รมช.คลังยันราคาขายปลีกน้ำมันพุ่ง ไม่เกี่ยวรัฐขึ้นภาษี

รมช.คลัง ยันรัฐบาลยังไม่ทบทวนการขึ้นภาษีสรรพสามิตน้ำมัน เพราะไม่ทำให้ราคาขายปลีกเพิ่ม พร้อมนำเงินที่จัดเก็บไปลงทุนด้านสุขภาพ-การคมนาคมขนส่ง

นพ.พฤฒิชัย ดำรงรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงกรณีที่ภาคเอกชนออกมาแสดงความเห็นเรื่องภาษีสรรพสามิตน้ำมันที่เก็บเพิ่มขึ้นในช่วงนี้เป็นช่วงไม่เหมาะสมว่า การปรับขึ้นภาษีสรรพสามิตน้ำมันมีผลไปแล้ว และไม่ได้ทำให้ราคาน้ำมันขายปลีกเพิ่มขึ้นเพราะผลพวงจากภาษี แต่ภาษีสรรพสามิตน้ำมันที่เก็บได้เพิ่มขึ้น รัฐบาลจะนำไปลงทุนให้เกิดประโยชน์สูงสุด ทั้งการดูแลสุขภาพประชาชน การขนส่งคมนาคมต่างๆ ให้ดียิ่งขึ้น

“รัฐบาลตั้งใจจะใช้ภาษีที่จัดเก็บได้อย่างมีประสิทธิภาพ และจนถึงขณะนี้ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายภาษีสรรพสามิตน้ำมัน สำหรับภาษีที่จัดเก็บจากวัตถุดิบชา กาแฟ ตามที่มีการร้องเรียนว่า ทำให้เกษตรกรได้รับความ เดือดร้อน เพราะวัตถุดิบของผู้ผลิตชา กาแฟส่วนใหญ่มาจากในประเทศ ทำให้เกษตรกรถูกกดราคา ขายได้ถูกลง เรื่องนี้กระทรวงการคลังจะติดตามสถานการณ์ หากเกษตรกรได้รับผลกระทบจริง จะพิจารณาต่อไป”

ส่วนการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตซานติกาผับ ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาเพิ่มการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตสถานบันเทิง ตามที่ได้ตั้งคณะทำงานไว้ โดยกรณีซานติก้า ผับจะมีภาษีพร้อมเบี้ยปรับ เงินเพิ่มรวมประมาณ 200 ล้านบาท ส่วนสถานบันเทิงแห่งอื่น ที่ตกเป็นข่าวต้องดูตาม พ.ร.บ.ของกระทรวงมหาดไทยว่า เข้าข่ายเป็นสถานบันเทิงหรือไม่ หากเข้าข่ายจะต้องดำเนินการจัดเก็บภาษีเช่นกัน

รมช.คลัง กล่าวถึงกรณีการขึ้นภาษีสรรพสามิตบุหรี่มา 1 สัปดาห์ ทำให้จำนวนคดีลักลอบนำเข้าบุหรี่เพิ่มขึ้นจาก 280 คดีต่อสัปดาห์เป็น 400 คดีต่อสัปดาห์ ค่าปรับที่เคยได้สัปดาห์ละ 2 ล้านบาท เพิ่มเป็น 4.8 ล้านบาท