื่นเซ็นลายเซ็นกำกับในเช็ค ทำให้ผู้ประกอบการวัสดุก่อสร้างไม่สามารถเอาผิดได้ นอกจากนี้ กลุ่มบริษัท ภูธนแสงทอง ยังมีพฤติกรรมที่จงใจเลี่ยงไม่จ่ายภาษีธุรกิจให้แก่รัฐ โดยในปัจจุบัน กรมสรรพากรอยู่ระหว่างการตามเก็บภาษีจากบริษัท ภูธนแสงทอง และบริษัท ทีพีเอส โฮม จำกัดอยู่” นายกิจธนา กล่าวและชี้ให้เห็นถึงความไร้จรรยาบรรณของนายศิวัช ในฐานะผู้บริหารบริษัท
ปัจจุบัน บริษัทในเครือภูธนแสงทอง ยังไม่ยอมจ่ายเงินเดือนพนักงาน ทำให้พนักงานบริษัทไปแจ้งความดำเนินคดีไว้ ซึ่งล่าสุด นายศิวัช ถูกจับ และดำเนินคดีดังกล่าวเมื่อวันที่ 4 เม.ย.ที่ผ่านมา
ในกรณีของการฉ้อโกงผู้รับเหมาช่วงและซัปพลายเออร์ กลุ่มบริษัท ภูธนแสงทอง มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 344 ระบุว่า ผู้ใดทุจริต หลอกลวงบุคคลตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ให้ประกอบงานอย่างใดๆ ให้แก่ตน หรือให้แก่บุคคลที่สาม โดยไม่ใช้ค่าแรงงานหรือค่าจ้างแก่บุคคลเหล่านั้น หรือโดยจะใช้ค่าแรงงานหรือค่าจ้างแก่บุคคลเหล้านั้นต่ำกว่าที่ตกลงกัน ต้องระวางโทษ จำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ส.รับสร้างบ้านยึดเวทีแจงลูกค้า โบ้ยพาณิชย์เปิดช่องตั้งบริษัทโกง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 12.00 น.นายพันธุ์เทพ ทานชิติกุล นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน ได้เดินทางมาชี้แจงต่อกรณีที่มีการพาดพิงถึงสมาคม ทั้งๆ ที่เครือข่ายผู้ได้รับความเดือดร้อนฯไม่ได้เชิญเป็นหนังสือ หรือติดต่อให้สมาคมเข้ามาชี้แจงปัญหาแต่อย่างใด
เป็นที่หน้าสังเกตว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นนั้น ทางสมาคมได้รับทราบปัญหาต่างๆ ของลูกค้า และพฤติกรรมของ นายศิวัช ภูธนแสงทอง อยู่แล้ว แต่ไม่ดำเนินการใดๆ เพื่อปกป้องผู้เสียหาย
“กระแสข่าวดังกล่าวนั้น ทางสมาคมได้รับทราบมาในเบื้องต้น แต่ไม่มีข้อมูลเบื้องลึก เนื่องจากทราบข่าวผ่านทางสื่อ โดยปัญหาที่เกิดขึ้น สมาคมฯไม่สามารถเข้าไปดำเนินการเอาผิดบริษัทดังกล่าวได้ เนื่องจากไม่มีการร้องเรียนจากลูกค้าเข้ามาที่สมาคม นอกจากนี้ สมาคมไม่มีอำนาจในการเอาผิดทางกฎหมายกับบริษัท ภูธนแสงทองได้ เพราะไม่ใช่หน่วยงานรัฐ” นายพันธุ์เทพ กล่าวปัดความรับผิดชอบต่อสังคมในฐานะนายกสมาคมรับสร้างบ้าน
ลูกค้ากระทุ้ง มีสมาคมเพื่ออะไร!
ขณะเดียวกัน หนึ่งในผู้ได้รับความเดือดร้อนรายหนึ่ง ได้ชี้แจงว่า ก่อนหน้านั้น ได้เข้ายื่นหนังสือต่อสมาคมแล้ว แต่ก็ไม่ได้รับความช่วยเหลือจากสมาคมฯแต่อย่างใด และเมื่อนายกสมาคมเดินทางเข้ามาชี้แจงเรื่องที่เกิดขึ้น จึงตั้งคำถามว่า ผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนมีการตรวจสอบข้อมูลจากหน่วยงานต่างๆ แล้วว่า การจองซื้อ และทำสัญญากับบริษัทที่มาออกบูทกับสมาคมนั้น ถือว่าใช้ได้
“เราผู้เดือดร้อนจองสร้างบ้านในงานมหกรรมรับสร้างบ้านที่สมาคมจัดขึ้น แต่เมื่อเดือดร้อนสมาคมชี้แจงว่าไม่สามารถรับผิดชอบได้ อย่างนี้จะตั้งสมาคมขึ้นมาเพื่อจุดประสงค์อะไร”
คนในภูธนแสงทองอัดซ้ำ สมาคมก็แค่บริษัทเอกชน
ด้าน นายวิทยา สายนะรา วิศวกรโยธา อดีตพนักงานบริษัท ภูธนแสงทอง กล่าวเตือนว่า อยากให้ลูกค้าที่คิดจะสร้างบ้าน อย่ามองที่เป็นสมาชิกของสมาคมแล้วจะซื่อสัตย์ แต่ให้มองที่รายละเอียดของงาน ผลงาน ประวัติ และศึกษาข้อสัญญาให้ชัดเจน เพราะหากเกิดเหตุการณ์ขึ้นมา สมาคมก็เป็นแค่เพียงหน่วยงานเอกชน ไม่มีหลักประกันว่า จะรับผิดชอบต่อความเดือดร้อนที่เกิดขึ้นได้ เพราะไม่ใช่หน่วยงานราชการ