ฟิลิปส์ มุ่งตอบสนองไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคสู่สิ่งที่ดีกว่า มั่นใจผลักสินค้าท็อปทรี ไต่แชมป์ต่อเนื่อง หลังเป็นผู้นำเครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นเล็ก เท 600 ล้านบาท อัดการตลาดเต็มที่ เน้นบิโลว์เดอะไลน์มากขึ้น ลุยกิจกรรมเพิ่มอีก 15% เข้าช่วยทำตลาดสินค้าสำหรับแม่และเด็กเสริมทัพ มั่นใจทั้งปียอดขายต้องดีกว่าภาพรวมตลาด
นายอิสท์วาน กุตี ผู้จัดการทั่วไป กลุ่มธุรกิจคอนซูเมอร์ไลฟ์สไตล์ บริษัท ฟิลิปส์อิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ฟิลิปส์ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญว่า ผู้บริโภคต้องการผลิตภัณฑ์ที่คุ้มค่าและสามารถตอบสนองต่อไลฟ์สไตล์ของการมีสุขภาพและชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีมากขึ้น ดังนั้น ฟิลิปส์ จึงได้มีนโยบายการตลาด “ฟิลิปส์ที่สุด ทุกสิ่ง” จึงได้ถูกประกาศใช้พร้อมกันทั่วโลกไปเมื่อช่วงปลายเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา รวมกว่า 39 ประเทศ ซึ่งนโยบายการตลาดดังกล่าวนี้ จะเป็นตัวขับเคลื่อนหลักในช่วงครึ่งปีหลังนี้ สำหรับฟิลิปส์ ประเทศไทยต่อไป ขณะที่สินค้าต่างๆ นั้น จะมีวางจำหน่ายรุ่นใหม่ทั้งปีไม่ต่ำกว่า 100 รายการ
อย่างไรก็ตาม ในปีนี้ ฟิลิปส์ ยังคงใช้เม็ดเงินทางด้านการตลาดราว 600 ล้านบาท ใกล้เคียงกับปีก่อน โดยปีนี้จะเน้นหนักไป บิ โลว์ เดอะ ไลน์ หรือกิจกรรมทางการตลาด และการจัดโรดโชว์สินค้า รวมถึงการทำกิจกรรม ณ จุดขายมากขึ้นกว่าปีก่อนอีกประมาณ 15% ส่งผลให้งบการตลาดกว่า 50% จะนำมาใช้กับกิจกรรมทางการตลาดเป้นหลัก
ในส่วนของสินค้านั้น ภาพรวมครึ่งปีแรกที่ผ่านมา สินค้าชิ้นเล็กในครัวเรือน อย่าง เตารีด เครื่องครัว และเครื่องเล่นเพลง หรือ ออดิโอ เป็นกลุ่มสินค้าที่ฟิลิปส์ครองความเป็นผู้นำ หรือมีส่วนแบ่งทางการตลาดในแต่ละผลิตภัณฑ์เหล่านี้ไม่ต่ำกว่า 50% ขณะที่ แอลซีดี ทีวี ซึ่งปัจจุบันฟิลิปส์ ติดอยู่ในอันดับท็อปทรี บริษัทจะพยายามทำการตลาดเพื่อขึ้นสู่อันดับต้นๆ ในระยะต่อไป ซึ่งครึ่งปีหลังนี้ จะมีสินค้า 4 ตัวหลัก ที่บริษัทจะให้ความสำคัญและเป็นสินค้าเรือธงที่จะช่วยขับเคลื่อนธุรกิจ คือ เอ็มพี3, เครื่องเล่นเพลง ดีวีดี, เตารีด และ เครื่องครัว
โดยหลังจากที่ฟิลิปส์ ได้มีการรวมแผนกเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือน รวมกับเครื่องใช้ไฟฟ้า มาเป็น แผนกคอนซูเมอร์ไลฟ์สไตล์ ตั้งแต่ช่วงปีก่อนที่ผ่านมา ส่งผลให้การดำเนินงานไปอย่างรวดเร็ว ส่วนลูกค้าก็ให้การตอบรับที่ดี ล่าสุด บริษัทยังมีนโยบายที่จะนำสินค้าสำหรับแม่และเด็ก อย่างแบรนด์ AVANT เข้ามาทำตลาดและให้ความสำคัญกับช่องทางการจำหน่าย ร่วมกับดีทแฮล์มและกลุ่มธุรกิจเอ็กซ์พอร์ทของฟิลิปส์ด้วย โดยจะจัดเป็นกลุ่มสินค้าหนึ่งที่อยู่ภายในแผนกคอนซูเมอร์ไลฟ์สไตล์
นายอิสท์วาน กล่าวต่อว่า ครึ่งปีหลังนี้ มองว่า สถานการณ์ภาพรวมตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าจะกลับมาดีอีกครั้ง ดูจากอุตสาหกรรมรถยนต์เริ่มมีตัวเลขที่ดีขึ้น แต่ยังหวั่นใจในเรื่องการเมืองมากกว่า ทั้งนี้เชื่อว่าปีนี้ทั้งปีบริษัทจะยังมีภาพรวมรายได้ที่ดีอยู่ หรืออย่างน้อยต้องโตกว่าค่าจีดีพีของประเทศประมาณ 3 เท่าหรือเติบโตมากกว่าภาพรวมตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างแน่นอน
