บันลือกรุ๊ป คุยธุกริจสิ่งพิมพ์ยังไปโลดครึ่งปีหลัง เตรียมเปิดตัวเพิ่มอีก 1 สำนักพิมพ์ ด้าน “วิธิตา” ซุ่มขายไลเซนส์ ปังปอนด์ คาแรกเตอร์ ให้สตูดิโอยักษ์ ยูนิเวอร์แซล หลังเอเชียบุกแล้ว 7 เมืองใหญ่ พร้อมลุยเอเชียใต้ต่อเนื่อง อินเดีย ปากีสถาน ก็สนใจ
นางโชติกา อุตสาหกิจ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท บันลือบุ๊คส์ จำกัด ในเครือบันลือกรุ๊ป เปิดเผยว่า นโยบายในการดำเนินธุรกิจของบันลือกรุ๊ป ปีนี้จะเน้นเรื่องของการจับมือกับพันธมิตรเป็นหลัก เพื่อผลักดันรายได้ให้เพิ่มขึ้น โดยในส่วนของสื่อสิ่งพิมพ์ ซึ่งปัจจุบันมีทั้งหมด 4 สำนักพิมพ์ในเครือ คือ สำนักพิมพ์สุขสว่าง กับพอกเก็ตบุ๊กเกี่ยวกับธรรมะ และพัฒนาตนเอง, สำนักพิมพ์บันลือสาร เกี่ยวกับการ์ตูนในเครือทั้งหมด, สำนักพิมพ์บันลือบุ๊คส์
ล่าสุด กับสำนักพิมพ์ แนตตี้ ที่ได้เปิดตัวช่วงต้นปีที่ผ่านมา ที่เป็นสำนักพิมพ์ที่ตีพิมพ์นิยายแนววัยรุ่นเป็นหลัก หลังการเปิดตัวพบว่าผู้อ่านให้การตอบรับมากขึ้นเรื่อยๆ ส่วนหนึ่งมาจากกิจกรรมในรูปแบบอินเทอร์แอกทีฟ ทั้งจากนักเขียนและผู้อ่านจึงยิ่งทำให้เห็นการเติบโตเป็นไปได้ด้วยดี
ทั้งนี้ ในช่วงครึ่งปีหลังนี้ บริษัทมีแผนที่จะเปิดตัวสำนักพิมพ์เพิ่มอีกอย่างน้อย 1สำนักพิมพ์ คาดว่าช่วงต้นไตรมาสสี่ น่าจะเปิดตัวได้อย่างเป็นทางการ ซึ่งสำนักพิมพ์ใหม่นี้ ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ว่าจะเป็นกลุ่มใด แต่ยังคงเน้นรูปแบบพอกเก็ตบุ๊คเป็นหลัก
นางโชติกา กล่าวต่อว่า สำหรับในส่วนของ บริษัท วิธิตาแอนิเมชั่น จำกัด ซึ่งเป็นอีกหนึ่งบริษัทในเครือบันลือกรุ๊ป ดูแลดิจิตอลคอนเท้นท์ ล่าสุดปีที่ผ่านมา ได้มีการจัดโรดโชว์นำการ์ตูนปังปอนด์ ไปเปิดตัวในภูมิภาคอาเซียน ปัจจุบัน ได้รับการตอบรับ 7 ประเทศ คือ ไต้หวัน, อินโดนีเซีย, มาเก๊า, ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และมาเลเซีย ในรูปแบบ ออกอากาศในระบบเคเบิลทีวี โดยขณะนี้มีบางประเทศที่เริ่มออกอากาศไปแล้ว และบางประเทศกำลังอยู่ในขั้นตอนการพากษ์เสียงใหม่และทำตลาดอยู่
ทั้งนี้ บริษัทยังมีการทำโรดโชว์ไปในประเทศแถบยุโรปด้วย ยอมรับว่า สตูดิโอใหญ่ๆ ของฮอลลีวูด อย่าง ยูนิเวอร์แซล ก็ได้ให้ความสนใจที่จะซื้อไลเซนส์ ปังปอนด์ คาแรกเตอร์ด้วย แต่จะเป็นไลเซนส์รูปแบบใดนั้น ยังอยู่ในขั้นตอนศึกษา เพราะส่วนหนึ่งต้องยอมรับถึงวัฒนธรรมระหว่างตะวันตกและตะวันออกด้วย แต่มั่นใจว่า ปลายปีนี้หรือต้นปีหน้าจะสรุปรายละเอียดในเรื่องดังกล่าวได้ชัดเจนขึ้น
นายสันติ เลาหบูรณะกิจ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท วิธิตา แอนินเมชั่น จำกัด กล่าวเสริมว่า สำหรับวิธิตา ปีนี้ยังคงเน้นหนักตลาดในประเทศไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาคาแรกเตอร์ตัวการ์ตูนอย่างต่อเนื่อง ทั้งปังปอนด์ หรือหนูหิ่น รวมไปถึงการทำแอนิเมชันเฮาส์ รับจ้างผลิตงานแอนิเมชันแบบครบวงจร ซึ่งสัดส่วนรายได้จากทั้ง 2 ส่วนนี้ อยู่ที่ 50% เท่าๆ กัน โดยสิ้นปีนี้ เชื่อว่าวิธิตายังทำรายได้เป็นไปตามแผนที่วางไว้ ว่าจะต้องมีอัตราการเติบโตจากปีก่อนที่ 10-15% แม้ว่าครึ่งปีที่ผ่านมา จะเห็นการเติบโตเพียง 3-4% ก็ตาม
