เชียงราย – สรรพสามิตคุมเข้มชายแดนหวั่นเหล้านอกทะลักช่วงขึ้นภาษี นำทีมเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวชายแดนแม่สายซื้อสินค้าตามที่กฎหมายกำหนดเท่านั้น หากนำเข้าเกินมีสิทธิ์ถูกปรับสูงสุดถึง 10 เท่า
รายงานข่าวจาก จ.เชียงราย แจ้งว่า นายนิรุท งามศิริ สรรพสามิตเขตพื้นที่ จ.เชียงราย ได้นำเจ้าหน้าที่สรรพสามิตไปทำกิจกรรมประชาสัมพันธ์ เกี่ยวกับการหาซื้อสินค้าประเภทสุราและบุหรี่ตามแนวชายแดนให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยวตามตลาดชายแดนด้าน อ.แม่สาย โดยมีการแจกเอกสารแผ่นพับเกี่ยวกับการห้ามซื้อสินค้าประเภทสุราและบุหรี่จากตลาดชายแดนฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งมีการจำหน่ายกันอย่างคึกคักเข้ามาภายในประเทศไทย ไม่เช่นนั้นจะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นโทษปรับที่คิดตามมูลค่าของสินค้าที่นำเข้ามาดังกล่าว
นายนิรุทเปิดเผยว่า เป็นการประชาสัมพันธ์ให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยวเกี่ยวกับการหาซื้อสินค้าประเภทสุราและบุหรี่จากตลาดในฝั่งประเทศเพื่อนบ้านเป็นการเฉพาะ เนื่องจากสถานการณ์ในปัจจุบันมีการขึ้นอัตราภาษีสรรพสามิตต่อสินค้าทั้งสองประเภทจึงเกรงว่าจะมีการหาซื้อเพื่อนำมาบริโภคหรือลักลอบนำเข้ามาครั้งละมาก
โดยครั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้ออกประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนว่าการข้ามไปหาซื้อมาควรอยู่ในปริมาณที่กฎหมายกำหนดเท่านั้น ทั้งนี้ได้มีการหารือกับด่านศุลกากรเอาไว้นานกว่า 2 เดือนแล้ว และร่วมกันกำหนดเอาไว้ว่ากรณีบุหรี่สามารถนำข้ามมาได้เพียง 2 ห่อหรือแคตตอน ส่วนสุรานำข้ามมาได้เพียง 1 ขวดเท่านั้น หากเกินกว่านี้จะต้องถูกดำเนินคดี เบื้องต้นอาจจะตักเตือนและแจ้งให้นำกลับไปก่อนแต่หากฝ่าฝืนก็จะถูกลงโทษตามกฎหมาย
นายนิรุทกล่าวว่า กรณีของการนำเข้ามาเกินตามมาตรา 19 นั้นถือว่าอยู่ข่ายที่ครอบครองจะถูกลงโทษปรับเป็นเงินในอัตรา 10 เท่าของมูลค่าสินค้าที่ลักลอบนำเข้าดังกล่าว ซึ่งกรณีนี้หากคิดตามมูลค่าของบุหรี่ก็จะถูกปรับตกซองละประมาณ 382.50 บาท หรือหากเข้าข่ายว่านำเข้ามาเพื่อจำหน่ายก็จะถูกปรับในอัตราที่สูงกว่าถึง 15 เท่า หรือกรณีบุหรี่ก็ตกซองละประมาณ 573.75 บาท ดังนั้นจึงขอแจ้งเตือนให้ประชาชนได้รับทราบเอาไว้ด้วยเพื่อจะได้ระมัดระวังตัวและไม่หลงไปหาซื้อโดยไม่ทราบในรายละเอียดดังกล่าว
สรรพสามิตเขตพื้นที่ จ.เชียงราย กล่าวด้วยว่า ตามปกติแล้วการลักลอบนำเข้าสินค้าประเภทนี้ก็คงจะมีอยู่ แต่เป็นลักษณะของกองทัพมดและไม่เป็นขบวนการใหญ่มากนัก ซึ่งเจ้าหน้าที่สรรพสามิตก็ได้จัดชุดเฉพาะกิจขึ้นมาเพื่อทำการลาดตระเวนและเฝ้าระวังการลักลอบตั้งแต่ชายแดนด้าน อ.แม่สาย อ.เชียงแสน และ อ.เชียงของ แล้ว ซึ่งผลการปฏิบัติการเป็นที่น่าพึงพอใจเพราะมีการลักลอบนำเข้าน้อยมาก กระนั้นเนื่องจากมีการขึ้นอัตราภาษีครั้งนี้ก็คาดว่าอาจจะมีการลักลอบนำเข้ามาบ้างแต่เมื่อเจ้าหน้าที่ได้เตรียมความพร้อมดังกล่าวแล้ว ก็จะทำให้ปัญหาการลักลอบนำเข้าลดน้อยลงไปได้
รายงานข่าวจากด่านศุลกากรแม่สาย แจ้งว่า สำหรับสถิติการนำเข้าสินค้าผ่านด่านพรมแดน อ.แม่สาย เข้ามายังประเทศไทยในปี 2551 ที่ผ่านมาพบว่ามีมูลค่าทั้งหมด 245.37 ล้านบาท โดยสุราต่างประเทศเป็นสินค้าอันดับเข้าอันดับ 2 มูลค่ารวม 42.90 บาท โดยรองจากอันดับ 1 คือ ไม้ซุงสักเพียงรายการเดียวเท่านั้น ขณะที่สินค้าส่งออกมีมูลค่ารวม 3,705.78 ล้านบาท และสุราต่างประเทศก็ยังคงเป็นสินค้าส่งออกอันดับ 2 มูลค่ารวม 267.58 ล้านบาท เป็นรองเพียงน้ำมันเชื้อเพลิงเท่านั้น
ทั้งนี้ สินค้าสุราต่างประเทศตามแนวชายแดนถือว่ามีบทบาทต่อการค้าชายแดนในปัจจุบันอย่างมาก โดยเฉพาะสุรายี่ห้อชั้นดีและระดับปานกลาง ซึ่งมีราคาไม่แพงนักรวมทั้งมีคุณภาพในเกณฑ์พอใช้ได้หรือไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพมากเหมือนสุราปลอม กำลังเป็นที่นิยมของนักบริโภคโดยเฉพาะผู้ที่หาซื้อไปจัดเลี้ยงตามงานฉลองต่างๆ ในภาคเหนือ ทำให้ที่ผ่านมามักจะมีการลักลอบนำเข้ามาในลักษณะทีละเล็กละน้อยแต่หลายครั้งเพื่อป้องกันไม่ให้เจ้าหน้าที่สงสัยเพื่อนำไปบริโภคโดยตรงโดยยังไม่ถึงขั้นมีขบวนการนำมาจำหน่ายอย่างเป็นร่ำเป็นสัน