ผู้ค้าทองคำ ชี้ ทิศทางราคาทองคำตกลงต่อเนื่อง หลังรัสเซียเตรียมยกเลิกใช้เงินดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นทุนสำรอง คาดราคาในไทยมีโอกาสเหลือแค่บาทละ 1.3 หมื่น
นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ เปิดเผยว่า ราคาทองคำยังมีโอกาสปรับตัวลดลงเล็กน้อย โดยเชื่อว่า จะยังไม่ผ่านแนวรับที่ 925 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยในช่วง 3 เดือนนี้ราคาทองคำยังคงไม่ปรับลงแรง แม้ว่ากองทุนเก็งกำไรจะย้ายการลงทุนไปเก็งกำไรในน้ำมันและหุ้น แต่เชื่อว่า ตลาดทองคำยังเป็นตลาดที่น่าสนใจสำหรับกองทุนเก็งกำไร
อย่างไรก็ตาม หากราคาทองคำตลาดโลกอ่อนจนถึง 865 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ราคาขายในประเทศจะอยู่ประมาณ 14,000 บาทเศษ แต่ถ้าหากเงินบาทแข็งค่าขึ้นมากจะทำให้ราคาทองคำในประเทศมีโอกาสถูกลงจนถึง 13,000 บาท โดยขณะนี้ราคาทองคำตลาดโลกปรับลงมาก โดยวันนี้ (17 มิ.ย.) ทองคำแท่งขายออกบาทละ 15,200 บาท รับซื้อ 15,100 บาท ทองรูปพรรณขายออกบาทละ 15,600 บาท รับซื้อบาทละ 14,887.12 บาท
นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานกรรมการ บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด กล่าวว่า ราคาทองคำในตลาดโลกยังคงมีแนวโน้มปรับตัวลดลงต่อเนื่อง ซึ่งหากผ่านแนวรับที่ระดับ 930 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก็จะปรับตัวลงมาที่ 920 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และ 900 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตามลำดับ
“หากราคาทองคำลดลงต่อเนื่องจะทำให้สร้างสถิติต่ำสุดใหม่ในรอบปีนี้ที่ระดับ 865 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งจะมีผลต่อราคาขายทองคำในประเทศปรับลดลง โดยทองคำแท่งอาจจะถึงบาทละ 13,000 บาท หากเงินบาทแข็งค่าขึ้นมาก”
นางพวรรณ์ กล่าวถึงสาเหตุที่ราคาทองคำตลาดโลกปรับลดลง ว่า เนื่องจากมีกระแสข่าวว่าประเทศรัสเซียกำลังพิจารณาไม่ใช้เงินสกุลดอลลาร์เป็นเงินทุนสำรอง โดยจะหาเงินสกุลใหม่มาใช้แทน ซึ่งข่าวดังกล่าวมีผลทำให้ดอลลาร์อ่อนค่าลง ประกอบกับเงินยูโรมีทิศทางอ่อนค่าลงเช่นกัน หลังจากนักลงทุนให้ความสนใจลงทุนในพันธบัตรยูโรจำนวนมาก
ส่วนนักลงทุนระยะยาวที่สนใจจะเข้ามาซื้อขายทองคำนั้น แนะนำว่า ควรพิจารณาให้รอบคอบแล้วรอจังหวะเมื่อทองคำอ่อนค่าลง โดยแนวรับที่เหมาะสมสำหรับการลงทุนที่ระดับ 900-880 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งการที่ราคาทองคำตลาดโลกปรับลดลงช่วงนี้ทำให้ราคาทองคำคึกคักมากขึ้น หลังจากที่ค่อนข้างเงียบเหงาในช่วงเดือนเมษายน 2552 และพฤษภาคม 2552 ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ผลจากการที่ราคาทองคำผันผวน ทำให้นักลงทุนบางส่วนหันมาสนใจลงทุนซื้อขายทองคำล่วงหน้าหรือโกลด์ฟิวเจอร์ เพิ่มประมาณร้อยละ 30 โดยนักลงทุนจะแบ่งสัดส่วนการลงทุนประมาณร้อยละ 10-20 ของพอร์ตการลงทุน เพราะราคาทองคำในตลาดล่วงหน้าผันผวนกว่าการซื้อขายทองคำจริง