กระทรวงการคลัง หารือกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เตรียมกำหนดให้การควบคุมการบริโภคยาสูบเป็นวาระแห่งชาติ โดยจะหาข้อสรุปแนวทางการทำงานนำเสนอนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการ สสส.ภายใน 1 เดือน
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า เตรียมเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อบูรณาการการทำงาน ดูแลปัญหาการลักลอบนำเข้าและการผลิตบุหรี่ปลอม หลังพบว่าตั้งแต่ปรับขึ้นภาษีสรรพสามิตบุรี่ สามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้มากกว่าช่วงก่อนจะปรับขึ้นภาษีถึง 3 เท่า จำนวนค่าปรับรวม 3.9 ล้านบาท ขณะนี้กระทรวงการคลังได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่กรมศุลกากร 1,000 คน และกรมสรรพสามิต อีก 600 คน ตรวจสอบการลักลอบตามแนวชายแดน และจะเร่งทบทวนแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องให้มีความทันสมัย และมีบทลงโทษที่รุนแรงมากขึ้น
นายแพทย์ประกิต วาทีสาธกกิจ เลขาธิากรมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ กล่าวว่า พระราชบัญญัติยาสูบ พ.ศ.2509 มีบทลงโทษที่น้อยเกินไป คือ ปรับเพียง 10-15 เท่า จึงต้องทวนให้เหมาะสม เพื่อให้การผลิตบุหรี่เถื่อนและการลักลอบนำเข้าลดลง
ที่ผ่านมา บุหรี่ปลอมทำให้ประเทศไทยสูญเสียรายได้ประมาณ 1,400-,1700 ล้านบาทต่อปี ขณะที่การลักลอบนำเข้าบุหรี่ ทำให้สูญเสียรายได้ 3,000-4,00 ล้านบาทต่อปี
ส่วนที่ จ.หนองคาย เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและสาธารณสุข รวม 8 ชุด กระจายกำลังตรวจร้านค้าส่ง และค้าสุราและบุหรี่ในตัวเมืองหนองคาย จำนวน 80 แห่ง เพื่อรณรงค์ประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ความรู้ให้แก่ผู้ประกอบการร้านค้า เกี่ยวกับการปฏิบัติตามกฎหมาย และขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการ เช่น การกำหนดเวลาและสถานที่ห้ามจำหน่าย รวมทั้งชี้แจงโทษหากพบว่ามีการว่าฝืนก็จะถูกดำเนินคดีทันที
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า เตรียมเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อบูรณาการการทำงาน ดูแลปัญหาการลักลอบนำเข้าและการผลิตบุหรี่ปลอม หลังพบว่าตั้งแต่ปรับขึ้นภาษีสรรพสามิตบุรี่ สามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้มากกว่าช่วงก่อนจะปรับขึ้นภาษีถึง 3 เท่า จำนวนค่าปรับรวม 3.9 ล้านบาท ขณะนี้กระทรวงการคลังได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่กรมศุลกากร 1,000 คน และกรมสรรพสามิต อีก 600 คน ตรวจสอบการลักลอบตามแนวชายแดน และจะเร่งทบทวนแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องให้มีความทันสมัย และมีบทลงโทษที่รุนแรงมากขึ้น
นายแพทย์ประกิต วาทีสาธกกิจ เลขาธิากรมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ กล่าวว่า พระราชบัญญัติยาสูบ พ.ศ.2509 มีบทลงโทษที่น้อยเกินไป คือ ปรับเพียง 10-15 เท่า จึงต้องทวนให้เหมาะสม เพื่อให้การผลิตบุหรี่เถื่อนและการลักลอบนำเข้าลดลง
ที่ผ่านมา บุหรี่ปลอมทำให้ประเทศไทยสูญเสียรายได้ประมาณ 1,400-,1700 ล้านบาทต่อปี ขณะที่การลักลอบนำเข้าบุหรี่ ทำให้สูญเสียรายได้ 3,000-4,00 ล้านบาทต่อปี
ส่วนที่ จ.หนองคาย เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและสาธารณสุข รวม 8 ชุด กระจายกำลังตรวจร้านค้าส่ง และค้าสุราและบุหรี่ในตัวเมืองหนองคาย จำนวน 80 แห่ง เพื่อรณรงค์ประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ความรู้ให้แก่ผู้ประกอบการร้านค้า เกี่ยวกับการปฏิบัติตามกฎหมาย และขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการ เช่น การกำหนดเวลาและสถานที่ห้ามจำหน่าย รวมทั้งชี้แจงโทษหากพบว่ามีการว่าฝืนก็จะถูกดำเนินคดีทันที