ทั้งนี้ ในช่วงไตรมาส 1 ที่ผ่านมา พบว่า ภาพรวมตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าตกลงเป็นตัวเลข 1 หลัก หรือแยกออกมาได้ว่า แอลซีดี ทีวี เครื่องครัว เครื่องดูดฝุ่น ยังมีอัตราการเติบโตอยู่ ส่วนเครื่องเล่นเพลง ตกลงเป็นตัวเลข 2 หลัก ส่วนฟิลิปส์เอง สินค้าแต่ละหมวดจะรักษายอดขายได้ดีอยู่
นายอิสท์วาน กุตี ผู้จัดการทั่วไป กลุ่มธุรกิจคอนซูเมอร์ไลฟ์สไตล์ บริษัท ฟิลิปส์อิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ฟิลิปส์ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญว่า ผู้บริโภคต้องการผลิตภัณฑ์ที่คุ้มค่าและสามารถตอบสนองต่อไลฟ์สไตล์ของการมีสุขภาพและชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีมากขึ้น ดังนั้น ฟิลิปส์ จึงได้มีนโยบายการตลาด “ฟิลิปส์ที่สุด ทุกสิ่ง” จึงได้ถูกประกาศใช้พร้อมกันทั่วโลกไปเมื่อช่วงปลายเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา รวมกว่า 39 ประเทศ ซึ่งนโยบายการตลาดดังกล่าวนี้ จะเป็นตัวขับเคลื่อนหลักในช่วงครึ่งปีหลังนี้ สำหรับฟิลิปส์ ประเทศไทยต่อไป ขณะที่สินค้าต่างๆ นั้น จะมีวางจำหน่ายรุ่นใหม่ทั้งปีไม่ต่ำกว่า 100 รายการ
อย่างไรก็ตาม ในปีนี้ ฟิลิปส์ ยังคงใช้เม็ดเงินทางด้านการตลาดราว 600 ล้านบาท ใกล้เคียงกับปีก่อน โดยปีนี้จะเน้นหนักไป บิ โลว์ เดอะ ไลน์ หรือกิจกรรมทางการตลาด และการจัดโรดโชว์สินค้า รวมถึงการทำกิจกรรม ณ จุดขายมากขึ้นกว่าปีก่อนอีกประมาณ 15% ส่งผลให้งบการตลาดกว่า 50% จะนำมาใช้กับกิจกรรมทางการตลาดเป้นหลัก
ในส่วนของสินค้านั้น ภาพรวมครึ่งปีแรกที่ผ่านมา สินค้าชิ้นเล็กในครัวเรือน อย่าง เตารีด เครื่องครัว และเครื่องเล่นเพลง หรือ ออดิโอ เป็นกลุ่มสินค้าที่ฟิลิปส์ครองความเป็นผู้นำ หรือมีส่วนแบ่งทางการตลาดในแต่ละผลิตภัณฑ์เหล่านี้ไม่ต่ำกว่า 50% ขณะที่ แอลซีดี ทีวี ซึ่งปัจจุบันฟิลิปส์ ติดอยู่ในอันดับท็อปทรี บริษัทจะพยายามทำการตลาดเพื่อขึ้นสู่อันดับต้นๆ ในระยะต่อไป ซึ่งครึ่งปีหลังนี้ จะมีสินค้า 4 ตัวหลัก ที่บริษัทจะให้ความสำคัญและเป็นสินค้าเรือธงที่จะช่วยขับเคลื่อนธุรกิจ คือ เอ็มพี3, เครื่องเล่นเพลง ดีวีดี, เตารีด และ เครื่องครัว
โดยหลังจากที่ฟิลิปส์ ได้มีการรวมแผนกเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือน รวมกับเครื่องใช้ไฟฟ้า มาเป็น แผนกคอนซูเมอร์ไลฟ์สไตล์ ตั้งแต่ช่วงปีก่อนที่ผ่านมา ส่งผลให้การดำเนินงานไปอย่างรวดเร็ว ส่วนลูกค้าก็ให้การตอบรับที่ดี ล่าสุด บริษัทยังมีนโยบายที่จะนำสินค้าสำหรับแม่และเด็ก อย่างแบรนด์ AVANT เข้ามาทำตลาดและให้ความสำคัญกับช่องทางการจำหน่าย ร่วมกับดีทแฮล์มและกลุ่มธุรกิจเอ็กซ์พอร์ทของฟิลิปส์ด้วย โดยจะจัดเป็นกลุ่มสินค้าหนึ่งที่อยู่ภายในแผนกคอนซูเมอร์ไลฟ์สไตล์
นายอิสท์วาน กล่าวต่อว่า ครึ่งปีหลังนี้ มองว่า สถานการณ์ภาพรวมตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าจะกลับมาดีอีกครั้ง ดูจากอุตสาหกรรมรถยนต์เริ่มมีตัวเลขที่ดีขึ้น แต่ยังหวั่นใจในเรื่องการเมืองมากกว่า ทั้งนี้เชื่อว่าปีนี้ทั้งปีบริษัทจะยังมีภาพรวมรายได้ที่ดีอยู่ หรืออย่างน้อยต้องโตกว่าค่าจีดีพีของประเทศประมาณ 3 เท่าหรือเติบโตมากกว่าภาพรวมตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างแน่นอน
ทั้งนี้ ในช่วงไตรมาส 1 ที่ผ่านมา พบว่า ภาพรวมตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าตกลงเป็นตัวเลข 1 หลัก หรือแยกออกมาได้ว่า แอลซีดี ทีวี เครื่องครัว เครื่องดูดฝุ่น ยังมีอัตราการเติบโตอยู่ ส่วนเครื่องเล่นเพลง ตกลงเป็นตัวเลข 2 หลัก ส่วนฟิลิปส์เอง สินค้าแต่ละหมวดจะรักษายอดขายได้ดีอยู่