ส่วนตลาดต่างประเทศนั้น ช่วงนี้ขอโฟกัสที่เอเชียก่อน โดยขณะนี้กำลังมีการเจรจากับประเทศในเอเชียใต้อย่าง อินเดีย และปากีสถาน ในการขายไลเซนส์ปังปอนด์ ต่อไป
นางโชติกา อุตสาหกิจ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท บันลือบุ๊คส์ จำกัด ในเครือบันลือกรุ๊ป เปิดเผยว่า นโยบายในการดำเนินธุรกิจของบันลือกรุ๊ป ปีนี้จะเน้นเรื่องของการจับมือกับพันธมิตรเป็นหลัก เพื่อผลักดันรายได้ให้เพิ่มขึ้น โดยในส่วนของสื่อสิ่งพิมพ์ ซึ่งปัจจุบันมีทั้งหมด 4 สำนักพิมพ์ในเครือ คือ สำนักพิมพ์สุขสว่าง กับพอกเก็ตบุ๊กเกี่ยวกับธรรมะ และพัฒนาตนเอง, สำนักพิมพ์บันลือสาร เกี่ยวกับการ์ตูนในเครือทั้งหมด, สำนักพิมพ์บันลือบุ๊คส์
ล่าสุด กับสำนักพิมพ์ แนตตี้ ที่ได้เปิดตัวช่วงต้นปีที่ผ่านมา ที่เป็นสำนักพิมพ์ที่ตีพิมพ์นิยายแนววัยรุ่นเป็นหลัก หลังการเปิดตัวพบว่าผู้อ่านให้การตอบรับมากขึ้นเรื่อยๆ ส่วนหนึ่งมาจากกิจกรรมในรูปแบบอินเทอร์แอกทีฟ ทั้งจากนักเขียนและผู้อ่านจึงยิ่งทำให้เห็นการเติบโตเป็นไปได้ด้วยดี
ทั้งนี้ ในช่วงครึ่งปีหลังนี้ บริษัทมีแผนที่จะเปิดตัวสำนักพิมพ์เพิ่มอีกอย่างน้อย 1สำนักพิมพ์ คาดว่าช่วงต้นไตรมาสสี่ น่าจะเปิดตัวได้อย่างเป็นทางการ ซึ่งสำนักพิมพ์ใหม่นี้ ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ว่าจะเป็นกลุ่มใด แต่ยังคงเน้นรูปแบบพอกเก็ตบุ๊คเป็นหลัก
นางโชติกา กล่าวต่อว่า สำหรับในส่วนของ บริษัท วิธิตาแอนิเมชั่น จำกัด ซึ่งเป็นอีกหนึ่งบริษัทในเครือบันลือกรุ๊ป ดูแลดิจิตอลคอนเท้นท์ ล่าสุดปีที่ผ่านมา ได้มีการจัดโรดโชว์นำการ์ตูนปังปอนด์ ไปเปิดตัวในภูมิภาคอาเซียน ปัจจุบัน ได้รับการตอบรับ 7 ประเทศ คือ ไต้หวัน, อินโดนีเซีย, มาเก๊า, ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และมาเลเซีย ในรูปแบบ ออกอากาศในระบบเคเบิลทีวี โดยขณะนี้มีบางประเทศที่เริ่มออกอากาศไปแล้ว และบางประเทศกำลังอยู่ในขั้นตอนการพากษ์เสียงใหม่และทำตลาดอยู่
ทั้งนี้ บริษัทยังมีการทำโรดโชว์ไปในประเทศแถบยุโรปด้วย ยอมรับว่า สตูดิโอใหญ่ๆ ของฮอลลีวูด อย่าง ยูนิเวอร์แซล ก็ได้ให้ความสนใจที่จะซื้อไลเซนส์ ปังปอนด์ คาแรกเตอร์ด้วย แต่จะเป็นไลเซนส์รูปแบบใดนั้น ยังอยู่ในขั้นตอนศึกษา เพราะส่วนหนึ่งต้องยอมรับถึงวัฒนธรรมระหว่างตะวันตกและตะวันออกด้วย แต่มั่นใจว่า ปลายปีนี้หรือต้นปีหน้าจะสรุปรายละเอียดในเรื่องดังกล่าวได้ชัดเจนขึ้น
นายสันติ เลาหบูรณะกิจ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท วิธิตา แอนินเมชั่น จำกัด กล่าวเสริมว่า สำหรับวิธิตา ปีนี้ยังคงเน้นหนักตลาดในประเทศไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาคาแรกเตอร์ตัวการ์ตูนอย่างต่อเนื่อง ทั้งปังปอนด์ หรือหนูหิ่น รวมไปถึงการทำแอนิเมชันเฮาส์ รับจ้างผลิตงานแอนิเมชันแบบครบวงจร ซึ่งสัดส่วนรายได้จากทั้ง 2 ส่วนนี้ อยู่ที่ 50% เท่าๆ กัน โดยสิ้นปีนี้ เชื่อว่าวิธิตายังทำรายได้เป็นไปตามแผนที่วางไว้ ว่าจะต้องมีอัตราการเติบโตจากปีก่อนที่ 10-15% แม้ว่าครึ่งปีที่ผ่านมา จะเห็นการเติบโตเพียง 3-4% ก็ตาม
ส่วนตลาดต่างประเทศนั้น ช่วงนี้ขอโฟกัสที่เอเชียก่อน โดยขณะนี้กำลังมีการเจรจากับประเทศในเอเชียใต้อย่าง อินเดีย และปากีสถาน ในการขายไลเซนส์ปังปอนด์ ต่อไป
